ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Singapore Trip #2】 สิงคโปร์ อีกแล่นนนน ~~~ ตอนที่ 3 เริ่มต้นกับการเดินทางด้วยรถสาธารณะ


บทความนี้ เราจะมาพูดถึงการเดินทางในสิงคโปร์กันค่ะ
|''''|''''|''''|
'-O------=O-°



การเดินทางในสิงคโปร์นั้น เป็นที่ทราบกันดีว่า รถไฟฟ้าค่อนข้างครอบคลุมพื้นที่ท่องเที่ยวอยู่แล้ว
การเดินทางโดยรถสาธารณะทั้งรถไฟฟ้าและรถเมล์นั้นรวดเร็วและสะดวกสบายกว่าบ้านเรา


หัวข้อนี้จะมาแนะนำวิธีการเดินทางโดยรถเมล์ค่ะ
ปล. เนื่องจากเพิ่งคิดจะมาแนะนำวิธีการเดินทางทีหลัง เลยไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมา ขออนุญาตเอารูปจากแหล่งอื่นมาลงนะคะ ต้องขอโทษด้วยค่ะ  m(_ _)m


ครั้งที่แล้วการเดินทางเรา 99% เป็นรถไฟฟ้าค่ะ
เนื่องจากพักแถว Outram Park
ห่าง MRT Outram Park (สายสีเขียว + ม่วง) ประมาณ 200 เมตร
ซึ่งครอบคลุมที่เที่ยวหลักๆ แล้วค่ะ มีนั่งรถเมล์ 2 ครั้ง ตอนไปเมอร์ไลอ้อน กับ สะพาน Henderson


การเดินทางด้วยรถไฟฟ้านั้น ขอแนะนำเว็บหลักๆ เลยคือ


 SMRT 

http://www.smrt.com.sg/Trains/NetworkMap.aspx


เราสามารถเลือกจุดเริ่มต้น และจุดสิ้นสุด ของรถไฟฟ้าที่เราจะไปได้เลย
แผนที่จากเว็บ smrt.com.sg


เราสามารถย่อขยายแผนที่ได้
เอาเมาส์คลิกเลือกแผนที่เพื่อกำหนดจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดที่ต้องการ
ระบบจะคำนวณเส้นทาง สถานีที่ต้องเปลี่ยนสาย เวลา และราคาสำหรับการจ่ายเงินด้วยวิธีต่างๆ ไว้ค่ะ

ตัวอย่าง เส้นทางจาก Kallang ไป Bayfront (ตึกเรือ)


นอกจากนี้ เรายังสามารถดูรายละเอียดของรถไฟฟ้าแต่ละสถานีได้ด้วย ว่าแต่ละทางออกนั้นเชื่อมต่อกับสถานที่ไหนบ้าง จะได้ออกถูกทาง


 Ez-link + NETS FlashPay 

เราใช้บัตร Ez-link และ NETS FlashPay ในการเดินทางค่ะ หายืมจากเพื่อนๆ เอา

☜(˚▽˚)☞ บัตร Ez-link นั้นคงรู้ดีอยู่แล้ว เหมือนบัตร bts / mrt แบบเติมเงินบ้านเราค่ะ
สามารถจ่ายค่ารถสาธารณะได้เกือบหมด (ไม่แน่ใจว่ามีอะไรจ่ายไม่ได้บ้าง) รวมทั้งค่ารถ monorail เข้าเกาะ sentosa ด้วย
☜(˚▽˚)☞ ส่วน NETS FlashPay นั้น คล้ายกับบัตรสมาร์ทเพิร์สค่ะ ใช้จ่ายค่ารถได้เหมือน Ez-link รวมถึง monorail ไปเกาะ sentosa ด้วย
แล้วยังชำระค่าสินค้า/บริการได้ตามซุปเปอร์หรือร้านค้าที่มีสัญลักษณ์ NETS FlashPay ด้วย
แต่เพื่อความชัวร์ ถามร้านก่อนค่ะ ว่ารับไหม เพราะบางที่มีสัญลักษณ์ แต่ไม่รับ (เช่น Starbucks ในสนามบิน)
☜(˚▽˚)☞ การเติมเงิน
มีตู้ให้เติมหลายอย่างนะคะ แต่หลักๆ เราเติมที่สถานี Changi ค่ะ ทุกสถานีจะมีตู้เติมเงินนี่อยู่แล้ว
วิธีการใช้งาน ติดตามได้จากเว็บนี้ค่ะ
http://www.singaporefanclub.com/index.php?topic=593.0


การนั่งรถไฟฟ้านั้นสะดวกจริงๆ ค่ะ ไม่ต้องกังวลว่าจะหลงด้วย
มีป้ายบอกสถานที่กำลังจะถึงให้เรียบร้อย
แต่ข้อเสียของมันคือ พอเราลงสถานีไปแล้ว เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า เราต้องเดินอีกไกลเท่าไหร่กว่าจะถึงจุดขึ้นรถไฟฟ้า
หรือกรณีเปลี่ยนสายรถนี่ บางทีในแผนที่บอกว่าเป็นจะเปลี่ยนสายรถไฟฟ้า
เอาเข้าจริงๆ เดินไกลเป็นกิโลเลยค่ะ กว่าจะไปถึงอีกสถานีนึง เหนื่อยมาก


ส่วนครั้งนี้พักไกลค่ะ แถวเกลัง
รถไฟฟ้าที่ใกล้สุด เป็นสายสีเขียวชื่อ Kallang แต่เราใช้สถานี Aljunied เป็นหลักแทนค่ะ
เพราะถนนแถวนั้นเป็น วันเวย์ ถ้าลง Kallang ต้องเดินไกล แต่ลง Aljunied ต่อรถเมล์
ถึงป้ายรถเมล์แถวหน้าที่พักเลย

แผนที่โรงแรม ป้ายรถเมล์ และรถไฟฟ้า จาก Google Map


เวลาไปต่างประเทศ หรือต่างจังหวัด หลายคนคงจะหวั่นๆ กับการนั่งรถเมล์พอสมควร
แต่ขอบอกว่าเรานั่งรถเมล์ที่สิงคโปร์แล้วชอบมากกกกกกกก สะดวกสุด


เริ่มต้นจากการหาข้อมูลสายรถเมล์ค่ะ
สิ่งที่เราต้องรู้คือ เราจะขึ้นจากป้ายไหน และจะลงป้ายไหน
เว็บที่ใช้บ่อยๆ ก็มี
ดูแผนที่ ขอเส้นทาง ดูสายรถเมล์ ดูระยะทาง Google Map

รายละเอียดป้ายรถเมล์จาก Google Map


 ดูข้อมูลรถไฟฟ้า 
http://www.smrt.com.sg/Trains/NetworkMap.aspx
ตามที่บรรยายมาก่อนหน้านี้แล้ว


 ดูสายรถเมล์ ป้ายที่ผ่าน และคำนวณค่าโดยสาร 
http://www.mytransport.sg/content/mytransport/home/commuting/busservices.html#Fare_Calculator


MyTransport


 ดูแผนที่และตำแหน่งของสถานที่แบบละเอียด 
หาเส้นทางได้ด้วยนะคะ
แต่เราเอาไว้ดูว่าต้องออกประตูไหนถ้ามาจาก MRT
http://www.streetdirectory.com/asia_travel/travel/travel_id_5904/travel_site_2393/

Street Directory


 ดูตารางรถเมล์ 
ว่าแต่ละสายให้บริการกี่โมงถึงกี่โมง ผ่านสถานีไหนบ้าง ระยะเวลาในการรอประมาณกี่นาที
http://www.transitlink.com.sg/eservice/eguide/service_idx.php

Transitlink


 หาเส้นทาง 
อันนี้เราดันไม่ค่อยได้ใช้ ทั้งๆ ที่ชาวบ้านต่างก็แนะนำ
http://gothere.sg


ซึ่งเว็บเหล่านี้ส่วนใหญ่ สามารถหาเส้นทางให้ได้อยู่แล้วค่ะ
เลือกใช้ได้ตามชอบเลย


♤ เวลาดูแผนที่ใน Google และเลือกสายรถเมล์
ข้อควรระวังคือ ต้องดูด้วยว่ารถวิ่งทางไหน เพราะส่วนใหญ่เป็นวันเวย์ ควรเช็คหลายๆ เว็บ
และสายรถเมล์ที่ Google บอกนั้น ยังเชื่อถือไม่ได้ค่ะ เพราะไม่ได้อัพเดท


ข้อมูลป้ายรถเมล์จะประกอบด้วย หมายเลข และ ชื่อ ค่ะ (หมายเลขสำคัญกว่า)


 การเส้นทางและสายรถเมล์ คำนวณค่าโดยสาร 
แนะนำเว็บ www.mytransport.sg ใช้บ่อยมาก

เป็นเหมือนศูนย์กลางการคมนาคมของสิงคโปร์เลย
เราสามารถวางแผนการเดินทางได้จากเว็บนี้

แนะนำคร่าวๆ นะคะ

หน้าตาของเว็บ Fare Calculate

/人 ⌒ ‿‿ ⌒ 人\
Fare Type เป็นประเภทผู้โดยสารค่ะ เช่น เด็ก ผู้ใหญ่ คนชรา(ที่เป็นชาวสิงคโปร์)
Mode of Transport ประเภทรถโดยสารค่ะ เช่น Bus หรือ MRT/LRT
Bus Service No. กรณีเลือก Bus ก็จะขึ้นให้ใส่หมายเลขรถค่ะ
Direction เป็นทางรถเมล์ (ประมาณว่าขาไป หรือ ขากลับ)
Boarding at ป้ายรถเมล์ต้นทาง
Alighting at ป้ายรถเมล์ปลายทาง

ซึ่งเมนูเหล่านี้จะค่อยๆ ปรากฎขึ้นมาเมื่อเราเลือกข้อมูลจากบนลงล่างมาเรื่อยๆ ค่ะ


/人 ⌒ ‿‿ ⌒ 人\
► ก่อนอื่นเราต้องเลือกประเภทผู้โดยสารก่อน (เด็ก ผู้ใหญ่)
► ตามด้วยประเภทรถ (รถไฟฟ้า รถเมล์)
► จากนั้นเลือกสายรถค่ะ (คือสายที่ได้จากเว็บที่แนะนำไปก่อนหน้านั้นค่ะ)
► เลือกเส้นทาง
(เหมือนเลือกเส้นขาไปหรือขากลับแบบ ห้วยขวาง - สะพานพุทธ หรือ สะพานพุทธ - ห้วยขวาง )
อันนี้ถ้าไม่รู้ให้ลองเลือกอะไรไปก่อนก็ได้ค่ะ
►จากนั้นเลือกป้ายต้นทาง ข้อให้ดูหมายเลขป้ายเป็นหลักค่ะ เพราะชื่อสถานี/ป้าย บางทีก็ซ้ำกัน


/人 ⌒ ‿‿ ⌒ 人\
กรณีที่เราหาไม่เจอ แปลว่า เราเลือกเส้นทางผิด หรือ ว่ารถเมล์ไมได้วิ่งสายนี้จริงๆ ค่ะ
ถ้าลองสลับไปเลือกอีกเส้นนึง แล้วยังไม่เจออีก แปลว่าคุณถูกหลอก 555
รถเมล์ไม่ได้วิ่งผ่านป้ายนี้
ถ้าเลือกได้แล้ว ก็กด Add Trip to Journey


ระบบจะคำนวณราคาให้ค่ะ
ส่วนตัวเลือกก่อนหน้าก็ถูก reset

ค่าโดยสารที่ระบบคำนวณให้


นอกจากนี้ที่เริ่ดมากของระบบสาธารณะในสิงคโปร์คือ เค้าประสานงานกันหมด
กรณีที่เราต้องนั่งรถสองต่อหรือมากกว่านั้น


ให้กลับไปเลือกแบบวิธีข้างต้นอีกครั้งนึง
จะเป็นรถเมล์หรือรถไฟฟ้าก็ได้ค่ะ (ระบบรีเซ็ตค่าด้านบนให้แล้ว)
เสร็จแล้วกด Add Trip to Journey อีกครั้ง
ระบบจะคำนวณค่าใช้จ่ายจากสองเส้นทางรวมกัน
โดยเส้นทางนั้น ลดราคา ให้ด้วยค่ะ
ถ้าเลือกเส้นทางจนพอใจแล้วกด Compute Fare ค่ะ

ค่าโดยสารหลังกด Add Trip to Journey ครังที่ 2


อันนี้เป็นราคาจาก MRT Bugis ไป MRT Bayfront  แบบไปเที่ยวเดียว

ค่าโดยสารจาก MRT Bugis ไป MRT Bayfront ของ smrt.com.sg

ค่าโดยสารจาก MRT Bugis ไป MRT Bayfront ของ mytransport.sg


จะเห็นว่าราคาปกติคือ $0.92 แต่เป็นการเดินทางต่อเนื่องราคาเหลือแค่ $0.46


หมายความว่า
สมมติ เรานั่งจาก A --> B --> C
ปกติถ้าเราดูแยกกัน
A --> B เสีย 1 เหรียญ
B --> C เสีย 1 เหรียญ
ซึ่งเท่ากับ 2 เหรียญ แต่จริงๆ แล้ว A ไป B ไป C อาจจะเสียแค่ 1 เหรียญ


ซึ่งไม่จำเป็นว่าต้องเป็น A --> B --> C นะคะ
อาจจะเป็น
A --> B
เดินต๊อกแต๊กๆ
แล้วค่อย C --> D
แบบนี้ ก็ยังได้ส่วนลดค่ะ
ซึ่งเงื่อนไขส่วนลดนี่ เราไม่แน่ใจจริงๆ ว่าต้องมีการต่อรถภายในเวลาที่กำหนดหรือเปล่า


ตอนแรกเพื่อนเข้าใจว่า ป้ายเดียวไม่เสียตังค์
เราสันนิษฐานว่า ป้ายเดียวที่ว่า คือ เค้าคงจะมาจากป้ายอื่นแล้วต่อรถสายอื่นอีกที
ดังนั้นสายล่าสุดที่เค้าวิ่งเลยไม่เสียตังค์


แต่ยังไงก็ต้องแตะบัตร Ez-link นะคะ ไม่งั้นโดนปรับบบบบบบบ
(สิงคโปร์เป็นเมืองแห่งการปรับ)
ถ้าต้องการเลือกเส้นทางใหม่หมดเลย ก็กด New Journey ค่ะ


หลังจากวางแผนการเดินทางเรียบร้อยแล้ว
แต่พอถึงเวลาจริง มันอาจจะไม่เป็นไปตามแผนก็ได้ 555


 App บนมือถือ 

แนะนำแอ็ปเหล่านี้ค่ะ
เหล่า App ที่ใช้ในมือถือ

จากซ้ายไปขวา จากบนลงล่างนะคะ

 Drive
เอาไว้เชื่อมต่อกับ Google Drive ค่ะ
เพราะ Plan ต่างๆ เก็บไว้ในนั้น

 TripIt
เป็น App จัดการทริปที่ฉลาดมากตัวนึงค่ะ
เวลาปรินท์ออกมาก็หน้าตาสวยงามดีค่ะ อ่านง่าย
ถ้าการวางแผนทริปในมือถือทำได้ยุ่งยาก
เราสามารถใช้งานบนเว็บไซต์ได้ค่ะ เพียงแค่ใช้ ID เดียวกันก็สามารถซิงค์กันได้แล้ว

 SG Buses

หน้าแรก SG Buses


อันนี้เราใช้บ่อยค่ะ เวลาไม่แน่ใจว่าสายรถนี้ ป้ายนี้ จะผ่านที่ที่เราจะไปรึเปล่า
ถ้าเข้าเมนู Bus จะลิสต์หมายเลขรถเมล์ทั้งหมดขึ้นมา เราก็เลือกสายที่สนใจ
ก็จะเข้าไปหน้าเลือกเส้นทางค่ะ ต่อจากนั้นก็เป็นป้ายรถเมล์ที่รถสายนี้จะผ่าน
สามารถเก็บไว้เป็น Favorite ได้ด้วย
หรือเลือก Bus stop ก็จะแสดง หมายเลข+ชื่อของป้ายรถเมล์ที่ผ่านป้ายที่ไว้
สามารถหาเส้นทางได้ด้วยค่ะ

เลือกสายรถเมล์

เลือกเส้นทาง

เลือกป้ายรถเมล์ที่รถสายนั้นจะวิ่งผ่าน

เก็บไว้เป็น Favorite ได้ด้วย


 SingaporeMap
เป็น Offline Map ของสิงคโปร์เลย ข้อดีคือ โครตละเอียดอ่ะ
ส่วนใหญ่เราเอาไว้ดูว่า รถไฟฟ้านี้จะต้องขึ้นหรือลงประตูไหน
ดูสายรถเมล์ก็ได้ค่ะ

SingaporeMap

ดูป้ายรถเมล์จาก SingaporeMap

สายรถเมล์ทีผ่านป้ายที่เลือกไว้ใน SingaporeMap


 City2Go
สามารถโหลด Offline Map ของสิงคโปร์มาเก็บไว้ได้
มีข้อมูลพวกป้ายรถเมล์เหมือนกัน เอานิ้วจิ้มที่้ป้ายก็จะมีข้อมูลบอกมา
แต่เราว่าไม่ค่อยเสถียรและค้างบ่อย

แผนที่ใน City2Go


 Adobe Read
เอาไว้อ่านเอกสาร PDF ค่ะ
พอเราวางแผนเสร็จ เราจะ Save เป็น PDF
เราจะได้ไม่ต้องพกกระดาษไปค่ะ


ต่อไป มาดูป้ายรถเมล์สิงคโปร์กันดีกว่า

ป้ายรถเมล์

บอร์ดบริเวณป้ายรถเมล์ ขอบคุณภาพจาก Sayongkwan.exteen.com ค่ะ


เริ่ดมาก!!!!! b(≖‿‿≖b)
เริ่มจากป้ายบอกชื่อ จะมีหมายเลขป้ายชัดเจนมา
จากนั้นตามด้วยสายรถเมล์ที่จะจอดป้ายนี้


บริเวณป้ายจะมีบอร์ดเขียนรายละเอียดสายรถเมล์ที่ผ่านค่ะ
ว่า สายรถเมล์นั้นจะวิ่งผ่านป้ายรถเมล์ไหนอีกบ้าง
ทำให้เราสามารถเช็คความถูกต้องได้เลยว่าเราไปรถเมล์ถูกสาย
แต่บางป้ายก็ไม่มีบอร์ดนี้อยู่นะ เค้าจะทำป้ายเล็กๆ ติดรอบเสาเอา


การเดินทางด้วยรถเมล์นั้นสนุกมากค่ะ ヽ(´ー`)人(´∇`)
ยิ่งมี 2 ชั้น ก็วิ่งขึ้นข้างบนก่อนเลย
เราจะได้เห็นบ้านเมืองเค้าอย่างชัดเจน
ถ้ารถไฟฟ้า จะอยู่ใต้ดินเป็นส่วนใหญ่


รถเค้าจะสะอาดและวิ่งด้วยความเร็วจำกัดอยู่ค่ะ
แต่ไม่ต้องห่วง เพราะโดยส่วนใหญ๋แล้วไม่ค่อยเจอปัญหารถติด
รถมาถึงป้ายใช้เวลารอไม่เกิน 10 นาที (ตามที่ระบุในเว็บ)
แต่ส่วนใหญ่ 5 นาทีก็มาแล้วค่ะ


เราต้องแตะบัตรตรงด้านหน้า เวลาขึ้น และแตะบัตรลงตรงประตูด้านหลัง เวลาลง
รถเมล์ที่นี่ไม่มีกระเป๋ารถเมล์ค่ะ คนขับดูแลเอง
ใครขึ้นผิดประตู ใครไม่แตะบัตร เค้าดูเองหมดเลย


ภายในรถเหมือนรถเมโทรบ้านเราอ่ะ
บางคันคนเยอะ บางคันคนน้อย มียืนบ้าง แต่ไม่อึดอัดเท่าไหร่


มีปุ่มกดสำหรับลงป้าย เคยอ่านมาว่า รถเมล์ไม่จำเป็นต้องจอดทุกป้าย เราต้องกดเอง
แต่เวลาใกล้ถึงป้ายแล้ว เค้าจะขับแบบชะลอๆ ค่ะ
บนถนนจะมีเส้นเขียนไว้เลย ว่าเป็นทางที่รถเมล์จะเริ่มวิ่งเข้าป้าย
หน้าป้ายจะมีจุดจอดชัดเจน รถเมล์ต้องรับส่งในเส้นนี้นะ (แต่ก็ใช่จะเกินเส้นไม่ได้ แต่ไม่ไกลค่ะ เหมือนว่ามีรถเมล์จอดติดๆ กัน คนขับเลยตัดสินใจเปิดประตูก่อน แต่อยู่เขตป้ายรถเมล์แล้วนะ แค่ไม่อยู่ในกรอบ)


คนที่ขึ้นชั้น 2 ไม่ต้องกังวัลว่าจะลงมาไม่ทัน
พอเรากดปุ่มแล้ว ยืนรอหรือนั่งรถก็ได้
แต่พอรถจอด ให้ลุกขึ้น ค่อยๆ เดินลงไปชั้นล่าง
คนขับจะคอยดูผู้โดยสารจากกล้องวงจรปิดในรถค่ะ
ปกติที่เห็นรถชั้นเดียวมีกล้อง 2 ตัว ถ้ารถ 2 ชั้นก็จะมี 4 ตัว
เค้าจะรอจนกว่าไม่มีผู้โดยสารขึ้นหรือลงแล้ว ค่อยออกตัวค่ะ


เวลาในการนั่งรถ อันนี้กำหนดไม่ได้ค่ะ แค่กะประมาณๆ
ถ้า 1-5 ป้าย 10 นาที อะไรแบบนี้ อันนี้เป็นการประมาณการของเราเองนะคะ


เรานั่งจากป้ายหน้าโรงแรมไป HarbourFront (เพื่อไป Sentosa)
ใช้เวลาประมาณครึ่งชม.ค่ะ วันจันทร์ รถไม่ติดเลย ชอบมาก
(ปกตินั่งรถเมล์ไปทำงาน ระยะทาง 4 กิโล 6 ป้าย บางทีใช้เวลารอ + เดินทาง เกือบ 2 ชม.แน่ะ )


สรุปนะคะ
ทั้งรถเมล์และรถไฟฟ้า ล้วนสะดวกสบายพอๆ กันค่ะ ประยุกต์ใช้ให้เหมาะกับการเดินทาง
อย่างถ้าเราเห็นชัดๆ ว่าป้ายนี้อยู่ตรงหน้าสถานที่ที่เราจะไปแล้วไม่่ต้องต่อสายรถเมล์เยอะ ก็เลือกรถเมล์เลยค่ะ (อย่างนั่งจากที่พักไปลง HarbourFront ต่อเดียวถึงที่เลย)
เพราะกรณีต้องเปลี่ยนสายรถเมล์ ต้องเผื่อเวลารอรถด้วย ซึ่งความแน่นอนน้อยกว่ารถไฟฟ้า

 รถเมล์
- ข้อดี เห็นป้ายและจุดขึ้นรถชัดเจน สามารถกะระยะทางในการเดินเท้าไปที่ป้ายได้
- ข้อเสีย ไม่รู้เวลาที่แน่นอนที่รถจะมาถึง ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะถึงป้ายที่ต้องการจะลง อย่างวิธีเราใช้วิธีการนับป้าย และดูจุดสังเกตจาก Street view มาก่อน

 รถไฟฟ้า
- ข้อดี มีเวลามาถึงของรถไฟฟ้าบอกไว้อย่างชัดเจน รู้ได้ว่าตอนนี้จอดสถานีไหน และจะสถานีไหนต่อ (มีบอกไว้ต้้งแต่หน้าสถานีเลยค่ะ ก่อนลงบันไดเลื่อนมา จะได้รู้ว่า ถึงเวลาวิ่งแล้วหรือยัง)
- ข้อเสีย ไม่รู้ว่าต้องเดินอีกไกลแค่ไหนกว่าจะถึงชานชาลา และกรณีเป็น interchange station เราไม่รู้ว่าอีกสถานีนั้นอยู่ไกลแค่ไหน

รอบหน้าถ้าแวะมาสิงคโปร์อีก วางแผนว่าจะนั่งรถเมล์รอบสิงคโปร์ 555 (>‿◠)✌



╔══════════════════════ ೋღღೋ ══════════════════════╗

Link ที่เกี่ยวข้อง


╚══════════════════════ ೋღღೋ ══════════════════════╝

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : ประสบการณ์การซื้อยา Diamox ที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน

☞ ประสบการณ์ทำเควส "ตรวจสุขภาพ ศูนย์แพทย์พัฒนา" ☜

ประสบการณ์ยื่นขอวีซ่าจีน ด้วยตัวเอง <ก.ย 2561 & ส.ค 2562>