ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Malaysia #1】 ทริปโหด - คาเมรอน มะละกา กัวลาลัมเปอร์ ปุตราจายา ตอนที่ 4 มะละกา



 ลัลล้า เมืองมรดกโลก 4 พ.ค. 


วันนี้ก็ต้องตื่นแต่เช้าอีกแล้ว \ (•◡•) /

หน้าต่าง ยามเช้า


ต้องเดินทางไปท่ารถ TBS โดยรถไฟฟ้า LRT
เริ่มต้นจากเดินขึ้นสะพานลอยที่เชื่อมฝั่งโรงแรม กะ ท่ารถ Puduraya
จากนั้นเดินลัดเข้าไปในท่า ซึ่งจะมีทางเชื่อมไปจนถึงสถานีรถไฟ

เดินออกมาหน้าโรงแรม ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ Puduraya

ข้ามสะพานลอยไป Puduraya
ท่ารถ Puduraya ช่างเงียบเหงา

เดินลัด Puduraya เพื่อไปยังสถานี LRT

เดินบนทางเชื่อมระหว่าง Puduraya กับ LRT ทางขวามือมีทางขึ้นไปโรงเรียนด้วยนะ


ในที่สุดก็ได้ใช้รถไฟฟ้าของมาเลย์แล้วววว (─‿‿─)
เริ่มจากมองหาตู้จำหน่ายเหรียญ ไปซื้อเหรียญก่อน
วิธีการก็ง่ายๆ คล้ายๆ กับ รถไฟฟ้าใต้ดิน บ้านเรา
ก่อนอื่นเลย เปลี่ยนภาษา ถึงจะไม่เก่งภาษาอังกฤษเท่าไหร่ แต่ ณ จุดนี้ ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาเดียวที่เรารู้จัก °◡°

ตู้จำหน่ายเหรียญโดยสาร


จากนั้นก็เลือกสถานีที่เราจะไปลง
ซึ่งพอเรากดสถานีปุ๊บ มันจะแสดงภาพขยายมาให้เรากดอีกครั้ง
(คาดว่าครั้งแรกน่าจะเลือกเส้นทาง ครั้งที่สองเลือกสถานี)

หน้าจอคล้าย MRT บ้านเรา


จากนั้นเครื่องจะแสดงชื่อสถานี กะราคาเหรียญโดยสารมาให้
กดเครื่องหมาย + เพื่อเพิ่มจำนวนเหรียญ
จากนั้นก็หยอดเหรียญ หรือ สอดแบงก์ลงไป
โดยเครื่องจะกำหนดว่า เราสามารถใช้เหรียญหรือแบงก์อะไรได้บ้าง
ขึ้นอยู่กับราคาเหรียญโดยสาร ณ ขณะนั้น
(คาดว่า เพื่อไม่ให้เราใส่แบงก์ใหญ่ลงไป ทั้งที่จ่ายค่าเหรียญนิดเดียว เครื่องนี้อาจจะทอนเหรียญได้อย่างเดียวด้วย เด๋วได้ตังค์เหรียญทอนมาเป็นกำๆ 555)

เครื่องคำนวณราคามาให้


ค่าโดยสารจาก Plaza Rakyat -> BTS ราคา 1.7 RM
เหรียญโดยสาร บเงินทอนก็จะร่วงลงมาในช่องด้านล่าง (นี่มัน MRT บ้านเราชัดๆ)

เมื่อได้เหรียญแล้ว ก็นำไปแปะบนเครื่องกั้น (เหมือน MRT บ้านเราจริงๆ)
ประตูจะมีสองขนาด
ขนาดปกติ เหมาะสำหรับคนทั่วไปผ่าน และขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับคนมีสัมภาระผ่าน

พอเดินเข้าไป จะมีทางขึ้นซ้าย กะ ขวา สำหรับ เส้นทาง Ampang และ Sentul Timur
เราต้องไปเส้น Ampang 
ซึ่งเส้น Ampang ก็ยังมีรถไฟฟ้า 2 สายวิ่ง
คือสายที่ไป Ampang กับ Sri Petalling ซึ่งจะอยู่ชานชาลาเดียวกัน
เราต้องไป Sri Petalling จำชื่อนี้ไว้ดีๆ
ว่าแล้วก็เดินขึ้นไปรอรถไฟบนชานชาลา

มองหาป้ายหน้าตาแบบนี้


จะมีป้ายตัวอักษรวิ่งๆ เขียนบอกว่า ขบวนนี้ไปทางไหน (Ampang หรือ Sri Petalling)
และอีกกี่นาทีรถไฟจะมา
รอประมาณ 5 นาที รถไฟก็มา หน้ารถเขียนว่า Sri Petalling โอเค คันนี้แหละ ใช่เลย ข้อมูลถูกต้อง

รถไฟมาแล้ว ให้ดูข้อความหน้ารถด้วย เพราะชานชาลานี้ มีรถไฟสองเส้นทาง
สังเกตป้ายที่ชานชาลา จะบอกว่า เวลากี่โมง รถไฟสายไหนจะมา


นั่งรถไปสัก 15 นาทีก็ถึง สถานี BTS (เป็นชื่อย่อนะ)
ออกจากสถานีก็จะมีป้ายบอกทางไป ท่ารถ TBS (ชื่อมันช่างน่าสับสนดีแท้ - -')
เดินไม่ไกลเท่าไหร่ ไม่เกิน 5 นาทีก็ถึง

มาถึงสนานี BTS แล้ว

เดินขึ้นไปชั้นบน จะมีทางเชื่อมไป TBS

วิวตรงทางเชื่อม

ยามเช้าที่ BTS


ภายในท่ารถใหม่มาก ใหญ่มาก ดูเป็นระบบ ทันสมัยสุดๆ
มีป้ายบอกด้วยว่ารถเข้าเทียบท่า หรือออกไปหรือยัง เหมือนในสนามบินเลย

ภายใน TBS

ภายใน TBS

ป้ายบอกรายละเอียด TBS

ป้ายรวม บอกเวลารถมาถึงของแต่ละประตู


เราเลือกเคาน์เตอร์ขายตั๋ว อันไหนก็ได้ที่เขียนว่ามีรถไปมะละกา

ช่องจำหน่ายตัว


สรุป ได้รถไปมะละการอบ 8 โมง ราคา 10 RM ของ MetroBus
เหลือเวลาอีก 20 นาที

หน้าตาตั๋วไปมะละกา


ข้างๆ มีมินิมาร์ทอยู่
เลยไปซื้อของกิน เนื่องจากทุกคนยังไม่ได้สัมผัสอาหารเช้าเลย
เราได้ซาลาเปาไส้คายามาอันนึง หวานมากกกกกก

ซื้อของเสร็จ จวนจะ 8 โมงละ
เลยลงไปรอที่ชานชาลาด้านล่าง



ตรงทางลงจะมีเจ้าหน้าที่คอยเช็คตั๋วก่อนลงไปด้วย

ชานชาลากว้างขวางดี มีที่นั่งเยอะ
แต่ละเกท จะมีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่
บนเกทก็จะเขียนด้วยว่ารถคันไหนจะจอด มาสายหรือเปล่า ออกไปหรือยัง
รถเราอยู่เกต 8

Arrival Hall/Departure Hall
เกต 8

ป้ายจะมีจอบอกรายละเอียดรถที่จะมาเทียบท่าที่เกตนี้


ซึ่งรถเราเลทไป 10 นาที
ปกติรถมาเลย์ โครตตรงเวลาอ่ะ

เมื่อรถมาก็ต่อคิวเช็คตั๋วขึ้นรถ ได้นั่งหลังสุดเลย 55
ก็ตอนไปซื้อตั๋ว รถมันเกือบจะเต็มอยู่แล้ว

ภายในรถ MetroBus



มะละกา เมืองมรดกโลก


รถใช้เวลาวิ่ง 2 ชั่วโมง
ไปถึง Melaka Sentral 10 โมง

รถ MetroBus


ก็เดินหา Local Bus Terminal ที่จะเข้าเมืองมะละกา
ภายใน Melaka Sentral ก็คล้ายๆ ขนส่งบ้านเรา จะร้านค้า ร้านอาหารขายอยู่ตลอดทาง
สภาพตรงเคาน์เตอร์ขายตั๋ว ดีกว่า Puduraya หน่อยนึง ตรงที่สะอาด และไม่มีกลิ่นบุหรี่
ไม่ได้ซื้อตั๋วกลับ เพราะกลัวเป็นแบบเมื่อวาน

Melaka Sentral

มองหาป้ายบอกทางไปท่ารถ

ภายใน Melaka Sentral


ไปถึงโซน Local Bus Terminal ก็ตรงไปหาป้ายจอดรถที่มีหน้าตาเหมือนที่เห็นในรีวิว
เพื่อนั่งรถ Panorama สีแดง สาย 17 เข้าเมือง

ป้ายรถสาย 17

รถเมล์สาย 17


รอรถอยู่สักพัก นานเหมือนกัน เกือบ 10 นาที (หรือเกิน?)
พอรถมา ก็ไม่รอช้า ต้องถามคนขับก่อน ว่าไป Dutch Square ไหม
คนขับบอก โอเค คนละ 1.5 RM
ก็จ่ายกับคนขับแล้วขึ้นมาบนรถเลย

จ่ายตังค์ที่คนขับ ก่อนขึ้นรถ

ตั๋วรถเมล์เข้าในตัวเมืองมะละกา


รถวิ่งผ่านตัวเมือง แวะส่งตามป้ายรถเมล์ต่างๆ
ใช้เวลา 15 นาที ถึง Dutch Square

รถวิ่งผ่านถนนเส้นนี้


พอผ่านย่านตึกแดงๆ หน้าตามันคุ้นเคยมาก
จนคนขับไม่ต้องบอก เราก็สามารถลงได้ถูกที่
มาถึงที่นี่ 11 โมงนิดๆ แดดกำลังเปรี้ยงเลย
ถ่ายรูปสักพัก ก็เดินหาของกิน

เดินหาของกิน ฝั่งตรงข้าม Dutch Square

ร้านรวงเต็มไปหมด แดดร้อนมาก

ร้านนี้ดูดี แต่อาหารแพง

มีจักรยานให้เช่าด้วย

ซึ่งร้านรีวิวทั้งหลาย คิวยาวทุกเจ้าเลยจ้าาาา
สุดท้ายเลยเลือกอะไรก็ได้ที่ดูน่ากิน 555

ร้านที่เลือก


ร้านที่เราเข้าไปกินข้าวกลางวัน ต่อไปจะมีพิพิธภัณฑ์เปิดด้วย

ต้องไปสั่งอาหารเองที่เคาน์เตอร์

อาหารที่สั่งมา


เที่ยงกว่าๆ ก็เริ่มเดินทัวร์
อากาศร้อนมากกกกกกกกก

ตอนแรกจะเช่าจักรยาน
แต่ทางมันเป็น One way และจุดเที่ยวก็อยู่ใกล้ๆ กัน
แถมร้านเช่าจักรยาน ก็คือโรงแรมที่เราไม่ได้มาพักนั่นแหละ
เลยเดินเที่ยวเอาละกัน แล้วมัสยิดอีกอันค่อยเหมา Taxi หรือนั่งเรือเอา

เริ่มจากตรงฝั่งตรงข้าม Dutch Square เดินเลียบคลองขึ้นไปเรื่อยๆ
เจอที่พักทีเราจะได้มาพัก(ถ้าไม่ตกรถเมื่อวาน)ด้วย รู้สึกช้ำใจนิดๆ

Dutch Square มองจากฝั่งตรงข้าม

ลัดเลาะริมน้ำ

ลัดเลาะริมน้ำ

ลัดเลาะริมน้ำ

ที่พักที่เราจองไว้ แต่อดมาพัก

ลัดเลาะริมน้ำ

ลัดเลาะริมน้ำ

กำแพงบ้านมีสีสัน

ลัดเลาะริมน้ำ

ลัดเลาะริมน้ำ

ที่พักที่เราควรจะได้มาพัก เห็นกี่ทีก็ช้ำใจ


เดินไปได้สักพัก เมฆเริ่มครึ้มๆ ยังไม่ได้ไปโซนท่องเที่ยวเลย มัวแต่เดินริมคลอง
เลยข้ามสะพานแล้วเดินย้อนกลับมา
โซนท่องเที่ยวนั้น ไม่ใหญ่มาก
ใช้เวลาเดินไม่นานก็ทั่วแล้ว

เจอโบสถ์ St. Francis Xavier ถ่ายรูปสิ ถ่ายรูป *^▽^*)
ถ่ายไปถ่ายมา ทำไมรูปถ่ายมันเอียงๆ ฟระ ⊙_☉ ไหนลงใหม่ซิ ขอเส้นนำสายตาด้วย
อืมมมมมม เหยยยยยยยยย รูปไม่ได้เอียงหรอก ... โบสถ์มันเอียงต่างหาก

โบสถ์ St. Francis Xavier


ต่อไปก็เดินหาป้าย Welcome to Melaka ใกล้ๆ โบสถ์นั่นแหละ
ดูจากตำแหน่งแล้ว ก็ตึกแดงๆ เยื้องๆ กันนี่หนา
ไหนอ่ะ ป้าย ಠ_ಠ ?
พิจารณาอีกที ตรงนั้น มีกระป๋องสีอยู่ และสีตึกก็ดูใหม๊ใหม่
โอ้! อนิจจา Welcome to Melaka โดนทาสีทับไปแล้ววววววววววว กรี๊ดดดดมาก Σ (゚Д゚;)
(เขียนให้ใหม่ตอนนี้เลยได้มั๊ยเพ่!!!!! ︵ヽ(`Д´)ノ︵)

ป้าย Welcome to Melaka


จากนั้นก็เดินตรงโซนอาคารสีแดงไปเรื่อยๆ จนถึง Dutch Square
ถ่ายรูปกะโบสถ์ น้ำพุ และหอนาฬิกา

Dutch Square

ทุกอย่างเป็นสีแดงเกือบหมด

โบสถ์สีแดง

หอนาฬิกา

น้ำพุวิคตอเรีย


จากนั้นก็เดินลัดตรงพิพิธภัณฑ์ The Stadthuys ตรงข้ามกับหอนาฬิกา เพื่อไปโบสถ์เซนต์พอล
เส้นทางก็ ... เดินตามคนข้างหน้าไป 5555

เดินลัดไปโบสถ์เซนต์พอล

หันหลังกลับไปดูวิวก่อนจะเดินขึ้นเนินไป

ทางขึ้นโบสถ์


ด้านหลังพิพิธภัณฑ์ จะมีเนินใหญ่ๆ ลูกนึง เดินขึ้นไป จะเจอ โบสถ์เซนต์พอล
เป็นโบสถ์เก่าๆ มีร้านขายของที่ระลึกอยู่แถวๆ นั้นด้วย
จากเนินนี้ สามารถมองเห็นวิวเมืองมะละกาได้จนถึงทะเลเลย
มีลมเย็นๆ พัดผ่าน หลังจากที่ตรากตรำแดดเปรี้ยงมานาน ค่อยสดชื่นนนน หน่อย

โบสถ์เซนต์พอล

ข้างในมีขายของที่ระลึก มีคนโยนเหรียญลงไปในบ่อข้างในด้วย เห็นแว๊บๆ มีแบงค์ 20 ของไทยอยู่

ผู้พิทักษ์เหรียญ


จากตรงโบสถ์จะมีทางลงอีกทาง ลงมาทางด้านหลัง จะเจอ ป้อม A' Famosa

วิวจากโบสถ์เซนต์พอล

ลงไปอีกฝั่ง เพื่อไปป้อม A' Famosa


ข้างในมีนักดนตรีเปิดหมวกด้วย
ให้อารมณ์เหมือนโบสถ์จมน้ำที่สังขละเลย  (・_・;)
คือ มีคนเข้าไปทำกิจกรรมต่างๆ ข้างใน ทั้งๆ ที่เป็นสถานที่ที่ควรอนุรักษ์
(ของสังขละ นี่เข้าไปทำอาหาร หลับนอน ยังกะเป็นบ้านตัวเองเลย เห็นแล้วเศร้าใจนิดๆ แต่ได้ข่าวว่าตอนนี้ทางการสั่งห้ามแล้ว)

ป้อม A' Fanisa


จากนั้นก็เดินย้อนกลับไปเพื่อไป ดู Maritime Museum
ดูด้านนอกเฉยๆ นะไม่ได้เข้าไป
ตอนแรกค้นมาว่าค่าเข้า 3 RM แต่ไปดูหน้าเคาน์เตอร์ มันขึ้นราคาแล้ว เหมือนจะ 6 RM
เลยไม่เข้า

Maritime Museum


เดินต่อไปตามป้ายเพื่อไปดู Melaka River Cruise
ค่าโดยสารคนละ 15 RM+ แต่ขณะนั้น มันบ่าย 2 กว่าๆ แล้ว
ล่องเรือน่าจะใช้เวลาประมาณ 45 นาที อากาศก็ร้อน
เลยตัดสินใจ เดินกลับขึ้นไป Dutch Square เพื่อหา Taxi ไป Masjid Selat ดีกว่า

เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว Melaka River Cruise

เดินเลาะริมแม่น้ำกลับมา Dutch Square จะสิ่งก่อสร้างคล้ายกังหันน้ำ

กลับมาที่ Dutch Square


เข้าไปเจรจากะ Taxi แบบงงๆ
ตอนแรกก็กลัวๆ ว่าเค้าจะโกงอะไรหรือเปล่า เหมือนเพื่อนเคยอ่านเจอ
แถมประชาสัมพันธ์ปิดหนีไปกินข้าว เปิดอีกทีบ่ายสาม เลยไม่สามารถถามเรตราคาใครได้เลย

เราก็งงๆ อยู่ ไม่ได้ฟังละเอียด
ฟังออกแค่ 20 กะ 40 RM อะไรสักอย่าง

ตั้งใจจะเขียนรายละเอียดใส่กระดาษ
เพื่อตกลงราคาให้เรียบร้อย
แบบว่า ราคานี่ Round trip นะ
ตกลงเท่านี้นะ ราคาเหมานะ ไม่ใช่ต่อคนนะ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากนี้แล้วนะ
จากที่นี่ ไปที่นี่ รอเราอยู่ที่นี่ แล้วไปส่งเราที่นี่นะ
ไรงี้

หันมาอีกที
อ่าววววววววววว เพื่อนๆ เดินขึ้นรถ Taxi ไปแล้ว  (¯―¯٥)
อ่าวเห้ย!!! ตะกี้พวกแกยังกลัว Taxi กันอยู่เลยยยยยย ( ̄□ ̄;)
พอจะถามคนขับ Taxi อีกที คุณพี่ก็ขึ้นรถ ปิดประตูไปเรียบร้อย
ก็เลยขึ้นรถไปด้วยความงงๆ ว่าตกลง เท่าไหร่แน่ฟระ

สรุป 40 RM ไปกลับ (ถ้าเทียบกับล่องเรือก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ ถือว่าแลกกะแอร์เย็นๆ)
ให้ไปส่งท่ารถด้วยเลย 10 RM (อันนี้เรตปกติที่เคยค้นมา)

Taxi คุยเยอะมากกกกกก
บอกว่าตรงแถวนั้น เค้าจะทำเหมือน Marina by the bay ของสิงคโปร์ อีก 5 ปีให้มาใหม่นะ
เค้าจะถมที่ทำเกาะ แล้วสร้างตึก สร้างห้าง อะไรทำนองนี้
Taxi พามาถึงมัสยิด ก็ปล่อยเดินชมอยู่สักพัก
อากาศร้อนมากกกกกกกกกกกกก ไอ้เมฆครึ้มๆ เมื่อกีมันหายไปไหนหมดฟระ
เจอแดดมะละกาไป เมฆละลายหายไปหมดเลยหราาาาาา

Masjid Selat

Masjid Selat

ไม่ได้เข้าไปชมข้างใน เพราะดูเค้าเข้มงวดมาก โดยเฉพาะการแต่งกาย จนเราไม่กล้าเข้าไป
เราไม่รู้ระเบียบเค้าด้วย เด๋วจะเสียเรื่อง
เมื่อความซวยมาเยือน (อีกครั้ง)

ชมเสร็จ ก็นั่ง Taxi กลับท่ารถ Melaka Sentral
เพื่อไปซื้อตั๋วกลับกัวลา

ปรากฎว่า ตั๋วเต็มทุกเจ้าจ้าาาา Sold Out / Finish / Close อีกแล้วววว  Σ(゜д゜;) Σ(゜д゜;)
ทุกเคาน์เตอร์พูดและเขียนแต่ 3 คำนี้
ชิบบบบบบหายยยยยย อีกแล้วววววว ครับท่าน Σ(||゚Д゚)

ได้ข่าวว่า มะละกาไปกัวลา มีรถเยอะมากกก
แต่วันนี้เต็มหมด แม่เจ้า!!!!!!!!  (✖╭╮✖)  

เลยต้องหาทางอื่น
พอจะรู้ว่า มีอีกสองเส้นทางที่ต่อรถไฟฟ้าเข้ากัวลาได้ (อาจจะมีอีก แต่ไม่รู้)
คือปุตราจายา กะ KLIA2

ปุตราจายา เต็มจ่ะ
เลยได้ตั๋วไป KLIA2 มา (แต่ชั้นยังไม่ได้จะกลับไทยนะ)
ค่ารถ 24.3 RM มั้ง ต่อคน แพงกว่าขามาเท่าตัว ((✖_✖))

ตั๋วไป KLIA2


รถออก 4 โมง มีเวลาอีกครึ่งชม.
ระหว่างนั้นก็ต้องคอยถามรถที่เข้ามาชานชาลาอยู่เรื่อยๆ
เนื่องจาก เค้าบอกว่า มีชานชาลา ที่รถจะมาจอด (มี 3 ชานชาลา)
แถมประกาศยังเป็นภาษามาเลย์ ฟังไม่ออกเฟร้ยยยย!!! (╯°□°)╯

4 โมงปุ๊บ รถก็มาปั๊บ ตรงเวลาขิงๆ
เข้าไปบนรถ เค้าจัดที่นั่งแปลกๆ
ปกติเราจะเห็น แถว A B C D
แต่คันนี้จะเป็นแบบ A C B D
ก็นั่งไปแบบงงๆ ดีว่าแถวนั้นมีแต่พวกเราแค่ 3 คนที่นั่งอยู่ เลยไม่มีปัญหากะใคร

รถวิ่ง 2 ชั่วโมงครึ่ง (ถ้าไป TBS จะใช้เวลา 2 ชั่วโมง)
ไปถึง KLIA2 6 โมงกว่านิดๆ นึกว่าจะเจอรถติดซะแล้ว

KL Transit ใน KLIA2 


จากนั้นก็รีบไปที่จุดขายตั๋ว KL Transit เดินตามป้ายใน KLIA2 ไป
อันนี้ต้องซื้อตั๋วกับพนักงานนะ ไม่ได้มีตู้กดเอง
ซื้อตั๋วเพื่อไปลง Putrajaya
ตั๋วเป็นบัตรสี่เหลี่ยมเหมือน BTS บ้านเราอ่ะ

อีก 3 นาทีรถออก ต้องรีบวิ่งล่ะสิ
ดีว่าชานชาลาอยู่ใกล้ เลยขึ้นทัน
ไม่งั้นรออีก 15 นาที
(ปกติ Transit มา 30 นาทีคัน แต่ชั่วโมงเร่งด่วนก็จะประมาณ 15 นาทีคัน)

ภายในรถ


รถวิ่งเร็วดี สภาพดี
ประมาณ 10 กว่านาทีก็ถึงปุตราจายา
ปล. ถ้าประตูไม่เปิด ให้กดปุ่มตรงประตู

ออกมาซื้อตั๋ว Transit ไป KL Sentral อีกครั้ง
คนที่เคยไปโดย Transit มาแล้ว
อาจจะงงว่าทำไม ไม่นั่งรถไฟจาก
KLIA2 ไป KL Sentral เลย
จะมาหยุดที่ Putrajaya ทำไม?

คำตอบคือ   KLIA2    - KL Sentral   35 RM (ซึ่งมันแพงมากกกกก)
แต่ถ้าเรานั่ง KLIA2    - Putrajaya     6.2 RM
แล้วนั่ง        Putrajaya - KL Sentral  9.5 RM
จะเสียค่ารถ Transit รวม 15.7 RM แต่เสียเวลารอรถเพิ่มอีก 15 นาที
ประหยัดไปได้ครึ่งนึง ทุกคนโอเค (¬‿¬)

ปล. การมาลงที่ปุตราจากยา ทำให้รู้ว่า มัน มี Locker ฝากกระเป๋านะจ๊ะ ไม่ต้องแบกกระเป๋าไปเที่ยวแล้ว

Putrajaya

ทางเชื่อมไป Putra Sentral สีน้ำเงินทางขวาคือ Locker

Locker


ถึงสถานีนี้ ก็รีบไปซื้อตั๋วไป KL Sentral ต่อเลย มีเวลาอีก 15 นาที รถจะมาถึง
ระหว่างนี้ก็ไปหาอะไรกินก่อนได้นิดหน่อย

จาก Putrajaya นั่งไป KL Sental เกือบครึ่งชม.
มาถึง KL Sentral เสียที

แหล่งรวมรถจริงๆ

ภายใน KL Sentral คนค่อนข้างเยอะ


ตะลุยตึกแฝด แวะพักไชน่าทาวน์


เมื่อถึง KL Sentral ก็ไปซื้อเหรียญ LRT ที่เครื่องจำหน่ายเหรียญเพื่อไปลง KLCC (ไปตึกแฝด)
รอรถอยู่ประมาณ 4 นาที
ป้ายบอกเวลารถมาถึงของที่นี่ มีบอกเวลาเป็นวินาทีด้วยนะ
ถึงจะไม่ตรงเป๊ะ แต่ทำพวกเราตื่นเต้นน่าดู แอบลุ้นว่าจะเป๊ะมั๊ย อิอิ

รถสายนี้มีทั้งวิ่งข้างบน และวิ่งใต้ดิน ไปถึง KLCC ใช้เวลาไม่นาน
ออกมาปุ๊บ ที่นี่ที่ไหนฟระ
ดีว่ามีป้ายบอกทางไปตึกแฝด ก็เดินตามป้ายไปเรื่อยๆ

เจอฝนตกโปรยปราย เล็กน้อย สุดท้ายก็หยุด

ตึกแฝดดดด ว่าแต่! แฝดเจ้าไปไหน ???

เดินอ้อมตึกไป ก็เจอตึกแฝดของแท้


ได้ถ่ายรูปกะตึกแฝดเสียที
มุมมหาชน คนเยอะพอสมควร แต่ก็ไม่เบียดเสียด
ถ่ายรูปได้สักพัก ก็เดินลัดใต้ตึก (เป็นห้าง Suria)
ไปดูน้ำพุดนตรีอีกฝั่ง (ฝั่งที่เป็นสวนสาธารณะ)

ทะลุมาจะมีห้างและสวนสาธารณะ ตรงนี้มีแสดงน้ำพุดนตรีด้วย

น้ำพุดนตรี


สามทุ่มครึ่ง ก็นั่งรถ LRT มาลง Pasar Seni
แล้วเดินต่อมาที่ Central Market
ทางค่อนข้างมืด มาคนเดียวก็น่ากลัวอยู่นะ

แต่ใสเจีย เสียใจ ห้างมันปิด 4 ทุ่ม เรามามันก็ปิดพอดีเบยยยยยย \|  ̄ヘ ̄|/
เปลี่ยนไปเดินไชน่าทาวน์แทน

Central Market ที่ปิดแล้ว

Central Market ที่ปิดแล้ว


จาก Central Market ก็เดินไปสำเพ็ง เอ้ย ไชน่าทาวน์ได้ ไม่ไกลมาก
ของที่ขายเหมือนๆ สำเพ็งเลย มีพวกกระเป๋า น้ำหอม อุปกรณ์มือถือ กิ๊บช็อป อะไรพวกนี้ขาย

คนน้อยๆ และร้านค้าเหมือนจะเริ่มเก็บของกันแล้ว สงสัยใกล้เวลาปิด
นี่เราไม่มีดวงการเดินเที่ยวตลาดมาเลย์เลยรึไงนะ
- ตลาดนัดบรินชาง ไม่ได้ไป เพราะรถติด
- ตลาดมะละกา ไม่ได้ไป เพราะตกรถ
- Central Market ไม่ได้ไป เพราะดึกแล้วมันปิด
- ไชน่าทาวน์ ก็กำลังจะปิด
เฮ้อออออออออออออ  (╥﹏╥)

ไชน่าทาวน์ที่กำลังจะปิดแล้ว


แต่ยังดีที่ย่านอาหาร ผู้คนยังเยอะอยู่ ร้านค้าส่วนใหญ่ก็ยังเปิด
ถามว่าโซนนี้อยู่แถวไหน
ตอบเลยว่าไม่รู้ 5555 ¯\_(ツ)_/¯
เราเดินไปเรื่อยตามตรอกซอกซอยที่ดูแล้วคนน่าจะเยอะ แล้วก็มาเจอย่านนี้ 555

ย่านร้านอาหาร คนจะคึกคักเป็นพิเศษ


แวะกิน Satay Celup (Steamboat Satay)
เด็กร้าน พูดไทยได้ เลยโดนชักจูงเลย 555

Satay Celup


Satay Celup เป็นอาหารเสียบไม้ (แนวลูกชิ้น ไส้กรอก บ้านเรา)
โดยจะแบ่งเป็นอาหารย่าง กะอาหารต้ม
ราคาก็แอบโหดอยู่ ไม้ละ 2-6 RM
จะมีสีตรงปลายไม้ไว้แบ่งราคา
อาหารก็จะมีพวก ลูกชิ้น เต้าหู้ ขนมจีบ ผัก
หมูสไลด์(ตกใจที่เจอหมู เมืองเค้านับถืออิสลามเยอะ) ไก่ เนื้อ สเต๊ะ เบคอนพันเห็ดเข็มทอง ฯลฯ

อันไหนเป็นอาหารย่าง ก็เลือกๆ แล้วส่งให้พนักงาน
เด๋วเค้าจัดการย่างให้
อันไหนที่เป็นอาหารต้ม เราต้องเลือกใส่จานไป
แล้วเอาไปต้มในหม้อบนโต๊ะ

จากที่กินมา ของย่างอร่อยกว่าอ่ะ ของต้มนี่เหมือนไว้แก้เลี่ยน เหมาะแก่การต้มพวกผัก
ร้านแบบนี้เจออยู่ 3-4 ร้าน แถวๆ Puduraya เมนูอาหารก็จะแตกต่างกันกินเสร็จก็เดินกลับที่พัก

ไชน่าทาวน์น่าปิดประมาณ 4 ทุ่มกว่าๆ แหละ
ตอนเดินออกมาร้านเริ่มทยอยปิดแล้ว
ไปเจอร้านขายของฝาก ก็เลยซื้อพวกช็อคโกแลตกลับมา เพราะไม่ได้แวะช็อปปิ้งที่ไหนเลย

ถึงที่พักเกือบเที่ยงคืน
ปรากฎว่า เข้าห้องไม่ได้ (ーー;)
ต้องเอาคีย์การ์ดไปให้เค้าเพิ่มวันให้
คาดว่าโรงแรมคงกำหนดไว้ในคีย์การ์ดว่าใช้ได้ถึงเมื่อไหร่ (คือให้เราแค่วันเดียว)
แต่เราพักสองคืน ทำไมไม่เติมให้ 2 วันเลยล่ะ



 สรุปค่าใช้จ่าย 


รายการต่อ 3 คนต่อคนเงินไทย
ค่ารถไป TBSRM4.80RM1.60฿14.38
ค่ารถไปมะละกาRM30.00RM10.00฿89.90
ซาลาเปา-RM2.20฿19.78
ค่ารถเข้าเมืองมะละกาRM4.50RM1.50฿13.49
ห้องน้ำ-RM0.30฿2.70
ข้าวกลางวันRM42.50RM14.17฿127.36
Taxi ทัวร์RM50.00RM16.67฿149.83
ค่ารถไป KLIA2RM72.90RM24.30฿218.46
ค่ารถไฟ Transit ไปปุตราจายาRM18.60RM6.20฿55.74
ค่ารถไฟ Transit ไป KL SentralRM28.50RM9.50฿85.41
ค่ารถ LRT ไป KLCCRM4.80RM1.60฿14.38
ค่ารถ LRT ไป Pasar SeniRM4.80RM1.60฿14.38
ข้าวเย็นRM42.00RM14.00฿125.86
ของฝาก-RM6.30฿56.64
รวม
RM109.93฿988.30




╔══════════════════════ ೋღღೋ ══════════════════════╗

Link ที่เกี่ยวข้อง



╚══════════════════════ ೋღღೋ ══════════════════════╝

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : ประสบการณ์การซื้อยา Diamox ที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน

☞ ประสบการณ์ทำเควส "ตรวจสุขภาพ ศูนย์แพทย์พัฒนา" ☜

ประสบการณ์ยื่นขอวีซ่าจีน ด้วยตัวเอง <ก.ย 2561 & ส.ค 2562>