ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Family Trip 】 ขับชิลๆ เที่ยวเพชรบูรณ์-เลย 3 วัน 2 คืน ตอนที่ 1 ภูป่าเปาะ-เขาค้อ

╔♫╗───────♥──
║╩╠═╦═╦═╦╦╗
║╦║╬║╬║╬║║║
╚╩╩╩╣╔╣╔╬╗║♫
────♫╝╚╝╚═♥  ░N░E░W░★★░Y░E░A░R░

สวัสดีปีใหม่ 2016
ปีใหม่ ยังมาไม่ถึง แต่ทริปเราขอล่วงหน้าไปฉลองก่อนแล้วกันนะ (✿◠‿◠)


ทริปฉลองปีใหม่จ้าาาาา
พอดีกลับบ้านช่วงวันที่ 5 - 13 ธ.ค 2558
เลยจัดทริปครอบครัวกันซะหน่อยยย (>‿◠)✌


ทริปนี้กินเวลา 3 วัน 2 คืน เลือกช่วงวันที่ 7-9 ธ.ค.
วันที่ 7 ธ.ค เป็นวันชดเชยวันพ่อ คนอาจจะเยอะ แต่น่าจะมีที่พักเพียงพอ และราคาถูกกว่าช่วงอื่นๆ
วันที่ 8 ธ.ค วันธรรมดา ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ
วันที่ 9 ธ.ค วันธรรมดา เช่นกัน แต่วันถัดไปเป็นวันหยุดรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ควรกลับบ้านวันนี้ ไม่งั้นจะเจอเรทค่าที่พักช่วงวันหยุดยาวแน่ๆ


_/|''|''''\__
'-O---=O-°


เริ่มกันที่วันที่ 7 ก่อนเลย
พวกเราออกจากบ้านกันตั้งแต่ 6 โมงครึ่ง จริงๆ ตั้งใจว่าจะออกตั้งแต่ตี 5
แต่กว่าจะตื่น 5555 โดนพ่อบ่นเลย ไหนว่าจะตื่นแต่เช้า (มีพ่อคนเดียวตื่นตี 5)


สถานที่แรกที่จะไปคือ ภูป่าเปาะ
อยู่ที่ ต.ปวนพุ อ. หนองหิน จ.เลย
ขับรถจากอุดรไปประมาณ 3 ชั่วโมง (ตาม Google map)
ระหว่างนั้นมีพักกินข้าวที่ปั้มปตท. ก่อน


ถนนช่วงอุดรไปหนองหิน ค่อนข้างดี รถวิ่งได้สะดวก
แต่ช่วงจากเทศบาลต.หนองหิน มาศูนย์บริการนักท่องเที่ยวภูป่าเปาะ นั้นค่อนข้างขรุขระและชำรุดเยอะ
เนื่องจากเป็นถนนที่มีรถบรรทุกวิ่งเยอะ มีโรงงานน้ำตาลหลายแห่ง


จากเทศบาลต.หนองหิน วิ่งเข้าซอยตลาดเย็นถาวร มาประมาณ 15 กิโล (ขับขึ้นเขานิดหน่อย)
จะเจอ จุดชมวิว แต่พอไปถึง ไม่เห็นมีเจ้าหน้าที่หรือแม่ค้าอยู่เลย


ภายในมีจุดจอดรถ จอดได้ประมาณ 10 คัน
มีศาลาพักผ่อน ร้านค้าที่ไม่เปิดทำการ ห้องน้ำสาธารณะ
มีจุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นภูเขาหินปูนสวยงาม และวิวเมืองด้านล่างได้


มีหมาดำอยู่ 1 ตัว ซึ่งท่านพอได้ทำการผูกมิตรด้วยขนมสาลี่ 1 กล่อง (¬‿¬)
พวกเราแวะพักที่จุดนี้ไม่นาน เนื่องจากจุดชมวิวมีแค่จุดเดียว และไม่มีร้านค้าเปิดเลย

จุดชมวิว

ท่านพ่อทำการผูกมิตรกับเจ้าถิ่น

เสร็จหนูล่ะ

จากนั้นเดินทางต่อไปอีก  5 กิโล ก็จะเจอ สวนหินผางาม
ซึ่งอยู่ก่อนภูป่าเปาะประมาณ 5 กิโล
ท่านแม่เห็นภูเขาหินปูนสวยดี เลยบอกให้แวะมาที่นี่ก่อน


ขณะนี้เวลาประมาณ 9 โมงกว่าๆ เร็วกว่าที่คาดไว้เยอะอยู่
เลยแวะไปดูซะหน่อย


ตอนแรกที่ไม่มาเที่ยวที่นี่ เพราะท่านแม่เคยบอกว่าไม่ชอบพวกที่เป็นป่าเขา
คิดว่าพามาภูป่าเปาะที่เดียว ก็น่าจะบ่นเยอะแล้ว เลยไม่พามาดีกว่า ที่ไหนได้ ดันชอบซะนี่ (─‿‿─)


ป้ายทางเข้าค่อนข้างใหญ่ ไม่ต้องกลัวหลง
ขับรถจากถนนเส้นหลักเข้าไปนิดหน่อย
ระหว่างทางเข้ามีดอกบัวตองทั้งสองฝั่ง แต่เสียดายเริ่มเหี่ยวแล้ว


ไปถึงจะเจอที่จอดรถฟรี มีร้านค้าต่างๆ เปิดทำการแล้ว
เป็นของที่ระลึก ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม หลายร้านเลยทีเดียว

ลานจอดรถ

ร้านค้า

จอดฟรีจ้า

ตลอดทางเข้ามาในนี้ จะเจอบ้านเรือนที่หน้าบ้านใช้ถังขยะหน้าตาแบบนี้ ตกแต่งน่ารักเชียว

จากจุดจอดรถ เดินต่อไปอีกนิดเดียว
จะเจอภูเขาหินปูนสวยงามขนาดใหญ่ มีคนมาถ่ายรูปเยอะเลย
บริเวณนั้นก็มีจัดสวนหย่อม แล้วก็ประดับด้วยพร็อพต่างๆ สำหรับถ่ายรูป (บางทีก็คิดว่ามันรกไปหน่อยนะ)

เดินจากลานจอดรถไปที่สวนหิน

บริเวณสวน

สวนหินผางาม

รอบๆ สวนหิน

ตรงจุดนี้เป็นเพียงแค่ประตูหน้าด่านเท่านั้น ความจริงแล้วลึกเข้าไป ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติและชมภูเขาหินปูนอยู่อีก แต่กลัวจะใช้เวลานานเกินไป เนื่องจากเราไม่ได้เผื่อเวลาไว้สำหรับที่แห่งนี้


ส่วนนักท่องเที่ยวที่สนใจจะชมคุนหมิงเมืองเลย สามารถติดต่อที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
เพื่อนั่งรถเข้าไปชมคุนหมิงเมืองเลยได้ หากสนใจลองอ่านรายละเอียด ที่นี่

รถนำเที่ยว

พื้นที่บริเวณสวนหิน ไม่ได้กว้างมากนัก เราอยู่ที่นี่กันประมาณครึ่งชั่วโมง
ก็เดินทางไปยังจุดหมายหลักของเรา


จากสวนหินผางาม ขับรถต่อไปอีก ประมาณ 5 กิโล จะเจอป้าย ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวภูป่าเปาะ
ขณะนี้เวลาประมาณ 10 โมงกว่าแล้ว
ที่นี่จะมีที่จอดรถเยอะกว่าสวนหิน น่าจะจอดได้สัก 50 คัน จอดได้ฟรีเช่นกัน

ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ภูป่าเปาะ

มีร้านค้าหลายร้านเช่นกัน ด้านในสุดจะเป็นศูนย์บริการ มีเจ้าหน้าที่คอยจำหน่ายบัตรขึ้นภู


การขึ้นไปชมวิวภูป่าเปาะนั้น ไม่อนุญาตให้นำรถส่วนตัวขึ้น
ต้องมาซื้อตั๋วสำหรับนั่งรถที่จัดเตรียมไว้ให้เท่านั้น

รถอีแต๊ก

หน้าตาเหมือนรถไถ ท่านแม่บอกว่า มันเรียกว่า รถอีแต๊ก ต่อจากนี้ไปจะเรียกตามท่านแม่ก็แล้วกัน
ราคาคนละ 60 บาท เป็นการเหมารถไปเลย
มาคนเดียวก็นั่งได้ คนเดียวก็ให้บริการนะ ไม่ต้องรอผู้โดยสารคนอื่นๆ
ถ้าพร้อมก็ขึ้นรถได้เลย เจ้าหน้าที่จะบอกเราว่าเราต้องขึ้นรถคันไหน


ก่อนขึ้นควรเตรียมเครื่องดื่มและของกินไว้ให้พร้อม ทำธุระส่วนตัวให้เสร็จเรียบร้อย เพราะด้านบนไม่มีร้านค้า และห้องน้ำค่อนข้างลำบาก


เอาล่ะ พร้อมแล้ว เดินทางได้
ก่อนเดินทาง ท่านแม่เตี้ยมกะคนขับให้ขับช้าๆ หน่อย

เข้าสู่ภูป่าเปาะ

คนขับใจดีค่ะ ขับช้าๆ ให้สมใจท่านแม่
รถเราโดนรถอีแต๊กคันหลัง แซงหมดเลยยยยยยย

ห้ามรถส่วนตัวเข้านะจ๊ะ

ถนนจะเป็นลูกรัง มีทางขึ้นเขาชันๆ หลายจุด ทางค่อนข้างแคบ เหมาะแล้วที่ใช้รถแบบนี้พาขึ้น
แต่ไม่ต้องกลัว ท่านแม่ขึ้นมาได้ คนสูงอายุคนอื่นๆ ก็ขึ้นมาได้เช่นกัลลลลลลล (/◕ヮ◕)/

รถคันอื่นๆ

ระหว่างทาง

ก็มีขึ้นเขาบ้าง

ขับจากศูนย์บริการมาประมาณ 2 กิโล จะเจอจุดชมวิว
ภูป่าเปาะ นั้นสามารถมองเห็น ภูหอ ซึ่งเป็นภูเขาสูงยอดตัด มีลักษณะคล้ายภูเขาไฟฟูจิของญี่ปุ่น จึงเรียกว่า ฟูจิเมืองเลย
ซึ่งจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยว คือการมาชม ฟูจิเมืองเลย นี่เอง


โดยภูป่าเปาะ จะมีจุดชมวิวทั้งหมด 4 จุด แต่รถจะแวะส่งเราตามจุดชมวิวต่างๆ แค่ 3 จุด
ส่วนจุดที่ 4 ต้องเดินต่อไปจากจุดที่ 3 เอง


เริ่มจากจุดที่ 1
จะเป็นระเบียงไม้ ยื่นออกไปเพื่อชมวิวฟูจิเมืองเลย
มีดอกบัวตองรอบๆ ด้วย เป็นพุ่มดูสวยเชียว แต่เสียดาย มันเหี่ยวไปเยอะแล้ว

ฟูจิเมืองเลย ณ จุดชมวิว ที่ 1

ฟูจิเมืองเลย ณ จุดชมวิว ที่ 1

ฟูจิเมืองเลย ณ จุดชมวิว ที่ 1

จุดชมวิว ที่ 1

ตอนสายๆ คนยังไม่เยอะเท่าไหร่ ขึ้นมาที่จุดนี้ มีนักท่องเที่ยวอยู่แค่กลุ่มเดียว
ถ่ายรูปได้สบายๆ


จากนั้นนั่งรถคันเดิม ไปยังจุดที่ 2
ตรงนี้มีเสาชิงช้าต้นใหญ่ๆ อยู่ มีป้ายภูป่าเปาะ อันใหญ่ข้างๆ ถัดไปจะมีระเบียงไม้เล็กๆ ด้วย

ให้คนขับรถช่วยถ่ายให้ ไหนฟูจิหนูล่ะ T0T

ฟูจิเมืองเลย ณ จุดชมวิว ที่ 2

ฟูจิเมืองเลย ณ จุดชมวิว ที่ 2

ต่อไป จุดที่ 3
ตรงนี้จะมีลานจอดรถใหญ่ๆ รถจะเข้าไปจอดที่ลานนั้น (จุดอื่นๆ จอดริมถนน)
แล้วเราต้องเดินขึ้นเนินไปประมาณ 20 เมตร เนินค่อนข้างชันแค่เดินระยะแค่นี้ยังเหนื่อย
ด้านบนจะมีระเบียงคล้ายกับจุดแรก จะมองเห็นวิวได้กว้างกว่า
มีศาลาให้นั่งพัก ซึ่งท่านแม่ ขอนั่งพักอยู่แถวนี้ดีกว่า

ลานจอดรถก่อนถึงทางขึ้น จุดชมวิวที่ 3

เดินขึ้นเนินมา เพื่อมาที่จุดชมวิวที่ 3

ฟูจิเมืองเลย ณ จุดชมวิว ที่ 3

จากนั้นเรากับท่านพ่อ ก็เดินขึ้นไปยังจุดที่ 4
ระยะทางขึ้นเขาประมาณ 200 เมตร ตามคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่
จะผ่านพวกป่าไผ่ และต้นไม้ใหญ่ๆ


จากจุดที่ 3 เดินขึ้นบันไดไปนิดหน่อย (เป็นขั้นบันไดที่ทำจากดิน)
จะเจอทางแยกเป็นทางเรียบ กับทางที่เป็นบันได
ทั้งสองทางไปถึงจุดชมวิวเหมือนกัน (เพราะมีจุดที่ไปบรรจบกันด้านบน)
ทางเรียบจะอ้อมกว่า แต่เหมาะกับคนที่ไม่อยากเดินขึ้นบันไดเยอะๆ
ทางที่เป็นบันได จะสั้นกว่า แต่ก็ต้องขึ้นไปหลายขั้น

ทางเข้าไปยังจุดชมวิวที่ 4

เดินทางผ่านป่าไผ่ และเหล่าต้นไม้นานาพันธุ์

เราเลือกจะขึ้นทางเรียบ แล้วกลับลงมาทางบันได
เหนือยค่ะ เหนื่อยมากกกก แต่ทำไมหอบอยู่คนเดียว ท่านพ่อไม่เห็นเป็นอะไรเลย (ーー;)


ไปถึงยอดจะเจอป้าย ผู้พิชิตยอดภูป่าเปาะ  ٩(ˊᗜˋ˚)و
บนยอดนี้ มองเห็นวิวได้ 360 องศา แต่มีพวกต้นหญ้า ต้นไม้บังบ้างงงงง
มองเห็น ฟูจิเมืองเลย ได้ทั้งลูก มีป้ายบอกทิศทางของสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อยู่ด้วย

ท่านพ่อเดินขึ้นมาอย่างไม่ยากเย็นเท่าไหร่

ฟูจิเมืองเลย ณ จุดชมวิว ที่ 4

ด้านบนมีป้ายบอกทิศทางของสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ

ฟูจิเมืองเลย ณ จุดชมวิว ที่ 4

ฟูจิเมืองเลย ณ จุดชมวิว ที่ 4

ฟูจิเมืองเลย ณ จุดชมวิว ที่ 4

อยู่ด้านบนไม่นานมาก เพราะจริงๆ มันก็มีวิวให้ดูไม่เยอะหรอก หมุนรอบตัว 1 รอบ
แถมสองคนที่ขึ้นมา ก็ชอบถ่ายแต่รูปวิวทั้งคู่ ไม่มีนางแบบนายแบบตามมาด้วย 555


พักจนหายเหนื่อย ก็เดินกลับลงมาด้านล่าง
มารับท่านแม่ไปที่รถ
ตอนนี้คนเริ่มขึ้นมากันเยอะแล้ว
แต่มีไม่เยอะที่ขึ้นไปจนถึงจุดที่ 4


กลับลงมาที่ศูนย์ ตอนนี้เวลาเกือบเที่ยงแล้ว
ออกเดินทางต่อไป เขาค้อ


ตอนแรกเลือกเส้นทางที่สั้นที่สุดตาม Google Map
แต่คนขับรถอีแต๊กบอกว่า ทางจะลำบากหน่อย
ซึ่งดูจากทางที่เราวิ่งเข้ามาแล้ว ถ้าขับต่อไป ก็น่าจะลำบากอยู่นะ ถนนชำรุดเยอะ


เลยตัดสินใจขับรถกลับทางเดิม
แล้วขับตามถนนใหญ่ไปเส้นที่ไปชุมแพ แต่ให้เลี้ยวขวาไปทางน้ำหนาวก่อนถึงชุมแพ
เลยได้ผ่านน้ำหนาวด้วย

แวะกินข้าวที่ ปตท ผานกเค้า

ไปถึงเขาค้อประมาณบ่าย  3 โมง
ตกลงว่าไปเที่ยวก่อน ยังไม่ไปหาที่พัก (คือยังไม่ได้จองด้วย 555)


ขับรถขึ้นไป วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว
จากถนนใหญ่ ขับไปประมาณ 2-3 กิโล ไม่ไกลมาก
ทางค่อนข้างแคบ ถนนเป็นปูน
จริงๆ แล้วมีทางเข้าหลายทางนะ แต่เราไปตาม GPS ซึ่งบอกทางที่ใกล้ที่สุดมา


ไปถึงเจอลานจอดรถเลย อยู่ด้านหลังวัด
ลานจอดรถสามารถรองรับรถได้หลายคัน และดูเหมือนกำลังพยายามทำที่จอดรถเพิ่มอยู่เรื่อยๆ
ที่จอดรถตรงนี้ เสียเงิน 30 บาท จ่ายตอนเอารถออก

ลานจอดรถ

จากลานจอดรถ เดินไม่ไกล (แต่ต้องขึ้นเนินนิดหน่อย) ก็จะถึงด้านหลังวัด
เดินใกล้กว่าการเอารถไปจอดด้านหน้า


ไปถึงจะเจอ พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ทางขวา และเจดีย์พระธาตุผาแก้วทางซ้าย
พวกเราเดินไปที่พระพุทธรูปก่อน

พระพุทธเจ้า 5 พระองค์

องค์พระสร้างเสร็จแล้ว แต่ตรงฐานยังคงก่อสร้างอยู่
รอบๆ มีลานกว้าง ที่ประดับพื้นด้วยหินและกระเบื้องสีต่างๆ เป็นลาดลายสวยงาม

พระพุทธเจ้า 5 พระองค์

ตรงกลางจะมีลูกแก้วสีแดงฝังอยู่ที่พื้น นักท่องเที่ยวจะมาไหว้พระที่จุดนี้
เราจะเห็นคนยืนต่อคิวกันอยู่ เพื่อกราบพระตรงลูกแก้วนี้

คนมาต่อคิวเพื่อไหว้พระ

พระพุทธเจ้า 5 พระองค์

รอบๆ ลานสามารถชมวิวเขาค้อได้


จากพระพุทธรูป เดินไปฝั่งตรงข้ามที่เป็นเจดีย์
องค์เจดีย์ประดับด้วย ถ้วยกระเบื้องและหินสีต่างๆ
พื้นก็ประดับด้วยกระเบื้องและหินสีต่างๆ ด้วยเช่นกัน

เจดีย์พระธาตุผาแก้ว

ลายกระเบื้องบนพื้น

ลานหน้าเจดีย์

เจดีย์แบ่งออกเป็นหลายๆ ชั้น
เราสามารถขึ้นไปชมวิวรอบๆ จากบนชั้นต่างๆ ได้
ทางเดินชั้นบนๆ จะแคบลงเรื่อยๆ

รอบๆ เจดีย์

รอบๆ เจดีย์

รอบๆ เจดีย์

รอบๆ เจดีย์

รอบๆ เจดีย์

พระพุทธรูปด้านในเจดีย์

จากเจดีย์ สามารถมองเห็นพระพุทธรูปได้

จากเจดีย์ด้านบน มองมาด้านล่าง

วิวจากด้านบนเจดีย์

วิวจากด้านบนเจดีย์

ในวัดนี้จะมีสถานที่สำคัญอื่นๆ อีกเช่น ลานโพธิ์ ลานพระสีวลี
แต่ไม่ได้เข้าไป เพราะท่านแม่บ่นเหนื่อยแล้ว เลยกลับ

ทางเข้าห้องน้ำ อยู่ด้านล่าง ทางลงจะอยู่บริเวณหน้าประตูทางเข้าเจดีย์

ท่านแม่มาถ่ายรูปก่อนเข้าห้องน้ำ

จากวัด เราเดินทางไปยังจุดชมวิวอีกแห่งหนึ่ง
Pino Latte เป็นร้านกาแฟ ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับวัด แต่อยู่สูงกว่า
ทำให้สามารถมองเห็นวิววัดพระธาตุผาซ่อนแก้วได้ด้วย

ลานจอดรถ Pino Latte

ฝั่งตรงข้ามมีทุ่งหญ้า สวยมาก

จุดชมวิว

มองเห็นวัดได้ ด้านล่างนี้เป็นที่พักด้วย

ร้าน Pino Latte

วิวสวยๆ จากร้าน Pino Latte

วิวสวยๆ จากร้าน Pino Latte

วิวสวยๆ จากร้าน Pino Latte

ร้าน Pino Latte

ร้าน Pino Latte

ร้าน Pino Latte

ร้าน Pino Latte

ร้านไม่ใหญ่มาก แต่วิวสวยมากกก ที่นี่มีที่พักด้วย


ออกจากร้านมา ก็ไปหาร้านอาหารกัน เลือกร้านที่ เอ่อ... ใกล้ที่สุด 5555
ชื่อร้านครัวเจ๊น้อย เป็นร้านอาหารและด้านในก็เป็นร้านขายของชำด้วย


อาหารราคาไม่แพง รสชาติดี และให้ปริมาณเยอะดี (แต่ข้าวให้น้อยไปหน่อย)

ร้านครัวเจ๊น้อย

ตอนนี้พระอาทิตย์ตกดินไปแล้วววว
แล้วที่พักเราล่ะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ （￣□￣；）


ยังไม่มี มาเที่ยวกับครอบครัวไม่เคยจองที่พัก
เพราะที่บ้านจะชอบแบบ ขับไปเรื่อยๆ อยากพักที่ไหนก็พัก (=_=)
และท่านแม่ยังไม่ตกลงว่าจะไปเที่ยวหรือเปล่า ดังนั้นไม่จองๆ


แต่เล็งไว้แล้ว
ที่พักชื่อ วัลภารีสอร์ท เขาค้อ
หารีวิวแทบไม่เจอเลย
แต่ราคาที่พักถูกที่สุดเท่าที่สำรวจมา
และเนื่องด้วยมืดแล้ว เราเลยไม่มีเวลาจะไปสำรวจที่พักอื่นๆ เลย


มุ่งตรงไปที่ วัลภารีสอร์ท
อยู่ที่ทุ่งสมอ ห่างจากไร่บีเอ็นไปประมาณ 5 กิโล
ที่พักอยู่ติดถนนใหญ่


แต่ถนนจากเส้นหลักมาทุ่งสมอ ค่อนข้างมืด ไฟข้างทางไม่ค่อยมี
บ้านเรือนก็น้อยไปหน่อย ดูน่ากลัวๆ ยังไงไม่รู้ (¯―¯٥)


ถึงที่พัก มียามเฝ้าอยู่
ที่พักออกแนว การ์เด้นรีสอร์ท
มีที่จอดรถให้
ที่พักอยู่ท่ามกลางสวนใหญ่ๆ แต่น่าเสียดายที่มืดแล้ว ทำให้มองไม่เห็นบรรยากาศบริเวณที่พักเลย


ไปถามห้องพักจากยาม ก็ได้ห้องมาราคา 1000 บาท
เป็นบ้านไม้ 1 หลัง มีแอร์ น้ำอุ่น ทีวี ตู้เย็น ห้องน้ำในตัว พร้อมที่นอนเสริม 1 ชุด
สำหรับที่พักนี้ อ่านตอน 4 เลยค่ะ (─‿‿─)

╔═══════════════════════ ೋღ❤ღೋ ═══════════════════════╗

Link ที่เกี่ยวข้อง

★ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Family Trip 】 ขับชิลๆ เที่ยวเพชรบูรณ์-เลย 3 วัน 2 คืน ตอนที่ 1 ภูป่าเปาะ-เขาค้อ
★ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Family Trip 】 ขับชิลๆ เที่ยวเพชรบูรณ์-เลย 3 วัน 2 คืน ตอนที่ 2 ภูทับเบิก-เชียงคาน
★ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Family Trip 】 ขับชิลๆ เที่ยวเพชรบูรณ์-เลย 3 วัน 2 คืน ตอนที่ 3 ภูทอก
★ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Family Trip 】 ขับชิลๆ เที่ยวเพชรบูรณ์-เลย 3 วัน 2 คืน ตอนที่ 4 รีวิวที่พัก วัลภารีสอร์ทเขาค้อ
★ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Family Trip 】 ขับชิลๆ เที่ยวเพชรบูรณ์-เลย 3 วัน 2 คืน ตอนที่ 5 รีวิวที่พัก บ้านริมโขง

╚═══════════════════════ ೋღ❤ღೋ ═══════════════════════╝