ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 บางกะเจ้า #1】 Bang Kachao @ First TIme ปั่น ปั่น ปั่น จักรยานกัน

สวัสดีวันอาทิตย์ที่สดใส ヽ(´ー`)人(´∇`)
สดใสเกินไปหน่อยนะ มีเมฆบ้างก็ได้

เมื่อคืนมีอีเวนท์โปร 0 บาทของแอร์เอเชีย
เลยต้องนั่งเฝ้าคอมตั้งแต่ตี 4 (สมาชิก Big สามารถจองได้ตั้งแต่ตอนตี 3)

จริงๆ ก็จะจองตอนตี 3 อ่ะแหละ นาฬิกาปลุกไปละ นอนต่อออออ
ฝัน ฝันว่าจองตั๋วเครื่องบินไม่ได้ Σ(||゚Д゚)
แค่นั้นแหละ ตื่นเลยจ้าาาาา ( ̄□ ̄;)

จองตั๋วไป คุยกะเพื่อนไป แป๊บๆ จากตี 4 ก็กลายเป็น 6 โมงเช้า
ชิบหายแล้ว วันนี้จะไปปั่นจักรยาน ที่ บางกะเจ้า
กะจะไปแต่เช้า จะได้ไม่ร้อน
นี่ 6 โมงแล้ว กว่าจะทำธุระเสร็จ พระอาทิตย์ก็แผลงฤทธิ์แล้วววว Σ(゚Д゚;≡;゚д゚)

ทำธุระเสร็จเกือบ 7 โมง
ทิ้งแมวไว้ในห้อง เพราะแม่งหนีไประเบียงห้องคนอื่น

จากรีวิว บางกะเจ้าสามารถไปถึงได้จากหลายเส้นทาง เท่าที่รู้ก็มี
1. ท่าเรือคลองเตย ข้างวัดคลองเตยนอก  ขึ้นที่ท่ากำนัลขาว
2. ท่าเรือข้าง ธ. กรุงเทพ สาขาพระราม 3 ขึ้นที่วัดบางกะเจ้านอก
3. ท่าเรือวัดบางนานอก ขึ้นที่วัดบางน้ำผึ้งนอก

*** ควรหารีวิวเองเพื่อความชัวร์

เท่าที่ดู ท่าเรือคลองเตยน่าจะใกล้เราที่สุด
ลง MRT คลองเตยแล้วต่อ รถ 47 ไปสุดสายที่ท่าเรือคลองเตยเลย

นั่งรถ MRT พระราม 9 ไป MRT คลองเตย 23 บาท
จากรีวิวบอกว่าออกประตู 2 โอเค ตามนั้น

ถึง MRT 7 โมงกว่า ออกมาข้างนอกปุ๊บ ที่นี่ที่ไหนฟระ
แหะๆ จริงๆ แล้วก็คุ้นเคยกะบรรยากาศนี้นะ
เพราะเคยเดินจากตรงนี้ไปท่าเรือคลองเตยมาแล้วววววว 555

รอบนี้ไม่ไหว ขายังปวดๆ อยู่เลย รอรถละกัน

จากประตูสอง มองไปทางขวา จะเห็นตึกลุมพินีเทาวเวอร์อยู่
เราต้องไปทางซ้าย
จะเจอป้ายรถเมล์
ไม่ต้องรอ มันไม่จอด ยืนรอมาเกือบครึ่งชม. (=_=)
โทรไปถามขสมก เค้าให้ไปรอแถวรร. พระหฤทัยคอนแวนต์ ตรงตลาดคลองเตย สราาาด (ノಠ益ಠ)ノ

ออกจากประตู 2 เดินต่อไปอีกจะเจอป้ายรถเมล์ มองเห็นประตู 1 อยู่ฝั่งตรงข้าม

ป้ายรถเมล์แบบนี้ ไม่ต้องยืนรอนะ มันไม่จอดดดด


ก็เดินเลยป้ายไปนิดนึงจะมีสะพานลอยอยู่ ให้ข้ามไปอีกฝั่ง (ฝั่งเดียวกับ MRT คลองเตยประตู 1)
แล้วเดินต่อไปข้างหน้าเรื่อยๆ (เดินย้อนไปทางศูนย์ประชุมสิริกิติ์)
ไปถึงสามแยก ให้ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามก่อน
แล้วเดินไปทางขวา
รออยู่ที่ป้ายรถเมล์แรก
เจอรถสาย 4 หรือ 47 ก็ขึ้นไปนั่งได้เลย เพราะท่ารถอยู่ที่ท่าเรือคลองเตยพอดี รถแดงค่ารถ 6.5 บาท

ป้ายรถเมล์ตรงตลาดคลองเตย มองเห็นตึก LOXLEY

ป้ายสำหรับรอรถ 47 และ 4

โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ รถเมล์จะขับผ่าน แต่อยู่ฝั่งตรงข้าม ก่อนจะเลี้ยวซ้ายไป


รถใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 15 นาที ก็มาถึงท่ารถ
รถส่งเราตรงแถว 7-11 ก่อนจะเข้าไปจอดในท่ารถ

ให้เราเดินทาง 7-11 ที่อยู่มุมถนน (มันมี 2 เซเว่น ให้เดินไป 7-11 ตรงมุมถนน)
จะเห็นประตูทางเข้าวัดคลองเตยนอก
เดินเข้าไป แล้วเดินเลียบกำแพงวัดไป สัก 200 เมตร ไม่ต้องเข้าวัดนะ
จะเห็นซุ้มประตูเขียนว่าท่าน้ำ เดินเข้าไปได้เลย

รถจะจอดส่งเราแถวนี้ ถ้าเดินต่อไปอีกนิดจะเป็นท่ารถ

เดินเข้าไปทางวัดคลองเตยนอก

ทางเข้าวัดคลองเตยนอก

เดินเลียบกำแพงวัดไปเรื่อยๆ

ทางเข้าท่าเรือ

เจอป้าขายตั๋วอยู่ทางขวามือ
ค่าเรือ 10 บาท เค้าจะให้ตั๋วมา 2 ใบ ยื่นให้คนขับเรือทั้งสองใบเลย

จ่ายเงินที่คนนี้ (เค้ากวักมือเรียกให้เรารีบไปขึ้นเรือ)

เรือที่พาเราไปส่งเป็นเรือหางยาวขนาดเล็ก
ไม่รอคนเต็ม ขึ้นปุ๊บออกได้ปั๊บ
เพราะเค้าขับวนไปวนมาระหว่างท่าเรือสองฝั่งอยู่แล้ว

ตอนไปถึงมีเรากับป้าอีกคนนึง
กลายเป็นเรือวีไอพีไปเลย มีนั่งแค่สองคน
เรือเล็ก และน้ำกระเด็นเข้ามาได้ง่าย นั่งข้างหน้าระวังหน่อย (^ ^;)

ป้าข้างหน้าคือคนที่ขึ้นเรือพร้อมเรา

ระวังน้ำสาดล่ะ


ป้าที่นั่งมาด้วย เป็นคนบางกะเจ้า
แกบ่นว่า ไม่รู้ทำไมคนชอบมา ส่วนตัวแกเองเบื่อแล้ว แกชอบตลาดน้ำวัดดอนหวายมากกว่า (∩▂∩)
ขุ่นป้าใจดี เวลาเราจะขึ้นลงเรือ แกจะเป็นคนคอยฉุดกระชากลากถูเราขึ้นมา ٩(ˊᗜˋ˚)
ปล. เรือต้องบริการตัวเองนะจ๊ะ ถ้าเทียบท่าแล้ว พาตัวเองขึ้นโป๊ะไปให้ได้ล่ะ

ในที่สุดก็มาถึงแล้ว ประมาณ 8 โมงกว่าๆ
ต่อไปหาจักรยาน
ก็ไม่ต้องทำอะไรมา ขึ้นฝั่งปุ๊บก็เจอร้านจักรยานแล้ว (゜o゜)
มีให้เลือกเยอะเลย แต่จักรยานค่อนข้างเก่าหน่อย มีใหม่ๆ อยู่ข้างใน เลือกได้ตามสบาย

มาถึงก็เจอร้านเช่าจักรยานเล

ตอนเช้าๆ จักรยานยังเหลือเยอะอยู่


ร้านเปิดตั้งแต่ 7.30-17.00 ค่าบริการ เหมือนว่าจะเหลือแค่เช่าทั้งวัน 100 บาทแล้วนะ
ให้เตรียมบัตรประชาชน หรือใบขับขี่ หรือพาสปอร์ตมา ไว้เป็นตัวประกัน ไม่งั้นต้องมัดจำ 1000 บาท
มีโซ่กับกุญแจให้สำหรับล็อครถ แล้วก็มีแผนที่ให้ ซึ่งเราไม่ได้ใช้อ่ะ มั่วทางตลอด

ได้จักรยานที่โอเคแล้ว (แต่ปั่นๆ ไปแล้วไม่โอเคเท่าไหร่)
ก็ออกเดินทางกันเลย

ราชรถสีชมพูเชียว เบรกไม่โอเคเท่าไหร่


ปั่นออกไปทางหลังร้าน เลี้ยวซ้าย (เลี้ยวขวาไม่ได้ เจอทางตัน เป็นวินมอไซต์)

ถนนที่ต้องปั่น เงาไม้เยอะดีจัง


ปั่นไปเรื่อยๆ สี่แยก ถ้าเลี้ยวเข้าไปจะเจอพิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย

จากข้อมูลบอกว่าที่นี่เปิด 10 โมง แต่คุณจนท. โบกรถบอกว่า วันนี้มีงานหลายงาน
ข้างในมีงานแต่ง มีงานจักรยาน ด้วย เลยเปิดเช้าหน่อย

ศาลาทางขวามือ ก่อนถึงสี่แยก

สี่แยกที่ทางซ้ายจะเป็นทางไปพิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย


อืมมมมม ยังไม่เข้าไปดีกว่า อันนี้เป็นตัวเลือก ปั่นไปหาตัวหลักก่อน
ดังนั้นแทนที่จะเลี้ยวซ้ายไป เราก็ปั่นตรงไป (มันมีป้ายบอก)

ปั่นไปเรื่อยๆ จะเจอซอย "ราษฎร์รังสรรค์ 14"
เลี้ยวเข้าไปทางซ้าย จะมีซุ้มประตูอันใหญ่ๆ และทางซ้ายมือมีป้าย "ศรีนครเขื่อนขันธ์"
เป็นอันว่าถึงแล้ว

ซอยราษฎร์รังสรรค์ 14

ประตูทางเข้าสวน

ป้ายสวนศรีนครเขื่อนขันธ์


ปั่นเข้าไปด้านใน
ด่านแรก เจอสะพานสูงก่อนเลย
ลากเอาค่ะ ไม่อยากออกแรง

สะพานสูง ก่อนเข้าไปในสวน สีเพื้ยน เพราะมือไปโดนตัวปรับค่าไวท์บาลานซ์


ไปถึงปุ๊บ ปั่นไปทางไหนดีฟระ
เอาน่ะ ทางไหนก็ได้

เริ่มแรก ปั่นไปทางซ้าย
เจอทางแยกทางขวา แต่เราตรงไป เจอทางตัน ( ̄□ ̄;)เป็นโรงเพาะชำอะไรสักอย่างนึง
ปั่นกลับทางเก่า แล้วเลี้ยวไปทางแยกตรงนั้น
จะเริ่มเจอทางแยกเยอะขึ้น ก็เลี้ยวเข้าแยกแรกที่เจอ ヽ(´ー`)┌  555

ลงจากสะพานจะมีทางแยก


ปั่นไปนิดนึง จะมีป้ายบอกว่าเราอยู่จุดไหน พร้อมกับแผนที่ของสวน
อ่อ โอเค จุดมุ่งหมายของเราอยู่ที่หอคอยดูนก
ก็พยายามเลือกทางที่ใกล้ที่สุด

ทางปั่นจักรยานในสวน

ใบไม้เต็มเลย


ทางเป็นลาดยาง บางจุดชำรุดนิดหน่อย
มีสะพานสูงๆ ที่ต้องข้ามอยู่หลายจุด เราเน้นลากอย่างเดียว

ข้ามสะพานนี้ไป เพราะมันใกล้กว่า

มีสะพานเป็นหย่อมๆ


ปั่นท่ามกลางต้นไม้รายล้อม ถึงแดดจะแรงแต่ก็ส่องมาถึงตัวเราได้นิดหน่อย
ปั่นๆ ไปก็เจอหอดูนก มีคนแวะเวียนมาตรงนี้หลายคนเลยทีเดียว
วันนี้มีงานปั่นจักรยาน คนเลยเยอะเป็นพิเศษ

ป้ายบอกตำแหน่ง

แผนที่

อันนี้เป็นป้ายกิจกรรมของนักปั่นที่เข้าร่วมงานวันนี้

หอคอยดูนก

วิวจากด้านบน

จักรยานของนักปั่นที่มาแวะที่นี่พอดี


จากหอดูนกก็ปั่นต่อไป กะจะปั่นให้รอบ
แต่พอปั่นไปสักพัก ทางลาดยางก็เปลียนเป็นลูกรัง
ชีวิตสโลไลฟ์เลยจ้าาาาา ก้นชาไปหมด  (╥﹏╥)
แถมเส้นทางตรงนี้ ยาวกว่าเส้นทางก่อนมาอีก
ปั่นไปเรื่อย ก็กลับไปยังเส้นทางเดิมก่อนจะมาหอดูนก แล้วก็ปั่นออกไปนอกสวน

มีป้ายบอกเส้นทางปั่นจักรยาน

มีจุดชมธรรมชาติเป็นแห่งๆ

ปั่นไปสักพัก ทางก็เริ่มกลมกลืนเข้ากับธรรมชาติ


จากตรงซุ้มทางเข้าสวน ให้เลี้ยวซ้าย แล้วปั่นตรงไปตามถนน
ไกลอยู่เหมือนกันกว่าจะถึงตลาดน้ำ
ปั่นไปตามถนน "ราษฎร์รังสรรค์" จะกระทั่งออกถนน "เพชรหึงษ์"
แต่คือ ปั่นตรงไปเรื่อยๆ ไม่ต้องเลี้ยวเข้าซอยไหน

ตอนออกมาจากประตูสวน จะเจอป้ายนี้
ที่บอกว่าวัดบางน้ำผึ้งใน ให้ไปทางขวา คือ มันเข้าทางเดียวกับพิพิธภัณฑ์ปลากัดได้
แต่เราวิ่งไปถนนเพชรหึงษ์เพราะคนให้เช่าจักรยานแนะนำมา


จนกระทั่ง เจอสามแยก แบบที่เราต้องเลือกซ้ายกับขวา (ด้านหน้าเป็นศาลารอรถ)
ให้เราเลี้ยวขวานะ จะเจอป้ายซอย "เพชรหึงษ์ 33" มั้ง
ก็ให้เราตรงไปทางนี้เรื่อย เพราะตลาดน้ำอยู่ "เพชรหึงษ์ 26"

เจอป้ายนี้ บ่งบอกว่า อีกนิดนึงจะออกถนนเพชรหึงษ์แล้ว

เจอสามแยกด้านหน้า

ฝั่งตรงข้ามเป็นศาลารอรถ


จากตรงนี้ก็ปั่นไปเรื่อยๆ ไม่ไกลมาก แต่ทางมันเป็นถนนใหญ่หน่อย ไม่มีร่มเงาเลย
ทางซ้ายมีร้านอาหาร ครัวนายก
ตรงไปจะเจอทางแยกใหญ่หน่อย
มีป้ายซอย "เพชรหึงษ์ 26" ทางซ้ายมือ

ซอยเพชรหึงษ์ 26


หลังป้ายซอยจะเป็นศาลารอรถ กับวินมอไซต์
เลี้ยวซ้ายไปเลยจ้า

ถ้าเลี้ยวแล้ว ทางซ้ายจะเจอป้ายแบบนี้


ปั่นไปอีกสักพักนึง
จะเจอ คนโบกรถ อยู่กลางถนน
ด้านซ้ายเป็นประตูทางเข้า วัดบางน้ำผึ้งใน
ใกล้ถึงแล้ววววว
เลี้ยวซ้ายเข้าวัดไปเลยยยยย

ทางเข้าวัดบางน้ำผึ้งใน และตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง


ตรงไปเรื่อยๆ อีกนิดเดียว จะเจอทางเข้าตลาดน้ำ
ที่จอดรถยนต์มีจำกัด แต่มีจุดจอดที่ใกล้กับทางเข้าบ้านธูปหอม

ส่วนจักรยานก็มีที่จอดด้านในใกล้ห้องน้ำ
แถวนี้มีร้านเช่าจักรยานด้วยนะ ที่นี่มีหลายร้านมากอ่ะ ราคาเหมือนจะถูกกว่าด้วย ทั้งวัน 80

ที่จอดจักรยาน ปั่นไปในสุดเลย เด๋วคนข้างในบอกทาง

อยู่ใกล้กับซุ้มโค้กและห้องน้ำ


ขณะนี้เวลาเกือบ 11 นาฬิกา คือหิวมาก
เดินวนๆ ตลาดน้ำอยู่รอบนึง
ก็หาอะไรกิน

ตลาดคนยังโล่งๆ อยู่

โซนของกินคนเยอะมาก

ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง

เดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอทางเดินริมน้ำ

มีให้นมปลาคาร์ฟ

เลี้ยงอาหารแพะ
อย่าได้ปล่อยมันออกมาเชียวนะ มันแด๊กเราแน่ๆ


เที่ยงนิดๆ เริ่มออกเดินทางอีกครั้ง แดดเปรี้ยงมาก
วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส จริงจริ๊ง

เป้าหมายถัดไป บ้านธูปหอม
ให้ปั่นออกไปตรงประตูทางเข้าวัดนั่นแหละ
จากนั้นเลี้ยวซ้ายไป
ตรงไปเรื่อยๆ จะเจอทางแยกใหญ่ๆ ด้ายซ้ายมือ
มีป้ายเขียนว่า "วัดบางน้ำผึ้งนอก" กะ "ฟาร์มเห็ดช่างแดง"
เลี้ยวซ้าย เลยจ่ะ
ปั่นตรงไปเรือยๆ จะเจอสะพานสูง

ทางไปวัดบางน้ำผึ้งนอก


คือสะพานนี้ ทางซ้ายเป็นตลาดน้ำอ่ะแหละ เข้าตลาดน้ำได้อีกทางนึง
ปั่นไปอีกนิด ทางซ้ายมือ จะมีป้ายเล็กๆ เขียนว่า "หมู่บ้าน Otop เพื่อการท่องเที่ยว"

ป้ายไปบ้านธูปหอม

ทางเข้าบ้านธูปหอม


ไปอีกนิดเดียว จะเจอทางเข้าอยู่ทางขวา
แต่ทางเข้าเล็กนิดเดียวเอง
ถามคนขายของแถวนั้น เค้าบอกให้ปั่นจักรยานเข้าไปได้เลย

ทางแคบมาก


ก็โอเค เอาเข้าไป แต่ตอนแรกๆ จูงเข้าไป เพราะทางแคบมาก
จนรู้สึกว่า แม่งไกลอ่ะ เลยปั่นเอา
ถามว่ารถสวนได้มั้ย ตอบเลยว่าได้ เค้าปั่น/ขี่ กันช้าๆ เวลาจะสวนก็ชะลอๆ

ปั่น ไปเรื่อยๆ ก็รู้สึกว่า เมื่อไหร่จะถึงฟระ
มีป้ายอยู่เรื่อยๆ นะ แต่ไม่ถึงซะที

ทางหน้าตาแบบนี้ตลอดเส้นเลย

ถึงทางจะเล็ก แต่เงาไม้นั้นใหญ่มาก ปั่นเย็นๆ สบายๆ


จากป้ายบ้านธูปหอม เปลี่ยนเป็นป้าย Bangkok tree house
อ่าว แล้วบ้านธูปหอมชั้นไปทำตกไว้ตรงไหน

แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ ล่ะ นั่นก็เป็นจุดหมายเหมือนกัน ไปที่นั่นก่อนละกัน
Bangkok tree house กับ พบรัก จะอยู่ใกล้ๆ กัน
แต่ป้าย พบรัก จะใหญ่และชัดเจนกว่า ตามป้าย พบรัก ไปแทนก็ได้

ถึงแล้ว Bangkok Tree House


มาถึงแล้วก็เข้าไปถ่ายรูป
ก่อนจะไปสั่งอะไรเย็นๆ มากิน

ที่นี่เป็นร้านอาหารแล้วก็ที่พักด้วย
ที่พักแบบไปนอนบนดาดฟ้าได้ด้วย กรี๊ดดดด (/◕ヮ◕)/
ข้างๆ เป็นแม่น้ำ ที่มีเรือขนสินค้าจอดอยู่

เป็นจุดจัดกิจกรรมด้วย ตรงนี้เป็นที่จอดจักรยาน

Bangkok Tree House เป็นทั้งที่พักและร้านอาหาร

ที่พัก

วิว

วิวจากดาดฟ้าตรงร้านอาหาร


บรรยากาศเย็นๆ ดีนะ แต่แมลงตรงต้นไม้เยอะไปนิด
เข้าไปสั่ง Lime Mint มากิน
หน้าตาออกมาแบบ น้ำมะนาวใส่โนริสาหร่าย แต่อร่อยอ่าาาาาาาาา

ทำไมมีเตียงอยู่ตรงนี้

มองจากด้านล่าง

ทางไปศาลาริมน้ำ

ศาลาริมน้ำ

มองจากศาลาริมน้ำ


กินเสร็จ เตรียมตัวออกเดินทางต่อ
เจอป้ายบอกทาง
ถ้าจะไปบ้านธูปหอมต้องปั่นย้อนไป
ถ้าไปอีกทางจะเป็นถนนสีเขียว
เอาไงดี

ป้ายบอกทางหน้า Bangkok Tree 


เลยตามเลยละกัน
ไปทางถนนสีเขียว
ไม่รู้ทำไมชื่อนี้
ปั่นไปปั่นมา ก็เหมือนจะหลง ( ̄□ ̄;)

เส้นทางชมธรรมชาติ


จนเจอแกงค์จักรยานอีกแกงค์ ปั่นตามไป
ก็เจอถนนสีเขียว (น่าจะใช่นะ)
ก็มันทาสีเขียวนี่นา 555 ٩(ˊᗜˋ˚)و

เนี่ยแหละ ถนนสีเขียว


เค้าบอกว่าทางนี้ไปตลาดน้ำได้

โอเค ข้อดีของการมาวันที่เค้ามีกิจกรรมคือ
มีป้ายเยอะกว่าปกติ แต่มีทีมงานคอยประจำตามจุดต่างๆ คอยให้ข้อมูล

ปั่นกันริมน้ำ

อันนี้ถนนลายดอกสินะ


ปั่นไปเรื่อยๆ ก็มาออกตรงสะพานสูงๆ ก่อนทางเข้าบ้านธูปหอม
ใจจริงก็อยากไปบ้านธูปหอมนะ แต่เหนื่อยแล้วอ่าาาา
กลับดีกว่า

ปั่นกลับทางเดิม
ผ่านสวน "ศรีนครเขื่อนขันธ์"
แล้วก็เจอทางเข้า "พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย" อีกแล้ว
อืม ที่สุดท้ายแระ แวะหน่อยก็ได้

ข้างในมีที่จอดรถเยอะมาก
แต่จักรยานจอดได้แต่ข้างหน้านะ
และจุดแสดงปลากัดก็อยู่ด้านหน้า
ด้านในเค้าจัดงานแต่งอยู่

พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย

ทางเข้า

จอดได้แอดวานซ์มาก

ที่จอดรถเหลือเฟือ

พิพิธภัณฑ์อยู่ด้านหน้า

ปลากัด (เจ็บมะ)

มีโซนปลาน้ำจืด


เดินชมปลากัด สักพัก
ก็ได้เวลากลับจริงๆ แล้ว

ปั่นกลับไปที่ท่าเรือ คืนจักรยาน โซ่ และกุญแจ
ตอนกลับมาที่นี่ รถจักรยานหายไปเยอะมากกกก
ปล. แผนที่ไม่ได้เปิดเลยค่ะ เอามาพับรองล้อหน้า ไม่ให้หมุน อาศัยถามทางคนอื่นเอา

รถจักรยานหายไปหมดแล้ววว

จริงๆ ด้านในมีให้เลือกอีกเพียบ


ตอนนี้บ่าย 2 แล้ว
ตอนนั่งเรือกลับ ไม่ต้องซื้อตั๋ว
เอาเงิน 10 บาท จ่ายกับคนขับเรือได้เลย
อ้อ เวลาเรือมาเทียบท่า ต้องถามว่าไปท่าเรือคลองเตยรึเปล่าด้วยนะ
บางลำแค่มาส่ง แล้วไปเข้าคิว 

เรือแบบนี้แหละที่นั่งมา


เป็นอันจบการเดินทาง (^o^)丿 

บ๊ายบาย บางกะเจ้า

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : ประสบการณ์การซื้อยา Diamox ที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน

☞ ประสบการณ์ทำเควส "ตรวจสุขภาพ ศูนย์แพทย์พัฒนา" ☜

ประสบการณ์ยื่นขอวีซ่าจีน ด้วยตัวเอง <ก.ย 2561 & ส.ค 2562>