ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Vangvieng Trip #1】 หนาวนี้ที่วังเวียง ตอนที่ 3 ถ้ำจัง

ตื่นเช้าอีกแล้ว วันนี้
ออกมาเดินดูบ้านเมืองเค้าบ้างงงงง (●^o^●)


เช้านี้เราตื่นมาคนเดียว ส่วนคนอื่นๆ ขอนอนพักก่อน
เดินไปที่สะพานไม้วันแรก
แล้วลองไปเดินเล่นอีกฝั่งนึง


ล็อบบี้ตอนเช้า ยังไม่มีคนเลย

ใกล้ๆ กับสะพานไม้ อันนี้ปรับโหมดผิด ได้สีประหลาดๆ มา

สะพานข้ามไปรีสอร์ท (จำชื่อไม่ได้) อยู่ใกล้ๆ กับสะพานไม้

ข้ามมาฝั่งตรงข้ามแล้ว ตึกทางซ้ายไกลๆ นั่นคือ โรงแรมของเรา (ยังเลือกโหมดผิดอยู่)


ไปถึงฝั่งตรงข้ามแล้ว ให้เดินเลี้ยวซ้ายไป แล้วเดินต่อไปเรื่อยๆ
จะเจอทางบังคับเลี้ยวขวา ก็เลี้ยวไปตามนั้น
ซึ่งถ้าเดินต่อไป เราจะเจอทางปั่นจักรยานเมื่อวาน (คือมันมาบรรจบกันตรงนี้)


ข้ามฝั่งแล้วก็เดินเลี้ยวไปทางซ้าย

เจอทางบังคับเลี้ยวขวา ถ้าเดินตรงไป จะไปเจอทางที่เราปั่นจักรยานไปเมื่อวาน

เดินข้ามสะพานนี้


ระหว่างทางเจอรีสอร์ทที่อยู่กลางทุ่งนา
สวยดีนะ บรรยากาศดีมาก แต่ราคาแอบแรงไปหน่อย  =ʘ‿ʘ=


มีรีสอร์ทสวยๆ ด้วย

บรรยากาศดีนะ แต่เสียดาย ข้าวยังต้นเล็กไปหน่อย


จากรีสอร์ทนี้ เราเดินไปจนไปเจอทางที่เราปั่นไปมาเมื่อวาน



ทาง 3 แยก
แยกทางซ้ายนั่น คือ ทางที่เรามาเมื่อวาน
ส่วนอีกฝั่ง คือทางที่ปั่นไปบูลลากูน

ถนนก็เป็นแบบนี้แหละ

วิวตอนเช้าๆ


วันนี้เด็กๆ ไปโรงเรียนกัน
ทุกคนปั่นจักรยานกันชิลมากเลย ปั่นกันเป็นแก๊งค์เลย 555


เด็กน้อยไปโรงเรียน อย่าลืมเตรียมขนมมาให้น้องๆ นะ เวลาจะถ่ายรูป

รถแบบนี้แหละ เหมาะกับถนนที่นี่เป็นที่สุด


ใกล้เวลาอาหารเช้าแล้ว ก็เดินกลับที่พัก
เช้านี้อากาศเย็นๆ แต่ไม่ถึงกับหนาว


ตอนเช้ามีคนมาล่องเรือกันด้วย
คิวเยอะเหมือนกัน
มีบอลลูนยักษ์ด้วย
เห็นบอลลูนลอยขึ้นฟ้า แล้วหายลับเข้ากลีบเมฆไป โอ้ววววว ตื่นเต้นๆ (≧∇≦)/


บอลลูนยักษ์

มีล่องเรือตอนเช้า

กลับมาที่สะพาน รถสวนกันพอดีเลย

ดูทุลักทุเล แต่ก็ผ่านไปด้วยดี

คนเริ่มออกไปทำงาน ไปเรียนกันแล้ว

จะเห็นคนปั่นจักรยานกันเป็นกลุ่มๆ

วิวตอนเช้าหน้าโรงแรม


อาหารเช้าเป็นบุฟเฟต์ไม่ต่างจากเมื่อวาน
แต่คนเยอะกว่าเดิม


ทานข้าวเสร็จก็ออกไปเช่าจักรยานอีก
คราวนี้ปั่นไปถ้ำจัง


ทางไปถ้ำจัง จะปั่นไปบนถนนใหญ่ ทางเดียวกับบูลลากูน
แต่ไม่ต้องเลี้ยวเพื่อข้ามสะพานใหญ่
ให้ปั่นต่อไปจนถึงทางเข้า วังเวียงรีสอร์ท ซึ่งเป็นรีสอร์ท ที่เราต้องผ่านเพื่อไปยังถ้ำจัง
เลี้ยวตามป้ายไปได้เลย จะเป็นทางลูกรัง (อีกแล้ว) ปั่นต่อไปได้เลย


ระยะทางไม่ไกลมาก ประมาณ 1-2 กิโล
แต่หินก้อนใหญ่มาก ต้องปั่นด้วยความระมัดระวัง O﹏o


มาถึงทางเข้าถ้าจัง จะผ่านรีสอร์ทนึงก่อน
ซึ่งเราต้องเสียค่าเข้า น่าจะประมาณ 20,000 กีบ


จากนั้นก็ปั่นจักรยานต่อไปอีก
จะเห็นสะพานสีส้มใหญ่ๆ ที่เป็นจุดแลนด์มาร์ก
จอดจักรยานไว้บริเวณสวนหน้าสะพาน


จอดจักรยานไว้บริเวณสวน

เดินตรงไปที่สะพาน


แวะถ่ายรูปตรงจุดนี้สักพัก
ก่อนจะเดินข้ามสะพานไป


แม่น้ำซอง

สะพานสีส้ม เราจะเดินไปฝั่งตรงข้ามกันค่ะ

มองกลับไปฝั่งที่จอดรถจักรยาน

สะพานแบบเต็มๆ ตอนสายๆ คนเริ่มมาเยอะแล้ว


ข้ามไปแล้วก็จะเจอแม่ค้ามาขายของหลายเจ้า


มีผลไม้ขายจ้า


ให้เดินต่อไปอีกนิด จะเจอทางขึ้น
ต้องเสียค่าเข้าก่อน 15,000 กีบ (✖╭╮✖)  


เดินต่อไปถึงทางขึ้นถ้ำ

อัตราค่าเข้าถ้ำจัง


หลังจากซื้อตั๋ว ยังไม่เข้าทันที ขอทำใจก่อน 555
น้ำที่นี่ใสมากกกกก ไม่ต่างจากบูลลากูนเลย


ตรงบริเวณทางเข้า ก็มีจุดพักผ่อนหลายจุด

น้ำใสมาก มีคนลงไปตักน้ำขึ้นมาด้วย

เห็นต้นไม้ใต้น้ำเลย

น้ำใสๆ แต่รู้สึกน่ากลัวยังไงไม่รู้ เพราะมีสาหร่ายเยอะมั้ง 55


ทางขึ้นเป็นบันได ค่อนข้างชัน 147 ขั้น (・_・;)
เดินกันเหนื่อย พอๆ กับถ้ำปูคำ แต่ว่าลำบากน้อยกว่า


ทางขึ้นถ้ำจัง


เข้าไปก็จะเจอถ้ำ (ใช่สิ แกมาเที่ยวในถ้ำนี่นา)
มีทางเดิน เค้าเทปูนแล้ว เป็นระเบียบ  มีไฟตามทางเดิน เดินง่าย อากาศสบายๆ


เราก็เดินไปตามทางเดินภายในถ้ำ มีทางแยก ก็เลือกไปทางขวาก่อน
เจอทางตันก็เดินย้อนกลับมา แล้วก็เดินไปอีกทางที่ยังไม่เคยไป
ระหว่างทางจะเจอหินงอก หินย้อย หินบางก้อนมีเกล็ดระยิบระยับด้วย
บางจุดมีคนนำเงินไปแปะไว้


เดินมาถึงด้านบน จะเจอทางเข้าแบบนี้

ภายในถ้ำ

ภายในถ้ำ

ภายในถ้ำ

ภายในถ้ำ

ภายในถ้ำ


จนกระทังถึงจุดชมวิว
จะมองเป็นวิววังเวียงเบื้องล่างได้


วิวด้านล่าง

มองเห็นสะพานสีส้ม

ทุ่งนาของชาวบ้าน


จากนั้นก็เดินกลับลงมา
ก่อนจะปั่นจักรยานไปคืน


เดินลงไปอีก 147 ขึั้น

จะถึงแล้วววว

สงสัยว่า บันไดนี้ จะพาเราไปที่ไหน แต่ดูเหมือนจะห้ามเข้า

น้ำใสมากก

มาถึงที่พัก ก็จัดการเก็บของ เช็คเอาท์
แล้วก็รอรถมารับไปเวียงจันทน์


อ่อ ลืมบอก
สำหรับเรื่องการเดินทางกลับ


เมื่อคืนหลังกินข้าวเย็น
พวกเราได้แวะที่มินิมาร์ทใกล้ๆ กับร้านเช่าห่วงยาง
เพราะเห็นมีป้ายโฆษณารถบัสไปเวียงจันทน์พอดี ราคาโอเค  (◑‿◐)


ราคาและตารางรถ


ก็เข้าไปคุยกับพนักงานและซื้อจองตั๋วรถไว้
รถบัสนั้นอยู่ที่ท่ารถซึ่งไกลจากจุดที่เราพักมาก
แต่เค้าจะมีรถตู้มารับเราช่วงบ่ายๆ ให้เรารอที่หน้าโรงแรม


พอถึงเวลาที่นัดไว้
รถตู้ก็มารับ ตรงเวลาเหมือนกัน
จากนั้นก็จะขับไปรับผู้โดยสารตามรีสอร์ทต่างๆ
คนก็เต็มรถเลย ส่วนใหญ่เป็นฝรั่ง นั่งเบียดๆ กันไป


รถตู้ที่มารับเรา

ข้างในรถตู้


ไปถึงท่ารถ.... ไหนรถเราละ 55
เดินเข้าไปถามพนักงานในท่ารถเค้าก็บอกให้รอก่อน
มีคนรออยู่ในท่ารถเยอะมากกกก


ท่ารถ

ท่ารถ

ท่ารถ

ท่ารถ


รถบัสเข้าๆ ออกๆ หลายคัน แต่ก็ยังไม่ใช่ของเราสักที
รอไปเกือบครึ่งชั่วโมง รถถึงมา


รถบัสของเรา (อันนี้เป็นรูปตอนถึงเวียงจันทน์แล้ว)


ตั๋วไม่ได้ระบุที่นั่ง ก็ต้องเลือกที่นั่งกันเอาเอง
รถบัสไม่ใหญ่มาก ทางเดินค่อนข้างแคบ
คนเต็มรถเลย แต่ทุกคนได้นั่งนะ


นั่งรถบัสสบายกว่ารถตู้
รถขับนิ่ม และช้ากว่า
แต่ทำไมเราเมารถมากกว่าก็ไม่รู้
ชมวิวไปเรื่อยๆ หลับๆ ตื่นๆ จนรถมาถึงท่ารถเย็นๆ


จากนั้นก็หารถเมล์ที่วิ่งเข้าเมืองไป
ที่พักของเราในเวียงจันทน์ อยู่แถวน้ำพุ
ก็เข้าไปถามคนขับรถกับกระเป๋าว่า รถคันไหนผ่านแถวนั้นบ้าง


ค่ารถจำไม่ได้แล้วอ่ะ เหมือนจะประมาณ 25 บาท
รถมาถึงบริเวณน้ำพุ กระเป๋ารถก็บอกว่าถึงแล้ว
พอลงจากรถเท่านั้นแหละ


งง จ้าาาา (@_@)
เจอน้ำพุแล้ว
แต่ที่พัก อยู่ไสสสสสสสสส  (¯―¯٥)


เปิด Map ด่วนๆ ดีกว่าเพื่อนลง MAPS.ME
เดินตามแผนที่ไป


ที่พักเราคือ "มาลีน้ำพุ"
อยู่ด้านหลังน้ำพุไปหน่อย


รถจะจอดบริเวณใกล้ๆ น้ำพุ ให้เดินอ้อมไปด้านหลัง

มองจากโรงแรม จะเห็นน้ำพุ

ป้ายหน้าโรงแรม

ล็อบบี้


เช็คอินเสร็จ ก็เอากระเป๋าสัมภาระไปเก็บในห้องพัก
เดินจากล็อบบี้มา จะเจอสวนหย่อมเล็กๆ ประดับไฟสวยงาม
บริเวณนี้จะเป็นจุดที่เรามากินข้าวเช้ากัน


สวนหย่อม

ภายในห้องโอเคเลย รู้สึกดีกว่า โรงแรมเมื่อวาน 555
ห้องเราอยู่ชั้น 1 หน้าต่างจะมองเห็นวิวสวนหย่อมได้


ภายในห้องพักก็มีอุปกรณ์พื้นฐานครบ เตียง น้ำอุ่น แอร์ ตู้เย็น ทีวี
ห้องพักก็สะอาดเรียบร้อยดี
เครื่องทำน้ำอุ่นแอบใช้ยากไปหน่อย หาไม่เจอว่าเปิดน้ำตรงไหน


เข้าไปภายในห้อง

เตียง

มีทีวีให้

ตู้เก็บของ

โต๊ะเครื่องแป้ง

ตู้เย็น

ห้องน้ำ วิธีเปิดน้ำ คือกดปุ่มใหญ่ๆ ที่เครื่อง

วิวที่หน้าต่าง


ก็เดินออกมาตรงหน้าน้ำพุ ตามหาร้านอาหาร
เดินไปไม่ไกลจากน้ำพุ
ก็ตกลงเลือกร้านมาร้านนึง
อาหารค่อนข้างแพง
แต่บรรยากาศดี
มีระเบียงชั้นบน แต่ แต่ วันนี้ ลมแรง มาก เลยเข้าไปนั่งในร้าน ไม่ได้นั่งที่ระเบียง


เดินออกมาบริเวณน้ำพุ

ผ่านร้านรวงมากมาย

เลือกร้านนี้แหละ

เดินขึ้นไปชั้น 2

อาหารที่สั่งมา

อาหารที่สั่งมา


กินข้าวเสร็จก็เดินหาถนนคนเดิน
จะอยู่ริมแม่น้ำโขง


คือ เดินงงๆ อยู่นานมาก ⊙_☉
จนต้องไปถามทางชาวบ้านแถวนั้น


เราไปถึงถนนคนเดิน ก็ดึกแล้ว ประมาณเกือบสองทุ่ม
เดินได้ไม่นาน ร้านค้าก็เริ่มปิด
วันนี้ลมแรงมากจริงๆ อากาศหนาวกว่าวังเวียงอีก หนาวด้วยแรงลม 555


ตรงข้ามถนนคนเดิน จะมีมินิมาร์ท เราเข้าไปดูของก้นก่อน

ถนนคนเดิน

ถนนคนเดิน

บริเวณถนนคนเดิน

แม่น้ำโขง และ ประเทศไทยอยู่ฝั่งตรงข้ามนี่เอง


จากนั้นก็เดินกลับที่พัก
พรุ่งนี้เที่ยวเวียงจันทน์ก่อนจะเดินทางกลับไทย  ≥Ö‿Ö≤  


╔══════════════════════ ೋღღೋ ══════════════════════╗

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : ประสบการณ์การซื้อยา Diamox ที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน

☞ ประสบการณ์ทำเควส "ตรวจสุขภาพ ศูนย์แพทย์พัฒนา" ☜

ประสบการณ์ยื่นขอวีซ่าจีน ด้วยตัวเอง <ก.ย 2561 & ส.ค 2562>