ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Vangvieng Trip #1】 หนาวนี้ที่วังเวียง ตอนที่ 2 บูลลากูน + ล่องห่วงยาง


เช้าวันที่สอง ตื่นแต่เช้า เพื่อมาเตรียมทัพให้พร้อม ก่อนจะไปลุยบูลลากูน (ตื่นมากินข้าวนั่นเอง)


บรรยากาศริ มน้ำตอนเช้าๆ

ถนนด้านหน้าโรงแรม ยังไม่มีผู้คนสัญจร


อาหารเช้าที่โรงแรมเป็นแบบบุฟเฟต์ค่ะ อาหารมีหลากหลาย รสชาติใช้ได้
ถ้ามาสาย คนจะเยอะ เนื่องจากมีทัวร์อยู่หลายกรุ๊ปพอสมควร


อาหารเช้าบุฟเฟต์

พวกขนมปังทาเนย

เฝอ


เริ่มทริปวันที่สองด้วยการปั่นจักรยานไป


╔═════════════════╗
บูลลากูล/ถ้ำปูคำ
╚═════════════════╝


ก่อนอื่น พาหนะที่จะนำพวกเราไปสู่จุดมุ่งหมาย
รถยนต์ >>> แพงไป
รถมอ'ไซต์ >>> ขับกันไม่คล่อง
รถจักรยาน ถูกดี <<< ตกลงอันนี้แหละ (>‿◠)✌


จากนั้นก็เดินวนๆ หาร้านจักรยานแถวๆ นั้น
ดูราคากับสภาพรถไปเรื่อยๆ
ได้จักรยานแม่บ้านมา 2 คัน คันละ 10,000 กีบ
เสือภูเขา 2 คัน คันละ 20,000 กีบ
รวยยยยยมากกกกก ใช้เงินทีเป็นหมื่นๆ $v$ ✌✌✌✌✌
ต้องเอาพาสปอร์ตไปวางไว้เป็นตัวประกันด้วย 1 ใบ


ร้านจักรยานที่เลือกแล้ว

พาหนะคู่ใจในวันนี้


แต่ แต่ แต่ไม่มีจักรยานอะไรที่เหมาะกับถนนที่นั่นเลย ขอบอก! ლ(ಠ益ಠ)ლ
เพราะถนนเป็นทางลาดตลอดทาง
แต่ลาดด้วยกรวดและลูกรังจ้าาาาา มอไซต์ยังขับยากเลย ヽ(`▭´)ノ
รถตู้ที่นั่งมาเมื่อวานชิดซ้ายไปเลย


ตอนเช่าจักรยาน เค้าจะให้แผนที่มา 1 แผ่น
ซึ่ง ... เอ่อ เราดูไม่รู้เรื่องจริงๆ นะ  (¬‿¬) 555


ก่อนอื่นเค้าจะแนะนำให้เราปั่นไปที่สะพานเมื่อวาน เพราะมันข้ามฟรี
แต่เราปั่นมาอีกทางนึง
คือ สะพานฟรี มันจะอยู่ฝั่งขวาของโรงแรม
ส่วน สะพานเสียเงิน จะอยู่ฝั่งซ้ายของโรงแรม
(ถ้าเรามองหันหน้าไปทางโรงแรม)


แต่เราเลือกไปอีกสะพาน เพราะสะพานฟรี ไปมาแล้วเมื่อวาน
อยากไปดูเส้นทางอื่นบ้างงงงง
เอาล่ะ ลุยยยยยยยย  (^o^)丿


ค่าผ่านสะพาน 6,000 กีบ จ่ายครั้งเดียว
ถ้าขากลับ ปั่นผ่านสะพานนี้อีก ก็คือฟรีเลยจ้าาา
เพราะจุดจ่ายตังค์อยู่ฝั่งเดียว
ฉะนั้นถ้าตอนขาไป เราข้ามสะพานฟรี เราสามารถปั่นมาข้ามสะพานนี้ตอนขากลับได้เช่นกัน
สะพานนี้จะกว้างกว่าสะพานเมื่อวาน รถยนต์สามารถผ่านได้


สะพาน

เราใช้เวลาพักตรงนี้แป๊บนึง

เพิ่มคำอธิบายภาพ

รถยนต์สามารถข้ามสะพานนี้ได้


ปั่นได้ 200 เมตร เหนื่อยละจ้าาาา (;一_一)
มีเนินเป็นพักๆ และฝุ่นกับลูกรังตลอดทาง
แต่ก็มีวิวสวยๆ ให้แวะพักเหนื่อย ตลอดทางเช่นกัน


ฤดูทำนา ตรงนี้น่าจะสวยมากๆ

ถนนยังเป็นลูกรัง

วิวระหว่างทาง

มีที่เที่ยวอื่นด้วย ถ้ามีเวลาก็ลองแวะไปดูได้


อ้อ ช่วงที่เจอทางแยก ให้มองหาป้ายบอกทางนะ
อาจจะเล็กหน่อย แต่มีป้ายบอกทางอยู่แล้ว
ถามชาวบ้านแถวนั้นก็ได้


และคำว่าบูลลากูนมีหลายที่นะ
แบบว่า เห็นป้ายเขียนว่าไว้ว่า บูลลากูน เลยลองเข้าไป (เข้าไปลึกเหมือนกัน)
เจอป้าคนนึง เตรียมจะเก็บเงินละ
แต่จำได้ว่า หน้าตาทางเข้าไม่ใช่แบบนี้
เลยเลี้ยวออก ดูแผนที่ในมือถือแทน ก็เห็นว่า มันต้องปั่นต่อไปอีกหน่อย
เลยปั่นต่อดีกว่า


ทางแยกที่ต้องระวัง เลี้ยวขวา ไปบูลลากูนเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ที่เราต้องการ

เข้าไปก็เจอทางแบบนี้ ปั่นไปประมาณ 1 กิโล ถึงรู้ว่า มาผิดที่

เดินทางต่อไป ระวังชนวัวด้วยนะ

ปั่นท่ามกลางแสงแดดเปรี้ยงปร้าง เจอเขตชุมชนเป็นพักๆ


ใช้เวลาเดินทางเกือบสองชั่วโมง แดดร้อนมาก และคือทำไมชาวบ้านเค้าปั่นกันเร้วเร็ว (¯―¯٥)
ในที่สุดก็ถึงทางเข้า
ซึ่งทางเข้าที่นี่ จะเห็นลานจอดรถกว้างมากกกกก
ถัดจากจุดจ่ายเงินจะเป็นสระบูลลากูนมองเห็นได้ไกลๆ หน้าตาคล้ายในที่เห็นในเน็ต
โอเค น่าจะถูกที่แล้ว \(~o~)/


เจอแยกแบบนี้ อ่านป้ายบอกทางก่อนเลย

อ๊ะๆ ป้ายบอกว่า เราถึงบูลลากูนแล้ววววว


ถึงแล้ววววววววววววววววววววววววววววววววว


เป้าหมายอยู่ข้างหน้าาา

ก่อนจะเข้าไปถึงบูลลากูนก็ต้องเสียค่าผ่านทางเสียก่อน


ไปถึงก้อจ่ายค่าเข้า 10,000 กีบ - -'''


หนึ่งหมื่นกีบต่อคน


ตอนไปถึง ก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเล่นน้ำแล้วหลายคน
บริเวณนี้จะมีร้านค้าเล็กๆ ขายน้ำและขนม แต่ราคาจะแพงกว่าปกติ
มีห่วงยางและเสื้อชูชีพให้เช่าด้วย


ตรงบูลลากูนมีน้ำ และขนมขาย ราคาจะแพงกว่าข้างนอกหน่อย

น้ำน่าเล่นมากกกก

น้ำเป็นสีนี้จริงๆ นะ

จุดกระโดดน้ำ

พวกเรานั่งพักนิดหน่อย ก่อนเดินเข้าถ้ำปูคำ
ค่าเข้าอีก 10,000 กีบ (เก็บทุกเม็ดจริงๆ)
มีไฟฉายให้เช่าด้วย


ซึ่งทั้งบูลลากูนและถ้ำปูคำ อยู่ในที่เดียวกัน
ทางเข้าถ้ำจะเดินเข้าไปอีกนิดหน่อย


ทางขึ้นถ้ำปูคำ


ทางขึ้นชันและสูงพอควร เล่นเอาเหนื่อยมากกกกกกกก (;一_一) (;一_一)


ทางขึ้นจะชันๆ แบบนี้

เรียกว่าปีนขึ้นมากกว่าจะเดินขึ้นมา


ข้างในถ้ำ ค่อนข้างมืด ทางเข้าไม่ไกล
สามารถเดินเข้าไปได้อีก แต่ไม่ได้เข้า
เพราะไม่มีไฟฉายคาดหัวและของพะรุงพะรังมาก ไม่เข้าดีกว่า



ข้างในถ้ำ

ต้องเดินเข้าไปอีกนิดถึงจะถึงใจกลางถ้ำ

ใจกลางถ้ำมีพระพุทธรูปอยู่ แต่หาปูทองคำไม่เจอนะ


จากนั้นก็เดินกลับลงมาด้านล่าง
กว่าจะลงมาก้อเที่ยงกว่าแล้ว
เด๋วไปล่องห่วงยางไม่ทัน เลยดูเค้าเล่นบูลลากูลด้วยความอิจฉา


น่าอิจฉาาาาาา


ก่อนกลับ เราก็ทำการปรึกษาก่อนว่า จะปั่นจักรยานต่อไปอีกดีม้ายยยยยยย ✖‿✖
ในที่สุดก็เหมารถสองแถวกลับพร้อมจักรยานคนละ 30,000 กีบ รวม 120,000 กีบ
(ถ้าเหมาขามาจะเสีย 150,000 กีบ เพราะมีค่าผ่านทาง)


เหมารถกลับแล้วค่ะ


ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ก็ถึงบริเวณหน้าโรงแรม
จากนั้นปั่นจักรยานรอบเมืองสักพัก ก่อนกินข้าว


มารถยนต์ ไวกว่าจริงๆ ด้วย

ถึงแล้วก็แบกจักรยานลง


เลือกร้านที่อยู่ถัดจากร้านเมื่อวาน
หลังจากกินข้าวเสร็จ
ก้อเอาของไปเก็บ เตรียมเอาไปเฉพาะของที่จำเป็น
แล้วไปที่ร้านเช่าห่วงยาง


ร้านอาหารกลางวันนี้

พิซซ่าลาว

แพนเค้กลาว


╔═════════════════╗
Tubing
╚═════════════════╝


ร้านเช่าห่วงยางตั้งอยู่ใกล้ K-Mart (มินิมาร์ทเกาหลี มั้ง)
ค่าเช่า 115,000 กีบ!
ในนี้เป็นค่ามัดจำ 60,000 กีบ
มีชูชีพให้ยืมฟรี ถ้าขอ


เช่าห่วงยางแล้วนั่งตุ๊กๆ ไปแบบนี้


จากนั้นเค้าก้อจะให้ขึ้นตุ๊กๆ (เหมือนสองแถวบ้านเรา) ไปที่จุดล่องห่วง
(ถ้าคนน้อยต้องรอไปพร้อมคนอื่น)
เช่าได้ตั้งแต่ 9 โมง ถึงสี่โมง
ต้องคืนก่อนหกโมง ถึงจะได้มัดจำคืน


รถขับพาพวกเราไปไกลสักสิบโลได้
มาส่งที่บาร์ริมน้ำ ทำธุระเสร็จก้อเริ่มล่องห่วง
บาร์นี้มีห้องน้ำให้ แต่ต้องเสียค่าเข้าซึ่งเป็นปกติของห้องน้ำที่ลาว ไม่ว่าจะสาธารณะหรือไม่ก็เสียตังค์


ถึงแล้ว จุดล่องห่วงยาง

คนลงจากรถกันหมดแล้ว

วิวสวยดีเหมือนกันนะ

วิวที่บาร์

พาโนรามาก่อนล่องห่วงยาง


ในที่สุดก็ได้ล่องห่วงยาง ประมาณเกือบสี่โมง
น้ำเย็นมากกกกกกก ᵕ‿‿ᵕ
ตอนแรกๆ ก้อล่องแบบเกาะกลุ่มกันไป


กลัวหลงค่ะ เลยเกาะกันไป 555

แหงนมองวิวกันไปเรื่อยๆ


ระหว่างทางจะเจอบาร์ริมน้ำ ชักชวนนักท่องเที่ยวไปนั่งดริ้ง
ถ้าสนใจ เด๋วเค้าเหวี่ยงแห ตกเราขึ้นมาเอง


แต่พวกเราก้อไม่ได้แวะบาร์ไหน
ปล่อยล่องไปเรื่อยๆ ระหว่างทางก้อจะเจอโขดหิน น้ำเชี่ยว ต้นไม้ ท่อนไม้ อยู่กลางน้ำ
ต้องคอยหลบหลีกและเก็บเหรียญ (ไม่ใช่แระ)  (¯―¯٥)


หลังๆ ก้อเริ่มล่องแบบตัวใครตัวมัน
พอเย็นๆ ค่ำๆ อากาศเย็นตัวลง อยากกลับเข้าฝั่งแบ้วววววว หนาวววววววว  ✖‿‿✖


แต่หนทางยังยาวไกล
เริ่มใช้กำลังแขนช่วยละ
หมุนติ้วๆ อยู่กลางน้ำ ทำไมห่วงเราไหลช้ากว่าชาวบ้านล่าาาาาาา   Σ(゜д゜;) (゚Д゚;≡;゚Д゚)
มีตุ๊กๆ คอยเรียกเป็นระยะๆ ว่าจะกลับรึยางงงงงงง
เค้าจะไปส่ง แต่เสียค่ารถเน้ออออ


พอใกล้ถึงจุดสิ้นสุดการล่องห่วงจะมีคนคอยเรียกให้เข้าฝั่ง
จบแล้วการผจญภัยอันยาวนาน หกโมงกว่าถึงฝั่ง


จุดขึ้นฝั่ง อันนี้เพื่อนมาถึงก่อน น่าจะสักพัก เพราะเรามาถึงตอนมืดเลย


ล่องไปสองชม กว่า ตัวเปื่อยเลย หมดแรง = ="
ตอนเช้าออกกำลังกายขา ตอนเย็นออกกำลังกายแขน
สงสัยว่า ทำไม เราช้ากว่าชาวบ้านอีกแล้ววววววววว   ┐('~`;)      ┌
รู้สึกทุกคนล่องห่วงยางแซงพวกเราไปได้อย่างรวดเร็ว


เสร็จจากล่องเรือก็กลับไปที่โรงแรม
เราไม่ได้หยุดล่องเรือที่สะพานไม้ในวันแรก


เพราะมีเจ้าหน้าที่ตะโกนให้ขึ้นฝั่งได้แล้ว (เนื่องจากมืดแล้วนั่นเอง)
จากจุดที่ขึ้นฝั่ง ต้องเดินต่อไปอีกประมาณ 300 เมตร เพื่อไปที่ถนนเส้นหลัก (อันนี้เดินตามๆ เค้าไป)


ถึงโรงแรมก็อาบน้ำอาบท่า แต่งตัว แล้วออกไปหาอะไรกิน
หิวมากกกกกกกก


วังเวียงยามค่ำคืน

ร้านอาหารเย็นนี้

ที่กินมา ก็ไอ้นี่แหละ อร่อยที่สุดละ

อันนี้อะไรหว่า เหมือนเฝอแบบแห้ง

สเต็กลาว


จบแล้วค่าาาา ตอนหน้าไปถ้ำจัง แล้วเดินทางไปเวียงจันทน์ละ


╔══════════════════════ ೋღღೋ ══════════════════════╗

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : ประสบการณ์การซื้อยา Diamox ที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน

☞ ประสบการณ์ทำเควส "ตรวจสุขภาพ ศูนย์แพทย์พัฒนา" ☜

ประสบการณ์ยื่นขอวีซ่าจีน ด้วยตัวเอง <ก.ย 2561 & ส.ค 2562>