ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Malaysia #1】 ทริปโหด - คาเมรอน มะละกา กัวลาลัมเปอร์ ปุตราจายา ตอนที่ 5 ปุตราจายา
━═★ ปุตราจายา เมืองใหม่ ไฮไลกว่าเดิม ★═━
วันสุดท้ายแล้วววววววว O﹏o
ยังคงตื่นเช้าเหมือนเดิม แต่สายกว่าเดิมได้นิดหน่อย ประมาณตี 5 ครึ่ง
พอ 7 โมงพระอาทิตย์ขึ้นก็ไปเดินแถวจัตุรัสเมอร์เดก้า
 |
| เช้านี้รถเยอะ น่าจะได้เวลาทำงานของชาวมาเลย์แล้ว |
เดินลัดจาก Puduraya ไปขึ้นรถที่ LRT Plaza Rakyat
แล้วนั่งรถไฟฟ้า ไป LRT Masjid Jamek ราคา 1.2 RM
ค่ารถไฟฟ้าที่นี่ไม่ได้เพิ่มตามจำนวนสถานี แต่จะเพิ่มเป็นช่วงสถานี
เช่น สมมุติสถานีที่ 1-5 ราคา 1.2 RM สถานีที่ 6-8 ราคา 1.7 RM เป็นต้น
 |
| Masjid Jamek มองจากสถานี LRT |
ถึง Majid Jamek เดินออกมาหน้าสถานี ก็เจอมัสยิดเลย
แต่ดูเหมือนกำลังปรับปรุง อยู่
จากนั้นก็เดินอ้อมเป็นวงกลมรอบจตุรัสเมอร์เดก้า
 |
| ลงมาจาก LRT ก็เดินต่อไป แบบไม่รู้ทาง มั่วๆ เอา เดินตามถนนใหญ่ วนรอบมัสยิดนั่นแหละ |
 |
| ร้านยังคงเงียบเหงาอยู่ |
DBLK City Theatre (Panggung Bandaraya)
เป็นโรงละครประจำเมือง
 |
| มองไปทางซ้ายมือ อุ้ย! เจอสิ่งก่อสร้างหน้าตาคุ้นเคย เหมือนเห็นในหนังสือท่องเที่ยว |
 |
| DBKL City Theatre (Panggung Bandaraya) |
 |
| โรงละครประจำเมือง |
 |
| DBKL City Theatre (Panggung Bandaraya) |
 |
| Old High Court Building |
Sultan Abdul Samad Building
มีหอนาฬิกา สูง 40 เมตร
ปัจจุบันใช้อาคารที่ทำการของรัฐบาล
ธงชาติมาเลเซีย
บริเวณจัตุรัสเมอร์เดก้า
Queen Vicotoria Fountain
บริเวณจัตุรัสเมอร์เดก้า
Mahkamah Perusahaan
ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นศาลนะ
National Textile Museum
พิพิธภัณฑ์สิ่งทอแห่งชาติ
Kuala Lumpur City Gallery
พิพิธภัณฑ์คล้ายๆ Museum Siam
จาก Kuala Lumpur City Gallery จะข้ามฝั่งไป เพื่อย้อนไป Masjid Jamek แล้วไปขึ้น LRT
วันนี้น่าจะเป็นวันเริ่มทำงานของชาวมาเลย์ หลังจากที่หยุดไปหลายวัน
เริ่มเห็นผู้คนเดินผ่านไปมาเพื่อไปทำงาน
ตามข้างทาง ป้ายรถเมล์ สถานีรถไฟฟ้า มีร้านขายอาหาร คล้ายๆ กับบ้านเรา
แต่สิ่งทีดูน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับพวกเรามากๆ คือ
ตู้น้ำหยอดเหรียญ (Ⓘ.Ⓘ)
อันดับแรก คือ น้ำโครตถูกเลย! น้ำอัดลมกระป๋องละ 1 RM (จากปกติจะเห็นประมาณ 2 RM)
อันดับสอง คือ การทำงานของเครื่อง
ไม่มีไรมาก แค่มันมีลูกเล่นเยอะกว่าที่เราเคยเจอเท่าน้้นแหละ อิอิ (≧∇≦)/
คือ ปกติเราจะเจอะ แต่หยอดเหรียญ กดเบอร์ แล้วน้ำก็จะไหลมาที่ช่องรับสินค้า ใช่ป่าว
แต่อันนี้คือ กดเบอร์ก่อน มันจะบอกว่าราคาเท่าไหร่
ก็หยอดเหรียญไปตามนั้น จากนั้นกดเบอร์อีกครั้ง
ระบบก็จะมีเครื่องมือ ไปหยิบกระป๋องจากช่องหมายเลขที่เราเลือก
แล้วยกมาวางไว้ตรง ช่องรับสินค้า สนุกดี เพื่อนถ่ายวีดีโอไว้ด้วย (คือ มันสนุกขนาดนั้นเลยหรอ 555)
สนุกกับเครื่องหยอดเหรียญแล้ว ก็ถึงเวลากลับโรงแรม
ซื้อเหรียญตรงจุดเดียวกับที่เราออกมาเมื่อเช้า
แล้วก็เดินกลับเข้าไปทางเดิมเมื่อเช้า
แล้วนึกได้ว่า ... เรามาถูกสถานีใช่ป่ะ ลืมดูว่า ถ้าไปอีกสาย ต้องขึ้นที่ไหน
แต่ตรงนั้นมีป้ายบอกทางไปชานชาลาฝั่งตรงข้าม
ก็เดินตามป้ายไป มุดๆ อยู่ใต้ดินไกลพอสมควร ถึงจะขึ้นมาชานชาลาได้
(จริงๆ เดินข้ามถนนก็น่าจะสิ้นเรื่องแล้วนะ)
จากแผนที่ด้านบน
เส้นสีเขียวคือเส้นทางการเดิน
กลับไปถึงโรงแรม ก็ไปห้องอาหารเพื่อทานอาหารเช้าเลย หิวแล้ววววว
อาหารที่โรงแรมเป็นแบบบุฟเฟต์ เหมือนจะมีของให้เลือกเยอะ แต่ก็เหมือนไม่เยอะ เอ๊ะยังไง
ก็เป็นอาหารเช้า เมนูสไตล์ฝรั่ง พวกขนมปัง คอนเฟล็กซ์ สลัด อะไรทำนองนี้
Check out เกือบไม่ได้ค่ากุญแจคืน ಠ_ಠ
เพราะเหมือนเค้าไม่ได้บอกพนักงานว่า (พนักงานวันนี้กะวันที่เช็คอิน เป็นคนละคน)
เรา Check in สองวันติด
ปกติเค้าจะให้คืนกุญแจวันต่อวัน แต่ตอนเช้าวันแรกต้องรีบไปมะละกา เลยไมได้ติดต่อทำเรื่องไว้
จากนั้นนั่งรถ LRT ไปลง สถานี BTS
แล้วรอรถ Transit ไป Putrajaya
วันนี้รอรถนานกว่าเดิมประมาณ 25 นาที
เพราะไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วน
ไปถึงปุตราจายา 11 โมง แน่ะ
ช้าไปเยอะเหมือนกัน
ในใจก็เลยเครียดแระ ถ้ามาตกรถที่ปุตราอีกทีนี่ จบเลยนะ ไม่ทันเครื่องแน่ หึหึ
ที่นี่มี Locker ให้ฝากของนะจ๊ะ (¬‿¬)
ค้นจากหลายรีวิวบอกว่า ไม่มี
ตอนนี้มีแล้วนะ
อยู่แถวๆ ทางเดินจากที่ขายตั๋ว Transit ไปท่ารถปุตราจายานั่นแหละ
ช่องเล็ก 10 RM ช่องใหญ่ 20 RM
น่าจะเช่าได้ทั้งวันนะ
เพราะเค้าให้ซื้อเหรียญไปหยอดเอง
พวกเราก็งมๆ อยู่กะ Locker นี่สักพัก
วิธีการใช้งานคือ เอาเงินไปหยอดใสเครื่องขายเหรียญ (Token)
จากนั้นเอาเหรียญมาหยอดที่ Locker ช่องที่ต้องการ
จากนั้นก็ดึงประตูออกมา (อาจจะต้องใช้แรงนิดนึง)
เอาของใส่เข้าไปให้เรียบร้อย ตรวจสอบดีๆ นะ เพราะกุญแจ สามารถดึงได้ครั้งเดียว
ไม่สามารถทดสอบได้เลยว่าล็อคแล้วเปิดได้มั๊ย
เพราะไขกุญแจเปิด Locker เมื่อไหร่ คือ จบ เลย จะใช้อีกต้องหยอดเหรียญ
เอาของใส่ Locker เรียบร้อย ไขกุญแจปิด แล้วดึงกุญแจออกมาให้เรียบร้อย
เย่! ในที่สุดก็ได้เดินตัวปลิวสักที หลังจากแบกกระเป๋ามาเกือบชั่วโมง \ (•▽•) /
เดินลงไปท่ารถ มันมีทางลงสองทาง เลือกทางลงที่ใกล้กับเราที่สุด
(อันไหนเจอก่อนลงอันนั้น จริงๆ มันเชื่อมกันอยู่แล้ว)
จากนั้นเดินลงไปท่ารถปุตราจายาที่อยู่ติดกัน
ไปถามเรื่องรถไปมัสยิดสีชมพูจาก ประชาสัมพันธ์
เพราะหาข้อมูลรถของที่นี่มาแล้ว
ไม่ตรงกันสักเจ้า ಠ_ಠ
L11 ไม่มีนะจ๊ะ เหมือนจะถูกจัดเป็นรถสำหรับคนที่ซื้อทัวร์
(หรืออาจจะมีแต่ช้ามากกก เพราะเค้าไม่แนะนำรถสายนี้เลย)
เค้าให้ขึ้น J08 แทน รอรถอีกครึ่งชม.
แล้วก็ L02 แต่อันนี้ไปลงด้านหลังตึกทำเนียบหลังคาเขียวนั่น รอครึ่งชม. เหมือนกัน
ก็เลือก J08 สิคะไปถึงที่หมายเลยนี่นา
ก่อนจะเดินไปรอรถ
ก็ถามจุดขึ้นรถกลับกะสายรถให้เรียบร้อย
เพราะจากรีวิว หลายคนมีปัญหาตอนขากลับ
ควรเอาแผนที่ไปให้เค้าดูเลย แล้วชี้เลยว่า รถลงจุดนี้มีสายไรบ้าง ขากลับรอรถสายไหน ป้ายอยู่ตรงไหน จะได้ไม่เคว้งเวลากลับ
11 โมงครึ่ง รถออก
ค่ารถ 0.5 RM ต่อคน ตลอดสาย โครตถูกอ่ะ
แต่รถไม่มีตังค์ทอนนะ ต้องเตรียมมาให้พอดี
สภาพรถ เป๋ยรถเมโทรบัส แอร์เย็นๆ ถ้ามีเวลานั่งได้ทั้งวันเลย 555
วิ่งประมาณ 15 นาทีก็ถึง
จากแผนที่ด้านบน
รถจะมาจอดตรงบริเวณมัสยิดสีชมพู หน้า Information Center
ลงจากรถปุ๊บ
โอ้ววววว แดดร้อนโครตตตตตตตตตตตตต ☀☀☀☀☀☀☀☀
เอาแอร์ชั้นคืนมาเลยน๊าาาาาาาา ヽ(`Д´)ﾉ
แต่เมื่อมาถึงแล้ว ก็ต้องเดินละ เด๋วไม่คุ้มกับที่เสียเวลามา
เริ่มจาก Masjid Putra มัสยิดสีชมพู โดดเด่นเป็นสง่า
ถ่ายรูปบริเวณจุดที่ลงรถเล็กน้อย
แล้วเดินลงไปด้านล่าง ตรงที่เป็นทะเลสาป
(จะมีบันไดกับบันไดเลื่อน พาลงไปด้านล่าง)
บริเวณนั้นจะมีบันไดสำหรับเดินลงไปด้านล่าง หรือจะเดินไปทางมัสยิด แล้วมองหาบันไดเลื่อนก็ได้
ด้านล่างมีศูนย์อาหาร และร้านขายของที่ระลึก หลายร้านอยู่
แต่ไม่ได้แวะเข้าไปดู เพราะตั้งใจว่าจะไปกินข้าวที่สนามบิน (กลัวตกเครื่อง 555 )
ไม่ได้เข้าไปชมข้างในเช่นกัน เนื่องจากว่า ... ลืม 555 (・へ・)
ลืมจริงๆ นะว่าเข้าไปชมได้ แต่ต้องแต่งกายสุภาพ เค้ามีชุดคลุมให้ด้วย
แบบว่า ร้อนและรีบ เลยลิมทุกสิ่งอย่างงงง
ชมทะเลสาปเสร็จแล้ว ก็เดินกลับขึ้นไปด้านบน
เราก็เดินเข้าไปถามเรื่องรถขากลับ เพื่อความชัวร์ ถึงแม้จะถามจากท่ารถมาแล้วก็ตาม
เค้าให้เดินไปด้านหลังตึกเขียวนู่นนน
ซึ่งก็ตรงกะที่ท่ารถบอกแหละ
ระหว่างเดินไป ก็แวะถ่ายรูปไปพลางๆ
เส้นทางไปป้ายรถเมล์ไกลนิดนึง เดินทะลุไปทางสวนสาธารณะ
ตรงช่วงกลางๆ สวนมีร้านค้าด้วยนะ แวะซื้อของกินได้ มีห้องนำ้สาธารณะด้วย
จากแผนที่ด้านบน
เดินสัก 10 นาทีก็ถึงป้ายรถเมล์
เป็นซุ้มใหญ่ๆ มีป้ายบอกด้วยว่ารถจะมาอีกกี่นาที โครตทันสมัยเลย อยากได้ไปไว้ในไทย
(แต่ตอนไป KLCC รถแม่งบอกเวลาเป็นวินาทีด้วย)
ฝั่งตรงข้ามป้ายรถเมล์จะเป็น Taman Putra Perdata จุดชมวิวของเมือง
รอประมาณสิบนาทีได้ รถก็มา เวลาก็ค่อนข้างตรงที่ป้ายบอกเวลา
โดยเราสามารถดูจากป้ายได้ด้วยว่ารถสายไหนจะไป Putra Sentral
คือ เจ้าหน้าที่บอกสายไรมามั่ง ลืมหมดแล้ว อาศัยดูป้ายแทน
เจอรถที่ห้านหน้ารถเขียนว่า P.Sentral ก็โบกเลย
อ้อ ! รถมาแล้ว ต้องโบกด้วยนะ ไม่งั้นไม่จอด
จากนั้นก็ขึ้นไปถามคนขับว่าไป Putra Sentral ไหม ถ้าไปก็ขึ้นโล้ด
รอบนี้จ่ายไป 2 RM เพราะไม่มีเศษ
ขากลับ รถใช้เวลานานกว่าเดิม เนื่องจากขับผ่านชุมชน
ต้องจอดแวะรับผู้โดยสารบ่อย
ประมาณ 20-30 นาทีก็ถึงท่ารถ
โชคดีที่รถไม่ติด
เมืองนี้ รถเยอะมากกกก
แต่จอดไว้เฉยๆ ไม่ค่อยมีรถวิ่งตามท้องถนนเท่าไหร่
บ้านส่วนใหญ่ก็คล้ายๆ กัน จะเป็นบ้านจัดสรร ทาวน์เฮาส์ และคอนโด หรืออพาร์ทเม้นท์ ซะส่วนใหญ่
มีรถจอดอยู่ด้านล่างเต็มเลย แต่รถบนถนนไม่ยักกะมี
เมื่อไปถึงท่ารถก็ไปซื้อตั๋ว Transit เพื่อเข้า KLIA2
นั่งรถไฟ เกือบครึ่งชม. ก็ถึง KLIA2 ในบ่ายสองกว่าๆ ทำเวลาได้ดีมาก
ยังมีเวลาเหลืออีกเยอะเลย
แบกกระเป๋าไปเคาน์เตอร์แอร์เอเชีย
แต่ยังโหลดกระเป๋าไม่ได้ เพราะเครื่องออก 6 โมง
เค้าให้เช็คอินกะโหลดกระเป๋าได้ 3 ชั่วโมงก่อนเครื่องออก
พี่ที่เคยมาเค้าบอกว่า ถ้าเช็คอินเคาน์เตอร์ต้องเสียตังค์นะจ๊ะ (แต่ตอนนั้นเป็น KLCC)
เลยเช็คอินมาจากไทยเรียบร้อย ปรินท์ Boarding Pass มาเสร็จสรรพ
เหลือแค่เอากระเป๋าไปโหลด
ระหว่างรอ ก็เดินเล่น หาของกินในสนามบิน
เจอ Supermarket แห่งหนึ่งชื่อ JayuGrocer
ทำให้รู้ว่า ช็อคโกแลตที่นี่ ถูกกว่าตรงที่ขายของฝากที่ไชน่าทาวน์อีก
ฮือออออออ ดีว่าซื้อมาอันเดียว 5555
จากนั้นก็ไปทานข้าวที่ร้าน Marrybrown ก็เหมือนๆ KFC บ้านเรานั่นแหละ (แต่บ้านเค้าก็มี KFC นะ)
ถามว่าอะไรอร่อยกว่า ก็ วิงซ์แซ่บ KFC อร่อยที่สุดดดดดดดด
กินเสร็จก็กลับเข้าไป Supermarket นั่นอีกครั้ง เพื่อหาซื้อของฝากเพิ่ม
เหลือเวลาอีก 15 นาที จะได้เวลาโหลดกระเป๋า
เลยต้องรีบซื้อของหน่อย ขนาดมาถึงก่อนเวลาตั้งนาน ยังไม่มีเวลาช็อปปิ้งเลย อนาจจริงๆ
จากนั้นก็ได้เวลาโหลดกระเป๋า
แอร์เอเชีย จะมีป้ายบอกอยู่แล้วว่า
จะเช็คอินต้องไป Row ไหน
จะโหลดกระเป๋าอย่างเดียวต้องไป Row ไหน
ก็เดินตามป้ายไป ไม่มีปัญหา
โหลดกระเป๋าเรียบร้อย ตัวปลิวอีกแล้วค่ะ
จากนั้นก็เดินเข้าสู่ระบบตรวจคนออกเมืองบ้างงงง
ผ่านฉลุยได้ไม่ยาก (◕‿-)
เพื่อนๆ คุยกันเรื่องสแกนลายนิ้วมือ
เพราะคนนึงบอกไม่ได้สแกน อีกคนบอกเค้าให้สแกน
ครือ จะบอกว่า อิชั้น ไม่ได้สแกนทั้งขาไปและกลับเลยจ้าาาา
เครื่องสแกนคืออันหยัง ไม่เข้าใจ ٩(ˊᗜˋ˚)و
เกทไกลมากกกกก (ーー;)
ของก็ไม่ค่อยมีขาย ใครคิดจะซื้อของฝาก หรืออะไร หลังจากผ่านตม. นี่คิดผิดนะจีะ
ห้องน้ำก็ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่
แทนที่จะรอหน้าเกท เลยมารอหน้าห้องน้ำแทนดีกว่า 555
รอไปเกือบชม. ก็ได้เวลาบินลัดฟ้ากลับไทย
ตอนได้เวลาขึ้นเครื่อง เค้าก็ประกาศเรียก
เราก็เดินเข้าเกทตามใน Boarding pass
เดินไปเรื่อยๆ ปรากฎว่ายังไมไ่ด้ขึ้นเครื่อง ต้องไปนั่งรอในห้องรับรอง
ในใจก็คิดว่า นี่ชั้นมาผิดป่าวฟะ มีแยกตรงไหนรึเปล่าเนี่ย ทำไมกลายเป็นต้องมานั่งรออีกห้องหนึ่ง
คาดว่าเพราะบางเกทเค้าใช้งวงช้างร่วมกันอยู่ เราเลยต้องรอก่อน
สักพักเจ้าหน้าที่จึงเรียกขึ้นเครื่องของจริงเสียที
เครื่องออกแล้ว บ๊ายบาย มาเลเซีย (^.^)/~~~
อย่าคิดว่าชั้นจะเข็ดนะ
ระหว่างอยู่บนเครื่อง ก็เอิ่ม... เครื่องสั่นเป็นว่าเล่น ⁀⊙﹏☉⁀
เพราะเข้าเขตพายุ
ฮืออออออ ช้านนนนนกลัวววววว (╥﹏╥)
ขึ้นเครื่องกี่ทีก็ยังไม่ชินกะอารมณ์นี้สักที
แต่สุดท้ายก็ลงจอดด้วยดี
จบทริปด้วยความสวัสดิภาพ ⌒ ‿‿ ⌒
ของเพื่อนมีประมาณหมื่นกว่านิดๆ ด้วย เพราะกินเยอะ 555
ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนจะหมดเงินไปประมาณ ฿7,600+
 |
| Sultan Abdul Samad Building |
 |
| Sultan Abdul Samad Building |
 |
| Sultan Abdul Samad Building |
ธงชาติมาเลเซีย
บริเวณจัตุรัสเมอร์เดก้า
 |
| Flag pole |
Queen Vicotoria Fountain
บริเวณจัตุรัสเมอร์เดก้า
 |
| Queen Victoria Fountain |
 |
| Queen Victoria Fountain |
 |
| ยังมองเห็น KL Tower อยู่ |
Mahkamah Perusahaan
ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นศาลนะ
 |
| Mahkamah Perusahaan |
National Textile Museum
พิพิธภัณฑ์สิ่งทอแห่งชาติ
 |
| National Textile Museum |
พิพิธภัณฑ์คล้ายๆ Museum Siam
 |
| Kuala Lumpur City Gallery |
 |
| ป้าย I love KL หน้า Kuala Lumpur City Gallery |
 |
| มีทัวร์รอบเมืองด้วยนะ |
จาก Kuala Lumpur City Gallery จะข้ามฝั่งไป เพื่อย้อนไป Masjid Jamek แล้วไปขึ้น LRT
 |
| ไฟข้ามถนน มีทั้งสำหรับคนข้ามและจักรยาน |
 |
| ทางข้ามสำหรับจักรยาน |
 |
| Masjid Jamek กับแม่น้ำที่ไหลมาบรรจบกัน |
วันนี้น่าจะเป็นวันเริ่มทำงานของชาวมาเลย์ หลังจากที่หยุดไปหลายวัน
เริ่มเห็นผู้คนเดินผ่านไปมาเพื่อไปทำงาน
ตามข้างทาง ป้ายรถเมล์ สถานีรถไฟฟ้า มีร้านขายอาหาร คล้ายๆ กับบ้านเรา
 |
| หน้าต่าง ผ่านไปเจอเลยแอบถ่ายไว้ |
 |
| Old Market Square |
 |
| บรรยากาศเริ่มคึกคัก |
แต่สิ่งทีดูน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับพวกเรามากๆ คือ
ตู้น้ำหยอดเหรียญ (Ⓘ.Ⓘ)
อันดับแรก คือ น้ำโครตถูกเลย! น้ำอัดลมกระป๋องละ 1 RM (จากปกติจะเห็นประมาณ 2 RM)
อันดับสอง คือ การทำงานของเครื่อง
ไม่มีไรมาก แค่มันมีลูกเล่นเยอะกว่าที่เราเคยเจอเท่าน้้นแหละ อิอิ (≧∇≦)/
คือ ปกติเราจะเจอะ แต่หยอดเหรียญ กดเบอร์ แล้วน้ำก็จะไหลมาที่ช่องรับสินค้า ใช่ป่าว
แต่อันนี้คือ กดเบอร์ก่อน มันจะบอกว่าราคาเท่าไหร่
ก็หยอดเหรียญไปตามนั้น จากนั้นกดเบอร์อีกครั้ง
ระบบก็จะมีเครื่องมือ ไปหยิบกระป๋องจากช่องหมายเลขที่เราเลือก
แล้วยกมาวางไว้ตรง ช่องรับสินค้า สนุกดี เพื่อนถ่ายวีดีโอไว้ด้วย (คือ มันสนุกขนาดนั้นเลยหรอ 555)
สนุกกับเครื่องหยอดเหรียญแล้ว ก็ถึงเวลากลับโรงแรม
ซื้อเหรียญตรงจุดเดียวกับที่เราออกมาเมื่อเช้า
แล้วก็เดินกลับเข้าไปทางเดิมเมื่อเช้า
แล้วนึกได้ว่า ... เรามาถูกสถานีใช่ป่ะ ลืมดูว่า ถ้าไปอีกสาย ต้องขึ้นที่ไหน
แต่ตรงนั้นมีป้ายบอกทางไปชานชาลาฝั่งตรงข้าม
ก็เดินตามป้ายไป มุดๆ อยู่ใต้ดินไกลพอสมควร ถึงจะขึ้นมาชานชาลาได้
(จริงๆ เดินข้ามถนนก็น่าจะสิ้นเรื่องแล้วนะ)
 |
| แผนที่จัตุรัสเมอร์เดก้า |
จากแผนที่ด้านบน
- LRT Masjid Jamek
- DBKL City Theatre
- High Court
- Sultan Abdul Samad Building
- National Textile Museum
- Kuala Lumpur City Gallery
- Flag Pole & Queen Victoria Fountain
- Old Market Square
- Masjid Jamek
เส้นสีเขียวคือเส้นทางการเดิน
กลับไปถึงโรงแรม ก็ไปห้องอาหารเพื่อทานอาหารเช้าเลย หิวแล้ววววว
อาหารที่โรงแรมเป็นแบบบุฟเฟต์ เหมือนจะมีของให้เลือกเยอะ แต่ก็เหมือนไม่เยอะ เอ๊ะยังไง
ก็เป็นอาหารเช้า เมนูสไตล์ฝรั่ง พวกขนมปัง คอนเฟล็กซ์ สลัด อะไรทำนองนี้
 |
| อาหารเช้า |
 |
| อาหารเช้า |
 |
| อาหารเช้า |
 |
| อาหารเช้า |
เพราะเหมือนเค้าไม่ได้บอกพนักงานว่า (พนักงานวันนี้กะวันที่เช็คอิน เป็นคนละคน)
เรา Check in สองวันติด
ปกติเค้าจะให้คืนกุญแจวันต่อวัน แต่ตอนเช้าวันแรกต้องรีบไปมะละกา เลยไมได้ติดต่อทำเรื่องไว้
จากนั้นนั่งรถ LRT ไปลง สถานี BTS
แล้วรอรถ Transit ไป Putrajaya
วันนี้รอรถนานกว่าเดิมประมาณ 25 นาที
เพราะไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วน
 |
| รอรถไฟไปปุตราจายา |
ไปถึงปุตราจายา 11 โมง แน่ะ
ช้าไปเยอะเหมือนกัน
ในใจก็เลยเครียดแระ ถ้ามาตกรถที่ปุตราอีกทีนี่ จบเลยนะ ไม่ทันเครื่องแน่ หึหึ
ที่นี่มี Locker ให้ฝากของนะจ๊ะ (¬‿¬)
ค้นจากหลายรีวิวบอกว่า ไม่มี
ตอนนี้มีแล้วนะ
อยู่แถวๆ ทางเดินจากที่ขายตั๋ว Transit ไปท่ารถปุตราจายานั่นแหละ
ช่องเล็ก 10 RM ช่องใหญ่ 20 RM
น่าจะเช่าได้ทั้งวันนะ
เพราะเค้าให้ซื้อเหรียญไปหยอดเอง
พวกเราก็งมๆ อยู่กะ Locker นี่สักพัก
วิธีการใช้งานคือ เอาเงินไปหยอดใสเครื่องขายเหรียญ (Token)
จากนั้นเอาเหรียญมาหยอดที่ Locker ช่องที่ต้องการ
จากนั้นก็ดึงประตูออกมา (อาจจะต้องใช้แรงนิดนึง)
เอาของใส่เข้าไปให้เรียบร้อย ตรวจสอบดีๆ นะ เพราะกุญแจ สามารถดึงได้ครั้งเดียว
ไม่สามารถทดสอบได้เลยว่าล็อคแล้วเปิดได้มั๊ย
เพราะไขกุญแจเปิด Locker เมื่อไหร่ คือ จบ เลย จะใช้อีกต้องหยอดเหรียญ
เอาของใส่ Locker เรียบร้อย ไขกุญแจปิด แล้วดึงกุญแจออกมาให้เรียบร้อย
เย่! ในที่สุดก็ได้เดินตัวปลิวสักที หลังจากแบกกระเป๋ามาเกือบชั่วโมง \ (•▽•) /
 |
| ฝากของเสร็จก็เดินต่อไปยัง Putra Sentral |
เดินลงไปท่ารถ มันมีทางลงสองทาง เลือกทางลงที่ใกล้กับเราที่สุด
(อันไหนเจอก่อนลงอันนั้น จริงๆ มันเชื่อมกันอยู่แล้ว)
จากนั้นเดินลงไปท่ารถปุตราจายาที่อยู่ติดกัน
ไปถามเรื่องรถไปมัสยิดสีชมพูจาก ประชาสัมพันธ์
เพราะหาข้อมูลรถของที่นี่มาแล้ว
ไม่ตรงกันสักเจ้า ಠ_ಠ
L11 ไม่มีนะจ๊ะ เหมือนจะถูกจัดเป็นรถสำหรับคนที่ซื้อทัวร์
(หรืออาจจะมีแต่ช้ามากกก เพราะเค้าไม่แนะนำรถสายนี้เลย)
เค้าให้ขึ้น J08 แทน รอรถอีกครึ่งชม.
แล้วก็ L02 แต่อันนี้ไปลงด้านหลังตึกทำเนียบหลังคาเขียวนั่น รอครึ่งชม. เหมือนกัน
ก็เลือก J08 สิคะไปถึงที่หมายเลยนี่นา
ก่อนจะเดินไปรอรถ
ก็ถามจุดขึ้นรถกลับกะสายรถให้เรียบร้อย
เพราะจากรีวิว หลายคนมีปัญหาตอนขากลับ
ควรเอาแผนที่ไปให้เค้าดูเลย แล้วชี้เลยว่า รถลงจุดนี้มีสายไรบ้าง ขากลับรอรถสายไหน ป้ายอยู่ตรงไหน จะได้ไม่เคว้งเวลากลับ
 |
| มีทัวร์ Putrajaya |
11 โมงครึ่ง รถออก
ค่ารถ 0.5 RM ต่อคน ตลอดสาย โครตถูกอ่ะ
แต่รถไม่มีตังค์ทอนนะ ต้องเตรียมมาให้พอดี
สภาพรถ เป๋ยรถเมโทรบัส แอร์เย็นๆ ถ้ามีเวลานั่งได้ทั้งวันเลย 555
วิ่งประมาณ 15 นาทีก็ถึง
 |
| แผนที่ปุตราจายา |
จากแผนที่ด้านบน
- Putrajaya Sentral
- โซนท่องเที่ยว
 |
| ภายในรถเมล์ |
รถจะมาจอดตรงบริเวณมัสยิดสีชมพู หน้า Information Center
ลงจากรถปุ๊บ
โอ้ววววว แดดร้อนโครตตตตตตตตตตตตต ☀☀☀☀☀☀☀☀
เอาแอร์ชั้นคืนมาเลยน๊าาาาาาาา ヽ(`Д´)ﾉ
แต่เมื่อมาถึงแล้ว ก็ต้องเดินละ เด๋วไม่คุ้มกับที่เสียเวลามา
เริ่มจาก Masjid Putra มัสยิดสีชมพู โดดเด่นเป็นสง่า
ถ่ายรูปบริเวณจุดที่ลงรถเล็กน้อย
แล้วเดินลงไปด้านล่าง ตรงที่เป็นทะเลสาป
(จะมีบันไดกับบันไดเลื่อน พาลงไปด้านล่าง)
 |
| มัสยิดสีชมพู |
บริเวณนั้นจะมีบันไดสำหรับเดินลงไปด้านล่าง หรือจะเดินไปทางมัสยิด แล้วมองหาบันไดเลื่อนก็ได้
 |
| บันไดเลือน |
 |
| บันไดเลือน |
 |
| ด้านล่าง |
ด้านล่างมีศูนย์อาหาร และร้านขายของที่ระลึก หลายร้านอยู่
แต่ไม่ได้แวะเข้าไปดู เพราะตั้งใจว่าจะไปกินข้าวที่สนามบิน (กลัวตกเครื่อง 555 )
ไม่ได้เข้าไปชมข้างในเช่นกัน เนื่องจากว่า ... ลืม 555 (・へ・)
ลืมจริงๆ นะว่าเข้าไปชมได้ แต่ต้องแต่งกายสุภาพ เค้ามีชุดคลุมให้ด้วย
แบบว่า ร้อนและรีบ เลยลิมทุกสิ่งอย่างงงง
 |
| Istana Darul Ehsan |
 |
| Jambatan Seri Wawasan |
 |
| มีเรือด้วย อยากนั่งจัง |
 |
| ทางเข้าศูนย์อาหาร |
ชมทะเลสาปเสร็จแล้ว ก็เดินกลับขึ้นไปด้านบน
เราก็เดินเข้าไปถามเรื่องรถขากลับ เพื่อความชัวร์ ถึงแม้จะถามจากท่ารถมาแล้วก็ตาม
 |
| มีจักรยานให้เช่าบริเวณ Information Center |
ซึ่งก็ตรงกะที่ท่ารถบอกแหละ
ระหว่างเดินไป ก็แวะถ่ายรูปไปพลางๆ
 |
| เป็นเมืองที่รถโล่งมาก |
 |
| Putra Square |
 |
| Putra Square |
 |
| มัสยิดสีชมพูจากฝั่ง Perdana Putra |
 |
| Perdana Putra |
 |
| Putra Square |
เส้นทางไปป้ายรถเมล์ไกลนิดนึง เดินทะลุไปทางสวนสาธารณะ
ตรงช่วงกลางๆ สวนมีร้านค้าด้วยนะ แวะซื้อของกินได้ มีห้องนำ้สาธารณะด้วย
 |
| เดินเข้าสวนสาธารณะไป |
 |
| มองเห็น Perdana Putra ทางด้านข้าง |
 |
| บริเวณนี้มีขายของกิน |
 |
| Perdana Putra มองจากโซนร้านค้าในสวน |
 |
| เดินต่อไปสู่ป้ายรถเมล์ |
 |
| แผนที่โซนท่องเที่ยวปุตราจายา |
จากแผนที่ด้านบน
- จุดลงรถ และ Information Center
- มัสยิดสีชมพู
- Putra Bridge
- Istana Darul Ehsan
- Perdana Putra
- ร้านขายอาหารตรงสวน
- จุดรอขึ้นรถกลับ
- Putra Square
เดินสัก 10 นาทีก็ถึงป้ายรถเมล์
เป็นซุ้มใหญ่ๆ มีป้ายบอกด้วยว่ารถจะมาอีกกี่นาที โครตทันสมัยเลย อยากได้ไปไว้ในไทย
(แต่ตอนไป KLCC รถแม่งบอกเวลาเป็นวินาทีด้วย)
ฝั่งตรงข้ามป้ายรถเมล์จะเป็น Taman Putra Perdata จุดชมวิวของเมือง
 |
| บริเวณป้ายรถเมล์ จะเป็นซุ้มใหญ่ๆ แบบนี้ |
 |
| มีบอกเวลาที่รถสายต่างๆ จะมาถึงป้ายแห่งนี้ด้วย |
รอประมาณสิบนาทีได้ รถก็มา เวลาก็ค่อนข้างตรงที่ป้ายบอกเวลา
โดยเราสามารถดูจากป้ายได้ด้วยว่ารถสายไหนจะไป Putra Sentral
คือ เจ้าหน้าที่บอกสายไรมามั่ง ลืมหมดแล้ว อาศัยดูป้ายแทน
เจอรถที่ห้านหน้ารถเขียนว่า P.Sentral ก็โบกเลย
อ้อ ! รถมาแล้ว ต้องโบกด้วยนะ ไม่งั้นไม่จอด
จากนั้นก็ขึ้นไปถามคนขับว่าไป Putra Sentral ไหม ถ้าไปก็ขึ้นโล้ด
รอบนี้จ่ายไป 2 RM เพราะไม่มีเศษ
 |
| รถมาแล้ว เตรียมโบก |
ขากลับ รถใช้เวลานานกว่าเดิม เนื่องจากขับผ่านชุมชน
ต้องจอดแวะรับผู้โดยสารบ่อย
ประมาณ 20-30 นาทีก็ถึงท่ารถ
 |
| มัสยิดสีชมพู อีกด้านนึง ถ่ายจากในรถ |
โชคดีที่รถไม่ติด
เมืองนี้ รถเยอะมากกกก
แต่จอดไว้เฉยๆ ไม่ค่อยมีรถวิ่งตามท้องถนนเท่าไหร่
บ้านส่วนใหญ่ก็คล้ายๆ กัน จะเป็นบ้านจัดสรร ทาวน์เฮาส์ และคอนโด หรืออพาร์ทเม้นท์ ซะส่วนใหญ่
มีรถจอดอยู่ด้านล่างเต็มเลย แต่รถบนถนนไม่ยักกะมี
เมื่อไปถึงท่ารถก็ไปซื้อตั๋ว Transit เพื่อเข้า KLIA2
นั่งรถไฟ เกือบครึ่งชม. ก็ถึง KLIA2 ในบ่ายสองกว่าๆ ทำเวลาได้ดีมาก
ยังมีเวลาเหลืออีกเยอะเลย
แบกกระเป๋าไปเคาน์เตอร์แอร์เอเชีย
แต่ยังโหลดกระเป๋าไม่ได้ เพราะเครื่องออก 6 โมง
เค้าให้เช็คอินกะโหลดกระเป๋าได้ 3 ชั่วโมงก่อนเครื่องออก
พี่ที่เคยมาเค้าบอกว่า ถ้าเช็คอินเคาน์เตอร์ต้องเสียตังค์นะจ๊ะ (แต่ตอนนั้นเป็น KLCC)
เลยเช็คอินมาจากไทยเรียบร้อย ปรินท์ Boarding Pass มาเสร็จสรรพ
เหลือแค่เอากระเป๋าไปโหลด
ระหว่างรอ ก็เดินเล่น หาของกินในสนามบิน
เจอ Supermarket แห่งหนึ่งชื่อ JayuGrocer
ทำให้รู้ว่า ช็อคโกแลตที่นี่ ถูกกว่าตรงที่ขายของฝากที่ไชน่าทาวน์อีก
ฮือออออออ ดีว่าซื้อมาอันเดียว 5555
 |
| ร้าน Jayu Grocer |
จากนั้นก็ไปทานข้าวที่ร้าน Marrybrown ก็เหมือนๆ KFC บ้านเรานั่นแหละ (แต่บ้านเค้าก็มี KFC นะ)
ถามว่าอะไรอร่อยกว่า ก็ วิงซ์แซ่บ KFC อร่อยที่สุดดดดดดดด
 |
| ร้าน Marrybrown |
 |
| เมนูที่สั่ง |
กินเสร็จก็กลับเข้าไป Supermarket นั่นอีกครั้ง เพื่อหาซื้อของฝากเพิ่ม
เหลือเวลาอีก 15 นาที จะได้เวลาโหลดกระเป๋า
เลยต้องรีบซื้อของหน่อย ขนาดมาถึงก่อนเวลาตั้งนาน ยังไม่มีเวลาช็อปปิ้งเลย อนาจจริงๆ
จากนั้นก็ได้เวลาโหลดกระเป๋า
แอร์เอเชีย จะมีป้ายบอกอยู่แล้วว่า
จะเช็คอินต้องไป Row ไหน
จะโหลดกระเป๋าอย่างเดียวต้องไป Row ไหน
ก็เดินตามป้ายไป ไม่มีปัญหา
 |
| ป้ายแนะนำของ Airasia |
โหลดกระเป๋าเรียบร้อย ตัวปลิวอีกแล้วค่ะ
จากนั้นก็เดินเข้าสู่ระบบตรวจคนออกเมืองบ้างงงง
ผ่านฉลุยได้ไม่ยาก (◕‿-)
เพื่อนๆ คุยกันเรื่องสแกนลายนิ้วมือ
เพราะคนนึงบอกไม่ได้สแกน อีกคนบอกเค้าให้สแกน
ครือ จะบอกว่า อิชั้น ไม่ได้สแกนทั้งขาไปและกลับเลยจ้าาาา
เครื่องสแกนคืออันหยัง ไม่เข้าใจ ٩(ˊᗜˋ˚)و
เกทไกลมากกกกก (ーー;)
ของก็ไม่ค่อยมีขาย ใครคิดจะซื้อของฝาก หรืออะไร หลังจากผ่านตม. นี่คิดผิดนะจีะ
ห้องน้ำก็ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่
แทนที่จะรอหน้าเกท เลยมารอหน้าห้องน้ำแทนดีกว่า 555
รอไปเกือบชม. ก็ได้เวลาบินลัดฟ้ากลับไทย
ตอนได้เวลาขึ้นเครื่อง เค้าก็ประกาศเรียก
เราก็เดินเข้าเกทตามใน Boarding pass
เดินไปเรื่อยๆ ปรากฎว่ายังไมไ่ด้ขึ้นเครื่อง ต้องไปนั่งรอในห้องรับรอง
ในใจก็คิดว่า นี่ชั้นมาผิดป่าวฟะ มีแยกตรงไหนรึเปล่าเนี่ย ทำไมกลายเป็นต้องมานั่งรออีกห้องหนึ่ง
คาดว่าเพราะบางเกทเค้าใช้งวงช้างร่วมกันอยู่ เราเลยต้องรอก่อน
สักพักเจ้าหน้าที่จึงเรียกขึ้นเครื่องของจริงเสียที
เครื่องออกแล้ว บ๊ายบาย มาเลเซีย (^.^)/~~~
อย่าคิดว่าชั้นจะเข็ดนะ
ระหว่างอยู่บนเครื่อง ก็เอิ่ม... เครื่องสั่นเป็นว่าเล่น ⁀⊙﹏☉⁀
เพราะเข้าเขตพายุ
ฮืออออออ ช้านนนนนกลัวววววว (╥﹏╥)
ขึ้นเครื่องกี่ทีก็ยังไม่ชินกะอารมณ์นี้สักที
แต่สุดท้ายก็ลงจอดด้วยดี
จบทริปด้วยความสวัสดิภาพ ⌒ ‿‿ ⌒
━═★ สรุปค่าใช้จ่าย ★═━
| รายการ | ต่อ 3 คน | ต่อ 1 คน | เงินไทย |
| LRT ไป Majid Jamek | RM3.60 | RM1.20 | ฿10.79 |
| น้ำเป๊บซี่ | - | RM1.00 | ฿8.99 |
| LRT ไป Plaza Rakyat | RM3.60 | RM1.20 | ฿10.79 |
| LRT ไป BTS | RM5.10 | RM1.70 | ฿15.28 |
| Transit ไป Putrajaya | RM15.90 | RM5.30 | ฿47.65 |
| Locker | RM20.00 | RM6.67 | ฿59.93 |
| รถ J08 ไปมัสยิด | RM1.50 | RM0.50 | ฿4.50 |
| รถ L01 กลับ Putra Sentral | RM2.00 | RM0.67 | ฿5.99 |
| Transit ไป KLIA2 | RM18.60 | RM6.20 | ฿55.74 |
| ของฝาก | - | RM5.10 | ฿45.85 |
| ข้าวกลางวัน | - | RM15.70 | ฿141.14 |
| รวม | RM45.23 | ฿406.65 |
━═★ สรุปค่าใช้จ่ายตลอดทริปต่อคน ★═━
| ค่าเครื่องบิน 3,880 บาท | ฿1,940.00 |
| ค่าโหลดกระเป๋า 650 บาท | ฿217.00 |
| ค่าโรงแรม 6542.22 บาท | ฿2,180.74 |
| โรงแรม The youniQ 1,110.96 บาท | |
| โรงแรม Dew drop inn 1,064.01 บาท | |
| โรงแรม Citin คืนแรก 1,618.2 บาท | |
| โรงแรม Citin คืนที่สอง 1,717.09 บาท | |
| โรงแรมมะละกา 1,031.96 บาท | |
| ค่าซิม 246.33 บาท | ฿246.33 |
| ค่ารถ + ท้วร์ 7373.194 บาท | ฿2,457.73 |
| ค่าข้าว + ขนม | ฿809.10 |
| Locker 179.8 บาท | ฿60.00 |
| ของฝาก | ฿329.03 |
| ห้องน้ำ | ฿10.79 |
| ค่าประกันการเดินทาง 370.00 บาท | ฿370.00 |
| ฿8,620.72 |
ของเพื่อนมีประมาณหมื่นกว่านิดๆ ด้วย เพราะกินเยอะ 555
ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนจะหมดเงินไปประมาณ ฿7,600+
╔═══════════════════════ ೋღ❤ღೋ ═══════════════════════╗
Link ที่เกี่ยวข้อง
╚═══════════════════════ ೋღ❤ღೋ ═══════════════════════╝
★ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Malaysia #1】 ทริปโหด - คาเมรอน มะละกา กัวลาลัมเปอร์ ปุตราจายา ตอนที่ 3
★ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Malaysia #1】 ทริปโหด - คาเมรอน มะละกา กัวลาลัมเปอร์ ปุตราจายา ตอนที่ 4
★ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Malaysia #1】 ทริปโหด - คาเมรอน มะละกา กัวลาลัมเปอร์ ปุตราจายา ตอนที่ 5
★ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Malaysia #1】 ทริปโหด - คาเมรอน มะละกา กัวลาลัมเปอร์ ปุตราจายา ตอนที่ 4
★ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Malaysia #1】 ทริปโหด - คาเมรอน มะละกา กัวลาลัมเปอร์ ปุตราจายา ตอนที่ 5
╚═══════════════════════ ೋღ❤ღೋ ═══════════════════════╝
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น