ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Malaysia #1】 ทริปโหด - คาเมรอน มะละกา กัวลาลัมเปอร์ ปุตราจายา ตอนที่ 2 Go to คาเมรอน ไฮแลนด์



เริ่มต้นการผจญภัย


มาต่อกันที่วันที่สองของทริปสุดโหด
ถึงแม้ว่าคืนแรกจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
แต่โบราณกล่าวไว้ว่า ลมสงบ ก่อนพายุจะมา (นะจ๊ะ) ┗(-_- )┓

เริ่มต้นเช้าวันใหม่
ด้วยการตื่นแต่เช้าาาาา ประมาณตี 4 กว่าๆ
อาบน้ำแต่งตัว และไปกินข้าวตอนตี 5
อาหารเช้าที่นี่ 5.00-10.00

ห้องอาหารอยู่ตรงข้างๆ เคาน์เตอร์เช็คอิน
แต่พอเดินเข้าไปดู
อ่าว!!!!!! ยังไม่เสร็จนี่นา ห้องยังมืดๆ อยู่เลย (・A・)

มีอาหารเรียงรายบ้างแล้ว แต่ไม่เปิดไฟ
เลยเข้าไปถามพนักงาน เค้าบอกให้รออีกแป๊บนึง
ซึ่งกว่าเค้าจะทำเสร็จก็ 5.30 แล้วอ่ะ

อาหารที่นี่มีให้เลือกน้อย
มีแค่ข้าวผัด กะที่เหมือนก๋วยเตี๋ยวมีให้เลือกสองน้ำ น้ำซุปไก่ กะน้ำแกงมาเลย์
ขนมปัง ชา กาแฟ น้ำเปล่า น้ำส้ม
แค่นั้นมั้ง จำไม่ได้ละ

เครื่องดื่มร้อน

มุมขนมปัง

อาหารที่เหมือนก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา มีน้ำซุป 2 แบบ เลือกใส่เอง

ซุปน้ำใส

ซุปน้ำข้น


กินเสร็จก็เกือบ 6 โมงละ
จวนจะได้เวลารถออกแล้ววววววว
หวายยยยยรีบขึ้นไปเก็บของดีกว่าาาา

สักพักคนขับรถโทรมาตาม คุยอะไรไม่รู้ ฟังไม่ค่อยออก
แต่ประโยคสุดท้าย เค้าพูดช้าๆ ชัดๆ จับใจความได้ว่า Come Now!!!!!!!!!!!!!!!! Σ(゚Д゚)  
เลยต้องรีบขนของลงมาอย่างไว

ลงมา Check out ได้ตังค์ค่ากุญแจคืน

จากนั้นนั่งรถตู้ ประมาณ 15 นาที ก็ถึง KLIA2
รถซิ่งมากกกก
ไม่รู้ว่าเพราะโมโหเรา หรือเป็นเทคนิคการขับของคนแถวนี้
เพราะตอนขามาก็ซิ่งไม่แพ้กัน

รถตู้จอดอยู่ชั้น 2 ของ KLIA2
เราต้องเดินลงมาชั้น 1 ซึ่งเป็น Transportation Hub ของที่นี่ (มีลิฟต์ แต่ลิฟต์ดันไม่ลงมาชั้น 1)
เพื่อซื้อตั๋วขึ้นรถ Star Shuttle ไป ท่ารถ Puduraya ในเขตกัวลาลัมเปอร์
ส่วนสนามบินอยู่เขตเซปัง


Transportation Hub ชั้น 1 ของ KLIA2


เคาน์เตอร์อยู่ชั้น 1 แต่ไม่มีป้ายบอกบริษัทนะ จะบอกว่า Bus Counter เฉยๆ
ลองไปถามประชาสัมพันธ์มา บอกให้ไปดูช่องที่ 2 3 4
ได้ตั๋วมา คนละ 10 RM รอบ 7 โมงกว่าๆ

เคาน์เตอร์ในโซนรถเช่า

เค้าเตอร์ในโซนรถ Taxi และรถบัส

ซื้อตั๋วรถ Star Shuttle ได้ที่เคาน์เตอร์นี้ (หมายเลข 2, 3 และ 4)


ซื้อตั๋วเสร็จเหลือเวลาอีก 20 นาทีโดยประมาณ
เลยเดินดูของที่ร้านมินิมาร์ทชื่อ KK อยู่แถวๆ ที่ขายตั๋วแหละ
ราคาสินค้าแพงกว่าที่เคยเจอ 2 เท่า

ร้านสะดวกซื้อ แต่ราคา ทำให้เราไม่สะดวกจ่าย


พอใกล้ถึงเวลาปุ๊บ รถก็เข้าจอดเทียบท่าปั๊บ ตรงเวลาดีจริงๆ
เรานำตั๋วไปยื่นให้คนที่น่าจะเป็นคนคุมรถ ซึ่งเค้าก็บอกว่า คันนี้แหละขึ้นไปเลย (ไม่ได้เก็บตั๋วไปด้วย)

ขึ้นไปถึง เอ๊ะ! ไหนอ่ะ ที่นั่ง ???
ในตั๋วมีระบุที่นั่งไว้ แต่ในรถไม่มีป้ายบอก เลยใช้วิธีนับที่นั่งเอา
สักพักคนขับขึ้นมาบอกว่า ตรงไหนว่างก็นั่งได้เลย อ่าววววววว

ตั๋ว Star Shuttle

รถ Star Shuttle

ภายในรถ


เมื่อรถเคลื่อนตัว ก็นั่งรถชมวิวมาเรื่อยๆ
แถวๆ KLIA2 ต้นปาล์มเยอะมาก มีต้นไม้เยอะแยะไปหมด เป็นกึ่งๆ เมือง กึ่งๆ สวน
มีเนินกับเขาเตี้ยๆ อยู่ตลอด
มองท้องฟ้าไป ในใจก็อธิษฐานขออย่าให้ฝนตกเล้ยยยยยยย เมฆมาครึ้มๆ ตลอดเวลา

วิวระหว่างทาง



Puduraya ท่ารถสายเหนือแห่งกัวลาลัมเปอร์


ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.ครึ่ง ก็ถึงบริเวณใกล้ห้าง MyDin
ตอนลงน่ะ หาไม่เจอหรอกนะ ไหนฟระห้าง ในรีวิวบอกว่าลงหน้าห้างนี่นา


รถมาจอดที่ป้ายนี้


ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย แผนที่เฉยๆ อาจจะช่วยอะไรไม่ได้
เราเลยต้องเปิด App สำหรับนำทางอย่าง  MAPS.ME ❤‿❤

จากป้ายรถเมล์ที่รถ Star Shuttle จอดให้ลง
เดินตรงไปตามถนนเรื่อยๆ ตามทางที่รถวิ่ง ก็จะเจอ MyDin อยู่ทางซ้ายมือ
เดินตรงต่อไปอีก ก็จะเจอท่ารถ อยู่ทางขวา มองหาตึกที่มีข้อความ UTC ซึ่งต้องข้ามถนนไป
ขณะนั้นฝนก็กำลังโปรยปรายลงมาเล็กน้อย

ข้ามถนนเพื่อไปยังตึก UTC

มองหาป้ายแบบนี้แหละ


เนื่องจากว่าท่ารถอยู่อีกฝั่งนึง เลยต้องทำการข้ามถนน
เห็นว่ามีไฟคนข้าม เลยหยุดรอจนกว่าไฟจะเขียว
รอเท่าไหร่ ไฟ(แม่ง) ก็ไม่เขียวสักทีฟระ  ヽ(o`皿′o)ノ

มองไปมองมา อ่าววววว!!!!!!! มีที่กด ต้องกดด้วยหรอ
อ่ะ ได้! ลองกดดู
ปึ้ก! รอสักพัก ...ก็ไม่เขียวสักที  ლ(ಠ益ಠ)ლ

เอาวะ ช่างมันแระ ดูคนท้องถิ่นเค้าก็ข้ามกันตอนรถโล่งๆ ไม่ได้สนใจไฟจราจรเท่าไหร่
เลยเดินตามเค้าไป 555

เส้นทางการเดินไป Puduraya


จากแผนที่ด้านบน

  1. ป้ายรถเมล์ที่รถ Star Shuttle มาส่ง
  2. ไชน่าทาวน์
  3. ห้าง MyDin
  4. ทางเข้า Puduraya
  5. โรงแรม Citin ที่เราจะมาพัก 2 คืนสุดท้าย (จริงๆ จะพักคืนเดียว แต่เกิดเหตุร้ายขึ้นก่อน)

ลูกศรสีเหลือง คือเส้นทางการเดินของพวกเรา

พอเดินไปถึงตึก ก็จะเห็นบันไดเลื่อนสำหรับเข้าไปบนตึก
เดินเข้าไปก็จะเห็นช่องสำหรับลงไปที่ Platform สำหรับรอรถ
มีร้านค้าเรียงรายอยู่มากมาย

ภายใน Puduraya
กระจกทรงครึ่งโดมด้านซ้ายมือ คือทางลงไปยัง Platform ต่างงๆ

ด้านนอก Puduraya ถ่ายจากตรงสะพานลอย
ฝั่งซ้ายคือโรงแรม Citin ฝั่งขวาคือ Puduraya
แต่ตอนเรามา เราอ้อมมาจากทางด้านหลัง


เสียเวลาเดินหาเคาน์เตอร์ขายตั๋วไปเกือบครึ่งชม.
อ่านจากรีวิว บอกว่าเคาน์เตอร์อยู่ชั้น 3

ก็กดลิฟต์ไปชั้น 3
ปรากฎว่า อ่าว!  เป็นสำนักงาน

เจอสำนักงาน


ถามคนแถวนั้น บอกลงไปชั้น 2
ก็เลยเดินลงบันไดไปอีกชั้นนึง
ปรากฎว่า อ่าว!  เป็นสำนักงานอีก

ถามคนแถวนั้นอีกที
บอกให้ลงไปอีก 1 ชั้น
ปรากฎว่า อ่าว!  เจอแล้ว 555

คือจริงๆ จากชั้นที่เจอทางลงไป Platform เราขึ้นไปอีก 1 ชั้นก็เจอแล้ว มัวงงอยู่ตั้งนาน

ทางเข้า เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว


สถานการณ์ภายในท่ารถก็คล้ายๆ กับบ้านเรา
คือจะมีคนตะโกนเชียร์ตั๋วที่เคาน์เตอร์ บางคนก็เดินมาถามว่าเราจะไปไหน อะไรยังไง ประมาณนี้

ภายในล็อบบี้ ค่อนข้างร้อน และเหม็นกลิ่นบุหรี่


ตั๋วขาไปซื้อมาจากไทยแล้ว คนละ 35 RM ของ Unititi Express
ได้ใบจองมา แล้วต้องมายื่นที่เคาน์เตอร์เพื่อให้เค้าออกตั๋วจริงให้

เคาน์เตอร์ Unititi Express


แต่ประเด็นสำคัญคือ ตั๋วขากลับ ยังไม่มี!
เดินไล่ถามทุกๆ เคาน์เตอร์เลย 555
ถามจาก Unititi Express เจ้าเดียวกับขาไป
ได้ความว่า เหลือแค่รอบ 5 โมงเย็น เช่นเดียวกับที่เช็คจากเว็บมา
เลยเลือกอีกเจ้านึง เพราะมีรอบ 11 โมงมา ราคาตั๋ว 40 RM แพงกว่าจองผ่านเน็ตแหะ

เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วอื่นๆ


ปล. ไปคาเมรอนจากกัวลา มีรถไปน้อยมาก แค่ 2-3 บริษัท
รอบรถก็จำกัดประมาณ 4-5 รอบ รถขนาดประมาณ 30 ที่นั่ง
ใครจะไป เตรียมตั๋วไว้ดีๆ นะ เผื่อเวลารถติดด้วย

หลังจากได้ตั๋วพร้อม ก็ไปนั่งรอรถอย่างสบายใจ มีเวลาอีกเกือบหนึ่งชม.
หาซื้อของขึ้นไปกินบนรถ เพราะรถอาจจะจอดหรือไม่ก็ได้ ไม่มีใครรู้

จุดขึ้นรถนั้น อยู่ชั้นล่างของทางที่เราเข้ามาครั้งแรก
ซึ่งจะมีทางลงเป็นช่องบอก Platform ให้เรียบร้อย ดูเป็นระเบียบดี

ระบบตั๋วโอเคนะ หมายเลขทะเบียนรถ กะ Platform สำหรับขึ้นรถ ระบุไว้ ทำให้ง่ายต่อการหารถ
ของเราขึ้น Platform 14 ก็ลงมาตามช่อง Platform 14

ป้ายทางลงไป Platform จากรูปคือ Platform 14

ลงไปรอรถด้านล่าง เหม็นกลิ่นบุหรี่กับควันรถมาก


รอไปสักพักก็มีรถเข้ามาใน Platform 14 แต่หมายเลขรถไม่ตรงกับที่ระบุในตั๋วงะ
ป้ายก็ไม่ได้บอกว่าจะไปคาเมรอน
ลองถามคนขับดู คนขับบอกว่าไม่ใช่
ใกล้ได้เวลารถออกแล้ว รถเราไปหนายยยยยยย

เห็นฝรั่งเดินออกไปดู Platform อื่น
ปรากฎว่า รถเรามันจอด Platform 15 ข้างๆ กัน อ่าววววววว
ดีว่าเดินตามฝรั่งข้างๆ ไป ถึงได้เจอรถตัวเอง หึ

รถทะเบียน AGA 8811 ตรงตามหมายเลขบนตั๋ว
ถ้าไม่แน่ใจว่าใช่รถเราหรือเปล่า ให้เอาตั๋วไปถามคนขับรถได้เลย

บริเวณจุดจอดรถ Platform ต่างๆ


รถกว้างดี แต่ไม่มีห้องน้ำนะจ๊ะ
รถวิ่งตั้ง 6 ชม. แถมบอกว่าเป็น VIP Bus แต่ไฉนไยจึงไม่มีห้องน้ำฟระ



 มุ่งสู่คาเมรอน ไฮแลนด์ 


รถวิ่งได้สักชั่วโมงกว่าๆ ก็จอดแวะบางจุด ให้เข้าห้องน้ำบ้าง
ห้องน้ำมาเลย์ เสียค่าเข้าประมาณ 0.3 RM
ห้องน้ำแค่พอใช้ได้

แวะเข้าห้องน้ำ แต่จริงๆ คนขับแค่จะมาจอดรับของ


แต่ไม่แวะกินข้าว ต้องหาของมากินระหว่างทางเอง
ดีนะ ซึ้อมาจากท่ารถแล้ว

ถึง Tapah ซึ่งเป็นเมืองที่มีแยกขึ้นคาเมรอน ตอนช่วงบ่ายสอง
หลงดีใจ นึกว่าจะใช้เวลาไปคาเมรอนแค่ 3 ชม. (กะไว้ ว่า 5-6 ชม.)

พอผ่าน Tapah ขึ้นแยกเข้าคาเมรอนเท่านั้นแหละ
รถติดจ้าาาาาาาาาาาาาาา (~_~メ)
ติดแบบ 10 กว่ากิโล ใช้เวลาสองชั่วโมงได้


รถติดหนักจริงๆ


เนื่องจากเป็นวันหยุดยาวของมาเลย์ด้วยเช่นกัน จึงต้องสังเวยเวลาให้กับรถติดไปโดยปริยาย


วิวระหว่างทาง


ก่อนถึงเมือง จะมีไร่ชา Bharat 
บางคนเค้าแวะชมไร่นั้น จอดรถขวางถนนอีก ทำให้การจราจรติดขัด
อารมณ์คิตตี้รีสอร์ทเลย


ไร่ชา Bharat อยู่ก่อนถึง Tanah Rata

เป็นไร่ชาที่ใหญ่จริงๆ

ไร่ชากินพื้นที่ภูเขาไปหลายลูก


เส้นทางขึ้นเขาที่คาเมรอนนั้นก็โหดใช่ย่อย
เพื่อนซึ่งเคยไปปายมาแล้ว กล่าวว่า ปายว่าโหดแล้ว คาเมรอนโหดยิ่งกว่า
โค้งถี่มากกกกกก  แล้วเป็นโค้งสั้นๆ
รถวิ่งยังกะงูเลื้อย แถมถนนแคบอีก
คนไม่เคยเมารถก็จะมาเมากันตรงนี้แหละ

ใช้เวลาเดินทางไปคาเมรอน 6 ชม! บร๊ะ



 คาเมรอน ไฮแลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ แดน มาเลเซีย 


มาถึงคาเมรอนแระ กรี๊ดดดดด (ノ◕ヮ◕)ノ✩*:・゚✧
เราเลือกพักบนเมือง Tanah Rata เพราะใกล้ท่ารถ และหารถง่ายกว่า
รถบัสจอดที่ Tourist Information ไม่ได้จอดที่ท่ารถ
แต่ก็ดี เพราะมันอยู่ใกล้ที่พักเรามากกว่า

รถจอดบริเวณนี้

เมือง Tanah Rata


พักที่  Dew Drop Inn 
แต่ตำแหน่งที่พักในอโกด้า ไม่ชัดเจน
(เพราะเราไปเทียบจากเว็บอื่นด้วย ซึ่งไม่ตรงกันสักที่)
เลยต้องคอยลุ้นกันว่าจะหาที่พักเจอมั๊ย

เดินออกมาจากจุดลงรถไม่ถึง 200 เมตร ตรงมาทางสามแยก ก็จะเจอป้ายบอกทางไปที่พัก
(สังเกตป้ายขาวๆ ทางซ้ายมือ ที่มีลูกศรสีแดง)

เจอทางแยกแบบนี้ ให้เลี้ยวขวาขึ้นเนินไป

ขึ้นเนินไปแล้วจะเจอป้ายของที่พัก
ลูกศรสีแดงชี้ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
และทำให้เราเข้าใจผิด เลี้ยวขวาตรงทางแยกที่มีเสาสีแดงๆ นั่น


ก็เดินตามป้ายบอกแหละ
เห็นมันเหมือนให้เลี้ยวขวา ไปเลยตามขึ้นไป
ปรากฎว่าทางเป็นลูกรัง ขึ้นเนินไปโครตตตตตตตไกล (¯―¯٥)
เพื่อพบว่า เป็นตึกร้างจ้าาา

ขึ้นไปเป็นทางขรุขระ วังเวง มีหมา แล้วยังมีแแพะอีก - -


เดินกลับลงมา (แบกกระเป๋า 7 โลไปด้วย)
เอ๊ะ! ทำไม เพื่อนฉัน อยู่ท่ามกลางฝูงหมา และแพะ 1 ตัวฟระ (ー_ー)!!

หมาเห่ากันใหญ่เลย เหลือแต่แพะที่ไม่เห่า
(แต่อิแพะนี่น่ากลัวกว่าหมาอีก )

หลุดจากฝูงไฮยีน่า เอ้ย! ฝูงหมามาได้
ก็เดินลงมาตรงป้ายเดิม ก่อนจะเดินตรงไปอีกนิดจากจุดที่เคยเลี้ยวไป
ถึงจะเจอที่พัก

ทางไปที่พัก จะเป็นลาดยางตลอดสาย

สวนหน้าบ้าน

สวนหน้าบ้าน

ตึกนี้น่าจะเป็นบ้านเจ้าของ

บ้านหลังขาวๆ นั่น คือ ที่พักของเรา และกระจกบ้านใหญ่ๆ นั่นก็กระจกห้องพักเรา


Check in เรียบร้อย ปลอดภัย ไม่มีค่าประกันกุญแจ
ที่พักราคาประมาณ 350 บาท จองมาจากไทย

ที่นี่เป็นเหมือนหอพักมากกว่าแหะ
เพราะมีเวลาเปิดปิดประตู
จะเข้าห้องได้ ต้องผ่านประตูหน้าบ้านก่อน
ปิด 4 ทุ่ม ถ้ากลับช้าต้องแจ้งเค้าก่อน (เพราะเค้าจะปิดประตูบ้านด้วย)

จองห้องสำหรับ 3 คน ห้องน้ำในตัวไว้
ห้องโอเค ฝุ่นน้อยกว่าที่แรก แต่เฟอร์ค่อนข้างเก่า
ห้องน้ำ ใหญ่มาก แต่เปิดน้ำแต่ละที เสียงโครตดังเลย
ในห้องไม่มีแอร์ ไม่มีพัดลม
เพราะอากาศหนาวอยู่แล้ว คอนเฟิร์ม! หนาวจริง
แต่เปิดหน้าต่างไม่ได้ เพราะอยู่ในป่า เด๋วยุงกะแมลงเข้า เลยรู้สึกอึดอัดนิดนึง

ห้องนอน ที่เฟอร์นิเจอร์เก่าไปหน่อย มีรอยจุดๆ บ้าง แต่ฝุ่นไม่ค่อยมี


ห้องน้ำแอดวานซ์มาก มีสองประตู
ประตูแรกเปิดเข้ามาในห้อง
อีกประตูเปิดออกไปตรงห้องโถง แต่ถูกล็อกไว้จากด้านใน
(ถ้าไม่ล็อค คนข้างนอกก็จะเข้ามาได้)
สงสัยอยู่ว่าเพื่ออะไร

พอเข้าไปเท่านั้นแหละ อืมมมมมมมมมมม
ประตูนึงแน่นมากกกก
ถ้าปิดแล้วเปิดเองไม่ได้ ต้องให้คนข้างในห้องถีบประตูให้
แต่ถ้าไม่มีใครอยู่
เราก็มีอีกตัวเลือกหนึ่งคือ
เปิดอีกประตู ซึ่งเป็นประตูติดกับห้องโถงด้านหน้า
แล้วเดินกลับมาในห้อง แล้วถีบอิประตูแน่นๆ นั่นซะ!
จะเข้าห้องน้ำที ลำบากแท้หนอออออออ ヽ(´ー`)┌

ห้องน้ำกว้าง แต่ฝักบัวเสียงดังมาก


ของใช้ภายในห้องไม่มีอะไรมากนะ มีผ้าเช็ดตัว (ที่เหมือนจะซักไม่ค่อยสะอาด) กะ สบู่ในห้องน้ำให้แค่นั้น แล้วก็มีตู้เสื้อผ้าจิ่วๆ กะไม้แขวนเสื้อให้ มีโต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ ให้ด้วย

แต่ตรงห้องโถง จะเป็นพื้นที่ส่วนรวม เราสามารถไปนั่งดูทีวี ไปดื่มชา กาแฟตรงนั้นได้

ห้องโถงรวม ห้องพักเราอยู่ติดกับห้องโถง แต่แทบไม่ได้ยินเสียงดังมาจากที่นี่เลย


จบเรื่องที่พัก แล้วก็เดินลงมาในตัวเมือง เพื่อหาที่กิน กะหารถไปตลาดนัดแถว Brinchang

อากาศที่นี่ดีมาก เย็นสบายยยยยย สดชื่นสุดๆ
ดูดีกว่าวังน้ำเขียว ตรงที่ มันไม่หนาวเกินไป

ร้านค้าในเมือง


เดินไปคิวรถ Taxi ซึ่งอยู่ตรง Bus Terminal ของ Tanah Rata
พี่ Taxi คิด 20 RM (จากปกติ 10 RM) เพราะว่ารถติดมากกกกก
(ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่พวกเราได้ประสบพบเจอมาแล้วตอนขาขึ้นคาเมรอน มันยังไม่เลิกติดอีกกกก)
เรากลัวกลับไม่ได้ เลยไม่เอา ไม่ไปก็ได้

หน้าตา Bus Terminal

จุดติดต่อรถ Taxi มีอัตราค่าโดยสารระบุอยู่ด้วย
ทางขวาเป็นจุดจำหน่ายตั๋วและท่ารถบัส

รถ Taxi


พอถามเรื่องทัวร์คาเมรอนพรุ่งนี้
เค้าบอกให้โทรมาที่เบอร์ศูนย์ Taxi นี้เลยตอนเช้า
(อันนี้พลาด จริงๆ ติดต่อ Taxi ควรตกลงให้เรียบร้อย แล้วขอเบอร์คนขับไว้เลย )

มีรถ Taxi จอดอยู่บ้าน ริมถนนในเมือง

จากนั้นหาอะไรกินแทน
อยากกินขนมที่ The lord's cafe 
ร้านขนมแสนอร่อย จากที่อ่านมาในรีวิวสักแห่ง
ปรากฎว่า หมดแล้วจ้าาา Sold Out! Sold Out!  (╥﹏╥) คำนี้ช่างบาดใจ ฮือออออ
สงสัยคนเยอะ ร้านเปิดอีกที วันจันทร์แน่ะ ฮือออออออ

ไปกิน Stream Boat แทนดีกว่า
ตอนแรกจะเลือกร้าน May Flower แต่คนเยอะมากกกก
เลยหันมาเลือกร้าน Nyonya ที่อยู่ติดกันแทน ตามมาจากรีวิวอีกละ
ไม่ใช่ว่า Nyonya คนน้อยนะ ตอนแรกที่เห็นไม่มีคน เพราะร้านเพิ่งเปิด แขกยังไม่มาจ้า
เข้าไปแล้วโต๊ะถูกจองเต็มเกือบหมด ดีว่ายังพอมีที่เหลือให้พวกเรา
ร้านจะอยู่หลัง May Bank อย่าเชื่อ Google Map นะ ถูกหลอกบ่อยแระสำหรับเมืองนี้

ร้าน May Flower อยู่ติดกับ Nyonya เลย

บรรยากาศในร้าน คนยังไม่มา แต่มีของมาวางแล้ว


Stream Boat ก็คือ สุกี้ แหละ แบบบ้านเราอ่ะ
ซื้อเป็นเซต เค้าจะจัดชุดพวกเนื้อ ผัก ลูกชิ้น เส้นหมี่ ฯลฯ ไว้

Stream Boat ที่โต๊ะข้างๆ สั่งไว้

โต๊ะข้างๆ นี่จัดเต็มกันจริงๆ

พวกเราซื้อ 2 ชุด (แต่กินกัน 3)
เลือกน้ำ 2 แบบ ต้มยำกะน้ำใส (ถ้าเลือกอย่างเดียวจะราคาถูกกว่า)
จะได้หม้อต้มสุกี้มา 1 หม้อ แบบแบ่งเป็นสองส่วน และอาหาร 2 ชุด
ตอนแรกสั่งมา 3 ชุด แต่พนักงานทำหน้าเหวอออ แล้วบอกว่ามันเยอะมากนะ เอาสองชุดก็พอ
ก็โอเค เซเยสไป แล้วก็สั่งน้ำมาคนละอย่าง
ราคาสิริรวม 55 RM 

สุกี้อร่อยดี น้ำต้มยำ อร่อยกว่าน้ำใส
ไอ้ที่เป็นเส้นหมี่ก็อร่อยอ่ะ เหมือนละลายในปาก ปลี้มมมมม (づ ̄ ³ ̄)づ
ตามรีวิวบอกว่า ร้านนี้ต้มยำอร่อย (จริง) แต่ถ้าเป็นร้าน May Flower น้ำใสจะอร่อยกว่า
อากาศหนาวๆ แบบนี้ กินสุกี้ ได้บรรยากาศ มากกกกกกกกก

Stream Boat ของโต๊ะเรา มา 4 คน กินแต่พอดีเนอะ
วิธีการทำก็ง่ายๆ อยากกินอะไรในเมนูก็สั่งมา แล้วโยนใส่หม้อปายยยย


จากนั้นก็เดินวนๆ อยู่แถวๆ ในเมืองแป๊บนึง
โดยเฉพาะส่วนที่เป็นโซนร้านค้า
เมืองไม่กว้างเท่าไหร่ เดินแป๊บเดียวก็หมดแล้ว

ตลาด Tanah Rata


พอเริ่มมืด ฝนก็เริ่มตั้งเค้ามาแต่ไกล
เลยรีบกลับเข้าห้อง จะได้ตื่นแต่เช้า

เล็งไว้ว่า พรุ่งนี้ ชั้นจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ไร่ชา ให้ได้! (•̀ᴗ•́)و

แผนที่จุดต่างๆ  ใน Tanah Rata

จากแผนที่ด้านบน

  1. จุดที่รถ Unititi Express พามาส่ง 
  2. Dew Drop Inn
  3. ตรงเนินเสาสีแดงที่เราขึ้นไปผิดทาง
  4. ท่ารถบัสกับแท็กซี่อยู่ด้วยกัน
  5. ร้าน May Flower
  6. ร้าน Nyonya ตรงมุมถนนถัดจาก หมายเลข 6 ไปทางขวา คือ May Bank
  7. The lord's cafe ที่เราอดกิน อยู่ใกล้ๆ MarryBrown
  8. ตลาด Tanah Rata
  9. ร้านอาหารที่เหมือนจะเปิด 24 ชม.


ปล.ที่นี่มีร้านจำหน่ายชา ของไร่ชาแรกที่เราเจอก่อนเข้าเมือง Tanah Rata ด้วย (Bharat)
รวมถึงชาของ BOH แต่ราคาก็จะแพงกว่าซื้อจากร้านของไร่ชาเองนิดหน่อย

ปิดท้ายด้วย Tanah Rata แบบพาโนรามา ถ่ายพลาดนิดหน่อย ไม่เป็นไรเนอะ


   สรุปค่าใช้จ่าย 


รายการต่อ 3 คนต่อคนเงินไทย
รถตู้กลับ KLIA2
-
RM5.00฿44.95
รถไป Puduraya-RM10.00฿89.90
ตั๋วกลับจากคาเมรอน-RM40.00฿359.60
น้ำ
-
RM1.00฿8.99
ห้องน้ำ
-
RM0.3฿2.70
Stream Boat
-
RM18.33฿164.82




รวม
RM74.63฿670.9237




╔══════════════════════ ೋღღೋ ══════════════════════╗

Link ที่เกี่ยวข้อง



╚══════════════════════ ೋღღೋ ══════════════════════╝

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : ประสบการณ์การซื้อยา Diamox ที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน

☞ ประสบการณ์ทำเควส "ตรวจสุขภาพ ศูนย์แพทย์พัฒนา" ☜

ประสบการณ์ยื่นขอวีซ่าจีน ด้วยตัวเอง <ก.ย 2561 & ส.ค 2562>