ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 13 รีวิว รถไฟระหว่างเมือง Moscow-St.Petersburg


รถไฟระหว่างเมือง Moscow - St. Petersburg 🚆






เนื่องจากในทริปนี้
เราต้องเดินทางไปมาระหว่าง Moscow และ St.Petersburg
และก็ได้เลือกเดินทางโดยรถไฟกลางคืน
สาเหตุเพราะ ......อยากลอง 😅55555


รถไฟที่วิ่งระหว่างสองเมืองนี้ จริงๆ มีหลายแบบมาก

- DOUBLE-DECKER
เป็นรถไฟ 2 ชั้น มีเฉพาะโบกี้ชั้น 2
แบ่งเป็นห้องๆ แต่ละห้อง มี เตียง 2 ชั้น 2 เตียง
มีตู้เสบียง ห้องน้ำ ในแต่ละโบกี้
แต่ละโบกี้มีประตูกั้นแน่นหนา

- EXPRESS
มีตั้งแต่โบกี้ชั้น 2 ไปจนถึง VIP First Class

GRAND EXPRESS
มีแต่โบกี้ VIP แต่แบ่งเป็นหลายระดับ Premium, Grand, Imperial และ Grand Deluxe

- MEGAPOLIS
มีเฉพาะโบกี้ชั้น 1 และ ชั้น 2

- RED ARROW
มีตั้งแต่โบกี้ชั้น 2 ไปจนถึง VIP First Class
เป็นรถที่ค่อนข้างใหม่ และคนนิยมนั่ง

- SAPSAN
รถไฟความเร็วสูง ใช้เวลาเดินทางเพียง 4 ชม.
มีตั้งแต่โบกี้ชั้น 2 ไปจนถึง Premium First Class

- SMENA-A.BETANKUR
มีตั้งแต่โบกี้ชั้น 3 ไปจนถึงชั้น 1

- TWO CAPITALS
มีตั้งแต่โบกี้ชั้น 3 ไปจนถึงชั้น 1

ราคาแตกต่างกันตามประเภทของรถไฟและโบกี้
รถไฟตู้นอนตั้งแต่ชั้น 2 ไป จะเป็นห้องแยกๆ สามารถล็อคประตูได้

รายละเอียด รถไฟแบบต่างๆ
https://www.expresstorussia.com/moscow-to-st-petersburg-train.html

ซึ่งรถไฟที่คนนิยมใช้บริการ ได้แก่

► รถไฟด่วน High Speed Trains: Sapsan 
ราคาประมาณ 3000 - หลายหมื่น RUB
ใช้เวลาเดินทาง 3.5 - 4 ชม.
มี 8-10 รอบต่อวัน เป็นรอบกลางวัน
เร็วสุด สะดวกสุด ราคาสูงสุด

► รถไฟกลางคืน : Red Arrow หรือ Double-Decker
ราคาประมาณ 1800 - หลายหมื่น RUB
ใช้เวลาเดินทาง 8-10 ชม.
มีหลายรอบต่อวัน (ส่วนใหญ่จะอยู่ช่วงเช้า และกลางคืน)
รถไฟวิ่งช้า แต่ไม่เสียเวลาท่องเที่ยว และช่วยประหยัดค่ารร.

สำหรับเรา เลือกรถไฟกลางคืน Double-Decker
เพราะราคาไม่แพง และเวลาโอเค (ออกจากสถานีดึกๆ แล้วไปถึงปลายทางเช้าๆ)



การจองตั๋วรถไฟ


เราเดินทางไปกลับ Moscow - St.Petersburg โดยรถไฟตู้นอน
จองผ่าน http://pass.rzd.ru/main-pass/public/en
มีทั้งหน้าที่เป็นภาษารัสเซีย และภาษาอังกฤษ (แต่ยังไม่สมบูรณ์เท่าไหร่)
แนะนำให้เปิดหน้าภาษาอังกฤษกับ Chrome จะได้แปลส่วนที่เหลือให้

ต้องสมัครสมาชิกไว้ก่อน จองล่วงหน้าได้ 60 วัน
(ถ้าเอเจนซี่จะจองล่วงหน้าได้นานกว่านี้ แต่ราคาแพงกว่า 2 เท่า)

สำหรับการจอง
1 Order สามารถจองได้สูงสุด 4 เตียง
ใช้ข้อมูล Passport ในการจอง
1 Passport สามารถจองได้มากกว่า 1 เตียง

ขบวนที่เราเลือก เป็น Double-Decker train
คือ รถไฟชั้น 2 แบบ 2 ชั้น 😕
ด้านในแต่ละโบกี้ จะแบ่งห้องเป็นห้องๆ
ภาษารัสเซียเรียกว่า Купе อ่านว่า คูเป้
แต่ในเว็บจะใช้คำว่า Compartment

ห้องนึง มีเตียง 2 ชั้น จำนวน 2 เตียง (ห้องนึงมีทั้งหมด 4 เตียง)
ประตูห้องสามารถล็อคได้

มีตู้เสบียง ตู้กดน้ำ และห้องน้ำในแต่ละโบกี้


ขั้นตอนการจองตั๋ว

1. เข้าเว็บไซต์ http://pass.rzd.ru/main-pass/public/en
2. เปลี่ยนภาษา
3. Login
4. เลือกต้นทาง ปลายทาง วันที่ และช่วงเวลา


5. เลือกขบวนรถไฟ ที่ต้องการ
เราเลือกขบวน 006A ไว้

(อัพเดท 28/02/2018) หน้าตาเว็บตอนนี้เปลี่ยนไปเป็นแบบนี้แล้วค่ะ
ดูจากภาพด้านล่างนะคะ
ทางขวาคือประเภทโบกี้กับราคาเริ่มต้นให้
กดไปที่ประเภทโบกี้ มันจะโชว์ข้อมูลของแต่ละโบกี้ให้ค่ะ



ตัวอย่างขบวน 006A




6. กดดูรายละเอียดแต่ละโบกี้
คอลัมน์ที่ 1 จะบอก หมายเลขโบกี้
คอลัมน์ที่ 2 จะประเภท รวมทั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และบริการที่มีในโบกี้นั้น
คอลัมน์ที่ 3 จะบอกประเภทของที่นั่ง/เตียง เช่น เตียงบน เตียงล่าง
คอลัมน์ที่ 4 จะบอกจำนวนที่เหลือ ของที่นั่ง/เตียง ประเภทนั้นๆ
คอลัมน์ที่ 5 จะบอกราคาของที่นั่ง/เตียง ประเภทนั้นๆ



(อัพเดท 28/02/2018) หน้าตาเว็บ ส่วนที่บอกข้อมูลของโบกี้ที่เลือก




7. คลิกเลือกโบกี้ที่ต้องการ จะมีผังที่นั่งแสดงด้านล่าง
ถ้าต้องการจองที่นั่งในโบกี้นี้ ก็กดปุ่มด้านล่าง
ถ้าต้องการดูผังที่นั่งโบกี้อื่น ก็แค่คลิกไปที่หมายเลขโบกี้อื่นๆ



(อัพเดท 28/02/2018) ผังที่นั่งของโบกี้ที่เลือก 


จากรูปด้านบน
Второй этаж = ชั้นที่ 2 (ชั้นบน) [ที่นั่งหมายเลข 81-104]
Первый этаж = ชั้นที่ 1 (ชั้นล่าง) [ที่นั่งหมายเลข 1-26]




8. กดปุ่มใหญ่ๆ ด้านล่างของผังที่นั่ง เพื่อไปยังขั้นตอนถัดไป

ซึ่งหลังจากจากกดถ้ายังไม่ได้ Login ระบบจะบังคับให้เรา Login (แล้วเหมือนจะกลับไปหน้าแรกใหม่)
ถ้า Login แล้ว ระบบจะนำไปยัง หน้าสำหรับกรอกข้อมูลผู้โดยสาร
ข้อมูลหลักคือ
- ชื่อ นามสกุล ต้องตรงกับ Passport
- Floor เนี่ย Google Chrome แปลให้ จริงๆ มันคือ เพศ นะ
- วันเกิด
- Rate คือราคาที่จะจ่าย ให้เลือก Full
- Document Type ให้เลือก Foreign Documents
- Document Number กรอก เลข Passport ไป
- Citizenship คือ ชื่อประเทศ

ด้านล่างจะเป็นพวก Add-on ต่างๆ ปกติจะเลือกไว้เป็น default ให้เราติ๊กออกซะ
หากต้องการเพิ่มผู้โดยสารก็กด Add Passenger
ก็จะมีช่องกรอกข้อมูลแบบรูปด้านล่างนี้ โผล่ขึ้นมาอีก 1 ชุด
หากต้องการลบผู้โดยสาร ก็ไปที่ข้อูลผู้โดยสารคนนั้น
แล้ว กด Remove the passenger ข้างๆ ลำดับผู้โดยสาร



9. เลื่อนลงมาด้านล่างจะมีข้อมูล ผังที่นั่งในโบกี้ที่เลือก
เราสามารถให้ระบบทำการสุ่มที่นั่งตาม Range ที่เราระบุ
นอกจากนี้ยังเลือกได้ด้วยว่า อยากได้เตียงบนหรือล่างเท่านั้น หรือแบบอยู่ในห้องเดียวกันเท่านั้น

เลือกเสร็จก็กด Reserve Seat


10. หากการจองไม่มีปัญหา ระบบจะแสดงข้อมูลผู้โดยสาร พร้อมที่นั่ง/เตียง รวมทั้งรายละเอียดรถไฟ ให้ดูอีกครั้ง จากนั้นก็กด Payment จ่ายเงิน

ใน E-Ticket จะเห็นว่าชื่อสถานีรถไฟมันแปลกๆ
จริงๆ คือ เป็นชื่อเก่าของสถานีรถไฟใน Moscow และ St. Petersburg

ตัวอย่าง E-Ticket ด้านล่าง สำหรับรถไฟจาก St. Petersburg ไป Moscow
e-ticket



การแลกตั๋วจริง

หลังจอง เราจะได้ E-Ticket ที่มีรายละเอียดสำหรับแต่ละที่นั่ง (หรือเตียง) พร้อมบาร์โค้ด
ซึ่งเขียนประมาณว่า สามารถเอาบาร์โค้ดไปใช้ได้เลย

แต่เราเลือกเอาไปปรินท์ตั๋วจริงที่เครื่องออกตั๋วอัตโนมัติเพื่อความชัวร์ 😊
เครื่องออกตั๋วมีอยู่ในสถานีรถไฟ
เวลาจะปรินท์ ก็เลือกรายละเอียดของ 1 คนใน Order นั้นๆ มา

กรอก Passport กับเลข E-Ticket ลงไป
เช็ครายละเอียดของผู้โดยสารทั้งหมดใน Order นั้น
แล้วสั่งปรินท์

จะได้ตั๋วของทุกคนใน Order นั้นมาเลย ไม่ต้องแยกปรินท์ทีละคน

ตั๋วรถไฟของจริง


สถานีรถไฟ Leningradskiy (Ленинградский Вокзал)


อยู่ติดกับสถานีเมโทร Komsolmoskaya (Комсомольская) สายสีน้ำตาล และสีแดง
ตอนขึ้นมาจากสถานีเมโทร จะงงๆ หน่อย
เพราะมันออกได้หลายทาง แล้วมีสถานีรถไฟถึง 3 สถานีอยู่ที่นั่น

เราออกทางด้านหลังเลย
เจออนุสาวรีย์ กับเคาน์เตอร์อะไรไม่รู้เต็มไปหมด






มองเห็นสถานี  Yaroslavskiy  (Ярославский вокзал)
ซึ่งสามารถนั่งรถไฟไปเมืองซากอสได้



ถ้างง ให้พยายามเดินออกมาด้านหน้า ตรงถนนใหญ่เลย
แล้วมองกลับไปที่สถานีรถไฟ
ด้านบนของสถานี จะมีป้ายชื่อเป็นภาษารัสเซีย





มองหาชือ Ленинградский Вокзал
ซึ่งถ้าหันหน้าเข้าสถานีรถไฟ จะอยู่ทางซ้ายมือ

เข้าไปด้านใน จะเจอตรวจกระเป๋าก่อน
เดินเข้าไปอีกนิด
จะเจอห้องประชาสัมพันธ์ทางซ้าย และห้องฝากกระเป๋าสำหรับ Long Distance และห้องอาบน้ำทางขวา




บริเวณนั้นจะมีตู้อัตโนมัติอยู่
เป็นตู้ที่สามารถเปลี่ยน e-ticket เป็นตั๋วจริงได้
พอเปลี่ยนแล้ว e-ticket จะไม่สามารถใช้งานได้อีก
ออกตั๋วจริงได้เพียงครั้งเดียว 
ดั้งนั้นห้ามทำหาย
นอกจากนี้ ตั๋วยังเอาไปใช้เข้าห้องน้ำในสถานีได้ฟรีด้วย



มีป้ายบอกรายละเอียดขบวนรถไฟและชานชาลาที่จอด อยู่ด้านบน ก่อนจะเข้าไปด้านใน



ถัดจากโซนนี้ไป
จะเจอพื้นที่รอรถไฟ
ข้างในมีร้านค้ามากมาย มี 2 ชั้น




ห้องน้ำจะต้องเดินลงไปชั้นล่าง (เป็นห้องใต้ดิน)
ซึ่งจะมีห้องฝากกระเป๋าสำหรับการเดินทางระยะสั้น แบบเป้นล็อคเกอร์ และแบบฝากจนท.

ด้านในสุดของห้องนี้ จะมีหน้าจอแสดงขบวนรถไฟต่างๆ ที่กำลังจะมาถึง หรือกำลังจอดอยู่ที่ชานชาลา
สามารถเช็คชานชาลาได้จากจอนี้
จากโซนขายอาหาร มองย้อนกลับไป
จากโซนขายอาหาร มองย้อนกลับไป

ถัดจากจอ จะเป็นที่สแกนกระเป๋าขาเข้า
เราไม่ตองสนใจ เพราะเราเป็นขาออก

ตอนรู้หมายเลขชานชาลาแล้ว ให้อ้อมเครื่องนี้ไป
แล้วมองหาเลขชานชาลาของตนเองได้เลย


ปล. โบกี้ 12 เวลาอยู่ Moscow มันต้องเดินไกลมาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาก 😥 เกือบสุดขบวนเลย



สถานีรถไฟ Moskovskiy (Московский вокзал)

อยู่ติดกับสถานีรถไฟ Mayakovskaya สายสีเขียว และ Ploschad Vosstaniya สายสีแดง
พื้นทีค่อนข้างเล็ก
มีร้านค้าร้านอาหาร

ปล. ภาพนี้ เป็นตอนที่เรามาจาก Moscow







รถไฟ 006A และ รถไฟ 005A


เราเลือกจองรถไฟ
ด้วยเวลาออกเดินทาง โบกี้ หมายเลขเตียง ทั้งขาไปและขากลับเหมือนเดิมทุกอย่าง 😏
คือ ออกเดินทาง 22.50 โบกี้ 12 เตียง 81-92
จองไป 12 เตียง (แต่นอน 9 คนนะ) ทั้งไปและกลับ
ราคาไป-กลับ คนละประมาณ 3900 บาท


เมื่อรถไฟมาจอดที่ชานชาลา
ให้สังเกตที่ป้ายไฟวิ่งๆ ข้างโบกี้
ตัวเลขที่อยู่ข้างรถไม่ใช่เลขขบวน
อย่างของเราขบวน 005A/006A ก็ไม่สนใจขบวนที่แปะว่า 001 นี้เลย 555 เกือบตกรถไฟ






ไปถึงรถไฟ ให้เดินไปยังโบกี้ที่เราจองไว้
จะมีคิวตรวจตั๋ว
ให้ยื่นตั๋วพร้อม Passport ให้จนท.

พอตรวจตั๋วเสร็จ
จนท. อาจจะเก็บตั๋วไว้ หรือไม่งั้นก็จะมาตามเก็บทีหลัง
ให้เก็บตั๋วไว้ในที่ที่หยิบง่ายๆ



เข้าไปด้านในรถไฟ
จะผ่านห้องเสบียง เป็นครัวเล็กๆ ใกล้ๆ กันมีพวกตู้หยอดเหรียญด้วย





อันนี้เหมือนห้องจนท. มากกว่า





ตู้เสบียง








ผ่านห้องนี้ไป จะเจอทางลงไปชั้นล่าง กับทางขึ้นชั้นบน





ห้องเราอยู่ชั้นบน ต้องเดินขึ้นบันไปไปประมาณ 10 ขั้น
ระหว่างทางจะเจอตู้กดน้ำ มีน้ำร้อน น้ำเย็นให้บริการฟรี







พอไปถึงชั้นบน จะเจอทางเดินแคบๆ พอลากกระเป๋าได้
มองหาห้องของตัวเอง




ห้องนอน
จะเป็นห้องแคบมากๆ
มีเตียง 4 เตียง
เตียงล่างสามารถพับได้ แบบ 45 องศา
ถ้าจะใช้ ต้องกดลงมาแรงๆ




มีผ้าปู ปลอกหมอน ผ้าห่มให้
แต่ต้องจัดการปูเอง
ฝุ่นค่อนข้างเยอะ ถึงเยอะมาก  😓

แนะนำให้ค่อยๆ ดึงผ้าพวกนี้ลงมา (เค้าจะวางไว้เตียงบน)
แล้วเอาไปสะบัดๆ นอกห้องก่อน



ดังนั้น ควรรีบเข้ามาในรถไฟให้ไว เพื่อจัดเองห้องตัวเองให้เรียบร้อย
เนื่องจากพื้นที่ในรถไฟแคบมาก
พอคนมาเยอะๆ ทุกคนก็จะต้องมาจัดแจงห้องตัวเอง
แล้วทั้งในห้อง ทั้งทางเดิน ก็จะมีคนมาออๆ กันอยู่

ระหว่างหัวนอน ของเตียงล่าง ทั้งสองฝั่ง
มีโต๊ะ บนโต๊ะก็จะมีชุดกิ๊ฟเซตให้ เป็นน้ำขวดเล็กๆ ผ้าเช็ดมือ และก็ลูกอม
มีขนมแจกให้คนละชิ้น


ไม่อร่อย คอนเฟิร์ม!


บันไดทางขึ้นเตียงบนสามารถพับได้

มีปลั๊กข้างหัวนอน และมีโคมไฟบนหัวนอน
เตียงน่าจะยาวประมาณ 180 ซม. ถ้าคนตัวสูงอาจจะลำบากหน่อย



พื้นที่ในห้องมีน้อยมาก
ที่วางกระเป๋า จะมีเฉพาะใต้เตียงชั้นล่าง (เพราะเป็นพื้นที่โล่ง)
กับตรงกลางห้อง



ดังนั้น คนนอนชั้นล่างจะได้เปรียบหน่อย (ราคาก็จะแพงกว่า)
เหมือนมีอภิสิทธิ์ ในพื้นที่ว่างใต้เตียงของตัวเอง

หากนำกระเป๋าลากใบใหญ่ไป จะทุลักทะเลมาก
เอาจริงๆ พื้นที่ว่างๆ ไม่สามารถกางกระเป๋าใบใหญ่ได้นะ
ต้องเอาวางบนเตียงแล้วกาง

ถ้าต้องนอนร่วมกับคนอื่น
ควรแยกของที่จะใช้ตอนอยู่บนรถไฟออกมาต่างหากเลย
จะได้ไม่ต้องเปิดกระเป๋าใบใหญ่ให้ลำบาก

ห้องสามารถล็อคได้
ประตูด้านในเป็นกระจกบานใหญ่

นอกจากนี้ก็มีเครื่องใช้อื่นๆ ให้







บนหัวเตียงก็มีหน้าต่างบานใหญ่มองเห็นวิว นอกขบวนรถได้




ห้องน้ำ
จะอยู่ท้ายโบกี้
มีทั้งหมด 3 ห้อง

ชั้นสอง มองย้อนกลับไปทางที่ขึ้นมา ทางลงไปห้องน้ำอยู่ตรงข้ามกันเลย

บันไดทางลง


ค่อนข้างสะอาด 
แต่มีกลิ่นหน่อย

มีอ่างล่างหน้า
ชักโครก
ทิชชู
ราวแขวนผ้าให้



แปรงสีฟันกะยาสีฟ้นนั่น พกไปเองนะ เค้าไม่ได้มีไว้บริการ


พื้นที่ไม่กว้างเท่าไหร่ แต่ก็โอเค
ควรรีบใช้ห้องน้ำก่อนที่จะเละ (ลุ้นกะทัวร์จีนมาก ดีว่าเจอแต่โบกี้ฝรั่ง)

ตอนเช้าก็ควรรีบตื่นมาก่อน
ใช้ก่อน 6 โมงยิ่งดี
เพราะพอ 6 โมงปุ๊บ เจ้าหน้าที่จะเข้ามาปลุกผู้โดยสารทุกห้อง แล้วคืนตั๋วรถไฟให้
เพราะไม่งั้นคิวจะยาว


ถังขยะอยู่ตรงข้ามห้องน้ำ



สุดในสุดของโบกี้ จะเป็นประตูไปสู่โบกี้อื่น
แต่ดูท่าทางมันแน่นหนาเหลือเกิน เลยไม่กล้าเสี่ยงเดินข้ามไปโบกี้อื่น


ทางเดินห้องชั้นล่าง


พอรถไฟวิ่งได้สักพัก
จนท. จะมาตรวจตามห้องต่างๆ
เพื่อเช็คความถูกต้องว่า เราอยู่ถูกห้อง ถูกเตียงหรือเปล่า
ก็อาจจะงงๆ กับกลุ่มเราหน่อย
เพราะเรามา 9 คน แต่จองไว้ 3 ห้อง 12 เตียง
แล้วแต่ละคน ไม่ได้นอนตามเลขที่จองไว้หรอก
เพราะเพิ่งมาจัดกันใหม่ ตอนขึ้นรถไฟ

นอนหลับสบายดี เตียงแข็งไปหน่อย
บรรยากาศเงียบสงบ (คึกคักแค่ตอนหลังขึ้นรถไฟ กับตอนก่อนจะลงรถไฟ)



รอบหน้า ทรานไซบีเรีย มั้ย 😜




ตอนอื่นๆ

ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 1 บทนำ
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 2 ตะลุยมอสโคว เยือนถิ่นปูติน (Day 1)
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 3 ทัวร์เมโทร ชมห้องสมบัติ สัมผัสโบสถ์สีลูกกวาด (Day 2)
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 4 ตะลอนทัวร์ St.Petersburg (Day 3)
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 5 วังน้ำพุ Peterhof (Day 4)
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 6 Catherine Palace (Day 5)
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 7 Winter Palace (Day 6)
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 8 Sergiev Posad (Day 7)
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 9 ตะลอนไปทั่วมอสโคว (Day 8)
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 10 รีวิว Kremlin Lights Hostel (Кремлевские Огни) @Moscow
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 11 รีวิว Baby Lemonade Hostel @St. Petersburg
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 12 รีวิว Fasol Hostel (Хостел Фасоль) @Moscow
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 13 รีวิว รถไฟระหว่างเมือง Moscow-St.Petersburg

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : ประสบการณ์การซื้อยา Diamox ที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน

☞ ประสบการณ์ทำเควส "ตรวจสุขภาพ ศูนย์แพทย์พัฒนา" ☜

มาเลือกกระเป๋าเดินทาง กันเถอะ