ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【ภูเก็ต】Day 2 - มองเห็นเรือใบ...แล่นอยู่ในทะเล




สวัสดียามเช้าวันที่สอง ณ ภูเก็ต
หลังจากทำธุระส่วนตัว และทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว
เราก็ออกเดินทาง ไปนั่งเรือใบกัน

ครั้งนี้ จองทัวร์กับ Discover Catamaran จากงานท่องเที่ยว
แพลน B10 ล่องเรือใบ ไปเกาะไม้ท่อน รอบเช้า 10.00 - 16.00



แพลน B10 ทาง Discover Catamaran แจ้งไว้ล่วงหน้าว่า
ดำเนินการโดยทีมงานของเกาะไม้ท่อนเอง
ราคาคนละ 2,800 บาท
ไม่รวมรถรับส่ง เพราะจะขับไปเอง
แต่ถ้ารวมรถรับส่งด้วย จะเสียอีกประมาณ 200 ต่อคน

มัดจำหน้างาน 1,000 บาท แล้วโอนก่อนเดินทาง 7 วัน อีก 15,800 บาท
ซึ่งก็เกือบพลาด เนื่องจากลืมโอน กว่าจะนึกได้ ก็สองทุ่มกว่าแล้ว
ทางทัวร์ไม่ได้โทรมาทวงด้วย 😟


ขับรถจากโรงแรมไปยังท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต ซีสตา
GPS: 7°49'12.6"N 98°24'17.4"E




ถ้าในรีวิวอื่นๆ เห็นเค้าไปท่าเรือ Dolphin Pier ดูหรูหรา น่าคบหา
แต่ท่าเรือเรา เหมือนท่าเรือขนสินค้า
ตอนขับรถเข้าไป ก็มีจนท. ตรวจเข้มงวด



เข้าไปด้านใน เจอเรือขนสินค้าขนาดใหญ่
คิดในใจ มาถูกทีรึเปล่าหว่า 😕



จอดรถตรงที่จอด แล้วเข้าไปตรงที่ศาลา ที่เหมือนจะมีทัวร์รออยู่
ก็พบว่า ... ที่นี่แหละ ถูกต้อง 😥



.....
.....

ไม่เหมือนในรีวิวเล้ยยยยย หรือเราเป็นทัวร์แบบถูกๆ 😣 (จริงๆ ก็ไม่ถูกนะ 555)
เข้าไปเพื่อลงทะเบียน
และรับสายรัดข้อมือมา

สายนี้มูลค่า 500 บาท ห้ามหาย!!!
เอาไว้แตะเครื่องกั้นสำหรับขึ้นเกาะโดยเฉพาะ



ด้านในมีห้องน้ำ สภาพใช้ได้
ใกล้ๆ มีจุดจอดเรือใบอยู่
เรือลำไม่ใหญ่มาก
และท่าทาง เราจะมีเพื่อนร่วมทริปเยอะเสียด้วย 😒




มีขนมกับน้ำ ไว้บริการระหว่างรอขึ้นเรือ




ใกล้ๆ มีร้านขายของด้วย



เมื่อถึงเวลาออกเดินทาง
ทีมงานจะประกาศเรียกคน ตามสีของสายรัดข้อมือ
แล้วจะประกาศเรียกชื่อแต่ละกลุ่ม  เพื่อให้เข้าแถวตามลำดับ
แจกป้ายคิวด้วย และให้เดินขึ้นเรือตามคิวที่จัดไว้
มีถ่ายรูปทำของที่ระลึกระหว่างขึ้นเรือด้วยนะ




ถอดรองเท้าตรงโป๊ะเรือ เพื่อความสะอาด




ได้ขึ้นเป็นกลุ่มท้ายๆ เลย



ส่วนใหญ่คนจะไปออกันอยู่ด้านหน้าของเรือ ซึ่งเป็นจุดที่เค้านิยมถ่ายรูปกัน




ส่วนเราได้นั่งตรงโต๊ะด้านหลัง



ภายในเรือ










ห้องน้ำ







ด้านนอก







บนเรือไม่มีผ้าขนหนูให้นะ ต้องเตรียมมาเอง
แนะนำว่า เตรียมหมวก แว่นกันแดด และเสื้อคลุมมาด้วย เพราะข้างนอก ร้อนมาก 😵

บรรยากาศต่างกับที่เห็นในรีวิวเลย
เนื่องจากคนเยอะมาก น่าจะ 30 คนได้
หามุมถ่ายรูปไม่ค่อยได้เลย

พอเรือแล่นได้สักพัก คนก็จะมานั่งอยู่ด้านนอก
เนื่องจากด้านใน ไม่ค่อยได้รับลม
อากาศร้อน แล้วก็เมาเรือง่ายกว่า



นอกจากด้านหน้าของเรือแล้ว ก็มีคนขึ้นไปนั่งบนหลังคาด้วย
ซึี่งทำเลดี เพราะว่า ได้รับเงาของใบเรือ เลยไม่ค่อยร้อน แถมลมเย็นๆ อีกต่างหาก





เรือแล่นอย่างช้าๆ ไม่โครงเครง
โชคดีที่ถึงแม้จะมีพยากรณ์อากาศให้ระวังพายุ
แต่เส้นทางที่เราไปนั้น ฟ้าใสมากกกก แดดเปรี้ยงเชียว

มีแจกน้ำอัดลมอยู่เรื่อยๆ



ส่วนไกด์บริการดีมาก
น่าจะเป็นช่างภาพมืออาชีพด้วย 555
มีการครีเอทท่าให้ ถ่ายรูปให้ บริการสุดชีวิต
ถ่ายรูปแต่ละที กลัวพี่ตกลงไปในทะเลจริงๆ




หลังจากเรือแล่นไปเกือบ 1 ชม. จะไปจอดตรงๆ ใกล้ๆ เกาะ เพื่อ ตกปลาค่ะ 🐟
ให้ลูกทัวร์ไปนั่งตรงกราบเรือ แล้วแจกเชือก พร้อมเหยื่อ
จริงๆ ในใจคิดว่า เค้าให้เราตกปลา เพื่อฆ่าเวลารึเปล่า จะได้ไปถึงเกาะตอนเที่ยงพอดี 😅555


.... ชั้นนั่งตกปลาอยู่ริมตลิ่งงงงงงงงงง 🎣

ก็มีคนตกได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
แต่จังหวะนี้ ด้านหน้าเรือจะว่าง
ใครอยากถ่ายรูป เชิญเลยค่ะ ปลอดคนแล้ว



หลังจากตกปลาเสร็จ
เรือก็จะแล่นต่อไปยังท่าเรือของเกาะไม้ท่อน
ขนสัมภาระลงจากเรือ
รับรองเท้าที่โป๊ะเรือ
จากนั้นก็เดินเรียงแถว ขึ้นเกาะ





การขึ้นเกาะต้องใช้สายรัดข้อมือ ในการเข้าไป







ไกด์จะเรียกรวมกันบริเวณลานฮอก่อน
เพื่อนัดหมายเวลา





กำหนดการณ์คร่าวๆ คือ
👉 12.00 กว่าๆ ไปทานข้าว
👉 13.00 ใครจะดำน้ำ ให้ไปรอที่สระว่ายน้ำ
👉 14.50 เจอกันที่นี่อีกครั้ง เพื่อนั่งเรือกลับ
สรุปมีเวลาบนเกาะ ประมาณ 2 ชม. ครึ่ง

มีห้องน้ำ กับ ฝักบัวล้างตัวบริเวณใกล้ลานฮอ ด้านหลังจุดนัดพบ
นอกจากนี้ยังมีฝักบัวล้างตัวตรงจุดยืมสน็อคเกิ้ล (่ข้างสระว่ายน้ำ) ด้วย

ทางเกาะมีอุปกรณ์สน็อคเกิ้ล กับเสื้อชูชีพให้ยืมฟรี
ส่วนพวกผ้าขนหนู หรือกิจกรรมอื่นๆ เช่น พายเรือคายัค ต้องเสียเงินเพิ่ม




สระว่ายน้ำ เราสามารถใช้บริการได้เลย



ทานอาหารกลางวันบนเกาะไม้ท่อน




เดินเล่นทางฝั่งซ้าย
มีร้านอาหาร และมุมพักผ่อนเยอะแยะเลย







ตรงนี้จะอยู่ใกล้สะพานขึ้นเกาะ
เป็นหาดเล็กๆ มีโขดหินค่อนข้างเยอะ
ไกด์ไม่แนะนำให้ลงเล่นน้ำ














ถ้าเดินไปจนสุดหาด จะมีชิงช้าให้นั่งเล่น



ใช้เวลาเดินเล่นประมาณ 15-20 นาทีก็ครบ

ต่อไปหาดทางฝั่งขวาบ้าง
จะเป็นหาดทรายขาวละเอียด ทอดยาวไปไกลมาก ซึ่งเราเดินไปแค่หน่อยเดียว












จุดชมวิวจะอยู่ห่างออกไปประมาณ 400 เมตร
แต่เวลาไม่พอเลยไม่ได้ไป 😭


กิจกรรมดำน้ำ
จะอยู่หน้าหาด
เริ่มจากไกด์ พาไปฝึกใช้อุปกรณ์ดำน้ำ
แล้วจะมีพี่อีกคน ช่วยลากเราไปยังจุดดำน้ำ สำหรับคนที่ว่ายน้ำไม่เป็น
ส่วนใครที่ว่ายน้ำเป็นก็ ไปดำน้ำเองได้เลย

แต่เราว่า ปะการังไม่สวย 5555






น้ำใส หาดสวย






ในที่สุดก็ได้เวลากลับขึ้นเรือ
ก่อนออกจากท่าเรือ ก็ต้องคืนสายรัดข้อมือ
ถอดรองเท้าที่โป๊ะ





คราวนี้ ด้านในเรือเต็มค่ะ ทุกคนหนีแดดเข้าไปด้านในเรือกันหมดแล้ว
พวกเราเลยต้องไปนั่งด้านหน้าเรือ
แต่ไกด์แนะนำให้นั่งทางฝั่งขวา เนื่องจากเงาจากใบเรือ จะช่วยบังแดดให้




ตอนนี้ด้านหน้าเรือว่างมาก ทุกคนไปอยู่ในเรือ กับบนหลังคากันหมด
ระหว่างนี้ก็ถ่ายรูปชมวิว ไปเรื่อยๆ
มีแจกน้ำอัดลม กับผลไม้








เรือใช้เวลาแล่นประมาณ 1 ชม. ก็ถึงท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต
ใส่รองเท้า แล้วก็ไปส่องๆ ดูของที่ระลึก
เป็นรูปตัวเอง ปรินท์อยู่บนถาด ราคาใบละ 100 บาท




หลังจากนั้นก็เดินทางไปจุดชมวิวช่องเขาขาด



วันนี้คนไม่ค่อยมีเท่าไหร่
เวลาเดินขึ้น แม่ค้าแนะนำให้เดินตรงสะพานด้านข้าง
เพราะบันไดขึ้นด้านบน ค่อนข้างชัน ไว้ตอนขาลง ค่อยลงทางบันได












จากนั้นก็ขับรถกลับโรงแรม



เอาของไปเก็บ แล้วค่อยเดินไป ร้าน เต้าซ้อแม่บุญธรรม
ร้านเต้าซื้อ อยู่ไม่ไกลที่พักเท่าไหร่

เดินเป็นระยะทาง 350 เมตร
ใช้เวลาเดิน 10 นาที




เปิดทุกวัน
จันทร์ - เสาร์ เปิด 07.00 - 19.00
อาทิตย์ เปิด 07.00 - 12.00



ร้านไม่ใหญ่มาก
นอกจากเต้าซ้อก็มีของฝากอื่นๆ เช่น ขนมผิง ขนมไส้ไก่ ฯลฯ

สำหรับเต้าซ้อ เราได้รสหวาน กับเค็มมา แต่พลาดแบบไม่มีไข่เค็ม
ซึ่งพนักงานแจ้งว่า เต้าซ้อ จะไม่ทำเพิ่มวันอาทิตย์ แต่จะขายของที่ยังเหลืออยู่
แปลว่า หมดแล้วหมดเลยนะจ๊ะ ไม่มีทำเพิ่ม
ก็เลยซื้อกันใหญ่ กลัวหมด 😆



แบกของฝากกลับโรงแรม
ทำธุระส่วนตัว
แล้วก็ไปย่านเมืองเก่าอีกครั้ง


ไป ร้านวันจันทร์




ครั้งนี้เราจองไว้ก่อนแล้ว
หาที่จอดรถอยู่พักนึง ได้ที่จอดแถวๆ ซอยรมณีย์



มาถึง 19.30 ตรงเวลานัดเป๊ะ
ร้านนี้คนไม่เยอะเท่าร้านตู้กับข้าว



หมดเงินไป 1,500 บาท
หลังจากกินเสร็จ
ก็เดินไปยังซอยรมณีย์









นอกจากจะถ่ายรูปตึกชิโนโปรตุเกสยามค่ำคืนแล้ว
เราก็ไปกินไอติมที่ Torry's Ice Cream ด้วย

ร้านไม่ใหญ่มาก คนเยอะ
แต่โชคดีที่มีโต๊ะว่างพอดี
สั่งเมนูแนะนำมา 4 อย่างเลย




1. Bi-co-moi
ข้าวเหนียวดำราดน้ำกะทิเสิร์ฟคู่กับไอศรีมกะทิอัญชัญ
2. O-Aew
ขนมโบราณขึ้นชื่ออีกอย่างหนึ่งของภูเก็ต เป็นขนมวุ้นใสที่ได้จากวุ้นของเมล็ดโอ้เอ๋ว เสิร์ฟพร้อมกับไอศกรีมถั่วแดง
3. A-Pong
เป็นแผ่นแป้งบางกรอบ หอมกลิ่นกะทิ เสิร์ฟคู่กับไอศกริมหวานมัน
4. Phuket-treasure
เป็นขนมพื้นเมืองภูเก็ตชนิดต่างๆ มี ถั่วทอด เต้าซ้อ ผังเปี้ยะ บี้ผ้าง บูลู่ ตุ๊บตั๊บ งาพอง และขนมพริก เสิร์ฟคู่กับไอศครีมฮันนี้แกรมราดด้วยน้ำผึ้ง



อร่อยทุกอย่างจริงๆ 😍
กินลืมอิ่มเลย 555

หมดไป 400 บาท

พอเดินออกจากร้าน
ฝนปรอยๆ เลย
แง 😭 ตั้งใจจะถ่ายรูปหอนาฬิกาตอนกลางคืนซะหน่อย อดเลย
เดินตากฝน กลับไปที่รถ



แต่ถึงกระนั้น ก็ยังดั้นด้นไปจุดชมวิวเขารัง
เพื่อชมวิวยามค่ำคืน






สภาพอากาศ ฝนตกปรอยๆ
ถ่ายรูป ก็... ดูไม่สวยเท่าไหร่
ถ่ายรูปไปท่ามกลางสายฝน และสายฟ้าฟาดที่อยู่ไกลๆ




จากนั้นก็ขับรถกลับโรงแรม ✌





Link ที่เกี่ยวข้อง


ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【ภูเก็ต】Day 1 - เดินชายหาดเพลินๆ เบิร์นผิวเล่นๆ
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【ภูเก็ต】Day 2 - มองเห็นเรือใบ...แล่นอยู่ในทะเล
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【ภูเก็ต】Day 3 - เดินลั้ลลา ย่านเมืองเก่า
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【ภูเก็ต】Blu Monkey Bed & Breakfast

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : ประสบการณ์การซื้อยา Diamox ที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน

☞ ประสบการณ์ทำเควส "ตรวจสุขภาพ ศูนย์แพทย์พัฒนา" ☜

ประสบการณ์ยื่นขอวีซ่าจีน ด้วยตัวเอง <ก.ย 2561 & ส.ค 2562>