ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【เชียงใหม่】 ฤดูล่าเสือ 2018



ในที่สุดก็เข้าสู่ฤดูสีชมพูอีกครั้ง
และปีนี้พี่จะไม่พลาด 💪

จองตั๋วได้ช่วงปลายๆ มกราพอดี
ปีนี้ยอมจ่ายเพื่อบินบางกอกแอร์กันเลยทีเดียว
เสียไป 2200 โดยประมาณ 💲
ข้อดี ฟูลเซอร์วิส และมีเลาจ์

แต่ถามว่าจะบินอีกมั้ย ....  เอิ่ม .... ขอเน้นถูกๆ ดีกว่า 55 😅
ทริปนี้ให้น้องเป็นไกด์ขับรถนำเที่ยวเช่นเคย

ปล.รูปแต่งบ้างไม่แต่งบ้าง



Day 1 - 20 มกรา 2018



สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง

การเดินทางลำบางลำบนมาค่าาาา 😵
ถนนไม่ค่อยดีเท่าไหร่
แถมไกลด้วยยยย 😰
ออกเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ ประมาณเที่ยงๆ
กว่าจะไปถึงก็ประมาณบ่ายสามแระ 555 😅

สภาพอากาศก็ ..... ร้อนค่ะ ☀ ☀ ☀
ทิ้งขนเป็ดไว้ในรถ

วันเปิดทำการ : ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ : 06.00 - 18.00
ค่าเข้าคนละ 50 บาท

เอารถเข้าไปได้
จริงๆ มีรถนำเที่ยวรอบสวนนะ แต่ว่ากว่าจะมาแต่ละคัน ค่อนข้างนาน
ถ้าขับรถมาอยู่แล้ว ก็ขับเข้าไปเลย

เส้นทางเป็นวันเวย์
ก็หาจุดจอดรถแล้วเดินไปตามโซนต่างๆ

ภายในมีจุดให้แวะชมหลายจุด
แต่เนื่องจากกว่าเราจะมาถึงก็บ่ายแก่ๆ แล้ว
เลยเน้นไปโซนที่อยากไปเท่านั้นดีกว่า



เริ่มจาก
ช่วงต้นๆ ทางเข้า
จะมีแปลงเพาะพันธ์ุต้นพีชอยู่ (แต่เราว่าเหมือนต้นบ๊วยเลยอ่ะ)
ข้างทางมีต้นซากุระเรียงรายอยู่
อาจจะไม่ได้เยอะอย่างญี่ปุ่น แต่ซูมไปใกล้ๆ ก็สวยดี








ถัดจากนั้น ก็ขับรถไปยังจุดถัดไป เลยแปลงไผ่ไปหน่อยนึง
ตรงนี้จะเป็นจุดที่มีม้าให้ขี่ เสียค่าขี่ม้าถ่ายรูปครั้งละ 20 บาท
ใกล้ๆ มีต้นบ๊วยออกดอกเต็มต้น








ต่อไปเป็น สวน ๘๐
เป็นจุดจัดแสดงดอกไม้นานาพันธ์ มีสวนกุหลาบยุโรปด้วยนะ
แต่เราไม่เน้น เราจะดูซากุระ 55



แถวมีต้นซากุระใหญ่ๆ ไม่กี่ต้น
แต่มัน .... ฟูมากกกกกกกกกกกกกกกก 😍
นี่ซากุระหรือมะยม มาเป็นกระจุกๆ
ชอบตรงจุดนี้ที่สุด เสียเวลาถ่ายรูปไปนานอยู่





จุดสุดท้าย เป็น แปลงบ๊วย





จบแล้ว วันแรก
เออสั้นๆ ดี 555 👌



Day 2 - 21 มกรา 2018


วันนี้ออกจากตัวเมืองเช้าหน่อย ประมาณ 9 โมง
เพื่อไปยัง ขุนวาง 
(ตอนแรกกะว่าจะไม่ไปซ้ำที่เดิมนะเนี่ย แต่น้องไม่ยอมไปขุนช่างเคี่ยน มันฮาร์ดคอเกิน ขับย๊าาาก 😭)

การไปขุนวางใช้เส้นทางเดียวกับไปดอยอินทนนท์ แล้วค่อยแยกไปทางศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี
ถนนดี ขับไม่ลำบาก รถไม่เยอะเท่าไหร่
แต่ แต่ แต่ พอใกล้ถึงขุนวาง
รถเยอะชิ*หาย 😓

 


ถนน 2 เลน ไปๆ มาๆ กลายเป็น 3 เลน รถขากลับแทบจะขับไม่ได้
รถหลายคันก็จอดไว้ข้างทางแล้วเดินเท้าเข้าไป

เนื่องด้วยความไม่ยอมแพ้ของขุ่นน้อง
มันเลยขับไปจนสุดทางเลย
มีที่จอดค่าาาา ดีเลย เดินใกล้ 😆



ขุนวาง เข้าโดยไม่เสียค่าชม
ด้านหน้าจะมีตลาดขายอาหาร ผัก ผลไม้ ของแห้ง ฯลฯ

วันนี้คนเยอะมาก
ถ่ายรูปเชิดหน้าตลอด 😣
ถ้าเจอแต่รูปถ่ายมุมสูง ก็จงอย่าได้แปลกใจไป

พญาเสือโคร่งบานเยอะกว่าปีที่แล้ว
และดูเหมือนว่าเค้ากำลังเพาะพันธ์ุเพิ่มด้วย
คาดว่าอีกไม่กี่ปี คงบานฟูฟ่อง เหมือนภูลมโล

ทางไปยังอุโมงค์พญาเสือโคร่ง
จุดนี้คนจะแออัดเป็นพิเศษ
เป็นทางขึ้นลงเนินค่อนข้างชัน



ระหว่างทางก็จะมองเห็นดงพญาเสือโคร่งเป็นพักๆ





มาถึงบริเวณสามแยก
เป็นจุดที่คนหนาแน่นที่สุดอีกจุดนึง
ตรงนี้พญาเสือโคร่งจะเยอะมาก




จากสามแยก
เลี้ยวซ้ายเดินขึ้นเนินไปเรื่อยๆ ไปจนถึงศาลา





บริเวณศาลามีห้องน้ำสะอาดนะ เข้าได้ สะอาดกว่าข้างล่างอีก
พอเริ่มเลยศาลานี้ไป
คนก็จะน้อยลงเรื่อยๆ แต่ต้นพญาเสือโคร่งที่ฟูๆ ก็จะน้อยลงเช่นกัน





เดินกลับมาที่ศาลา
จริงๆ ตรงนี้เป็นทางแยกนะ
ตอนกลับลงมา
ถ้าเลี้ยวขวา จะเป็นห้องน้ำ แล้วก็จะมีอุโมงค์พญาเสือโคร่งเล็กๆ อยู่ แต่มันยังไม่ฟู คนเลยไม่ค่อยสนใจ



เดินกลับลงไปด้านล่าง (เลยสามแยกที่คนชุกชุม แล้วตรงต่อไปอีก)
พอเดินไปสักพัก คนก็จะน้อยลงเช่นกัน
ตรงโซนนี้เหมือนพญาเสือโคร่งเพิ่งปลูกไม่นาน ต้นไม่สูง แล้วก็ไม่ฟู
ด้านนึงเป็นพญาเสือโคร่ง อีกด้านจะเป็นต้นสน



เรามาที่นี่เพื่อมาหาต้นพญาเสือโคร่งคู่ใจของเรา
เป็นต้นที่ออกดอกฟูมาก แต่ไม่ได้อยู่ริมทาง
ต้องเดินเข้าไปด้านใน

ต้นนี้มันจะเตี้ยๆ หน่อย แต่ดอกแน่นมาก

เราแค่ชี้นะ ไม่ได้จับกิ่งมัน (แต่นิ้วโดนดอกรึเปล่าหว่า >/\<)




ข้อเสียของแถวนี้คือ ผึ้งเยอะอ่ะ เป็นอุปสรรคต่อการถ่ายรูปเป็นอย่างยิ่ง



ถ่ายรูปจนหนำใจแล้วก็เดินกลับ ระหว่างทางก็ยังคงหามุมถ่ายรูปไปเรื่อยๆ







จากนั้น ก็เดินทางกลับ
ระหว่างทาง ก็ไม่ลืมแวะ รร. บ้านขุนกลาง
พญาเสือโคร่งเบ่งบานเต็มข้างทาง
แต่ว่า มันอยูริมถนน ถ่ายรูปยากไปหน่อย



และที่สุดท้ายของทริปนี้ก็คือ อุทยานราชพฤกษ์



ค่าเข้าแพงอ่ะ 100 แน่ะ 😥
มีรถรางให้ชมรอบๆ ฟรี รอบละประมาณ 15 นาที
เค้าจะจอดให้ลงตามจุดต่างๆ
จะลงก็ได้ ไม่ลงก็ได้
มีจักรยานให้เช่า 60 บาท/ครั้ง/คัน/คน





เลือกนั่งรถวนรอบสวนเพราะเวลามีน้อย



เราลงที่จุดไฮไลต์ที่เดียว
คือ หอคำหลวง



มาถึงเกือบ 5 โมงเย็น
จนท. บอกว่าตอน 5 โมง เป็นช่วงที่พระอาทิตย์จะสาดแสง ลอดมาทางประตูหอคำหลวงพอดี
ก็พยายามถ่ายรูปให้ได้อ่ะนะ แต่ถ่ายไม่เป็นอ่ะ คือ เค้าต้องถ่ายได้รูปแบบไหนหรอ 555






พอใกล้หกโมงเย็น น้องก็บอกให้กลับ เพราะเดี๋ยวรถจะติดเอา
มาเที่ยวได้ชม.เดียว ยังไม่คุ้มค่าเข้าเล้ยยยย 😖



หมดแระ ทริปนี้ ดูไม่ค่อยมีไรเนอะ เน้นชิวๆ มีเป้าหมายชัดเจน 555 😉
 (แต่คนขับบอกว่า ไม่ชิวเฟ้ยยยยย)

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : ประสบการณ์การซื้อยา Diamox ที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน

☞ ประสบการณ์ทำเควส "ตรวจสุขภาพ ศูนย์แพทย์พัฒนา" ☜

ประสบการณ์ยื่นขอวีซ่าจีน ด้วยตัวเอง <ก.ย 2561 & ส.ค 2562>