ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Japan】 ที่นี่เจแปน - สถานีโตเกียว [Day 1]




สวัสดี ทริปปลายปี 🎄🎊
ครั้งนี้ เดินทางไปไกลถึง ประเทศ ญี่ปุ่น 🗻 (ไกลสุด เท่าที่เคยไปมาละ)


เป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของญี่ปุ่นพอดี
เราจะไปล่าใบไม้แดงกัน 🍁🍁🍁
ปล. ทริปนี้ซื้อตั๋วตั้งแต่ เดือนพย. ปี 58 สิริรวมเวลารอคอย 1 ปีเต็มๆ 👴


วันที่ 18/11/59
เดินทางจากไทย แถวเช็คอินและตม. คนน้อยมาก
ผ่าน Security มาคนก็ยังน้อย เพื่อนนึกว่าสนามบินร้าง 😅
ขาไปบินกับแอร์เอเชีย เครื่องออกเวลา 23.50

บินกะแอร์เอเชียนะจ๊ะ แล้วจะถ่ายรูปเครื่องไลออนแอร์มาทำไม 555

ก่อนไป เราก็เปิด SIM2Fly ของ AIS ไว้ก่อน
สรุปผลการใช้งานไว้ตรงนี้เลยล่ะกัน

คุณสมบัติ
ซิม ราคา 399 บาท สามารถใช้งานโรมมิ่งได้ฟรี 3 GB 8 วัน
ไม่มีเงินในซิม
อยากใช้งานอื่นๆ ต้องเติมเงินก่อน
ปล. แพคเกจนี้ใช้งานได้เฉพาะประเทศในโซนเอเซีย ที่รองรับเท่านั้น (มีระบุในเว็บ)

วิธีซื้อซิม
ก็ไปที่ AIS Shop บอกพนักงานว่าซื้อ SIM2Fly
ยื่นบัตรประชาชนให้ จ่ายตังค์
พนักงานจะลงทะเบียนให้
แล้วส่งซิม บัตรประชาชน และตังค์ทอนกลับมาให้เรา

วิธีเปิดใช้งาน
ควรเปิดในประเทศ เผื่อมีปัญหาจะได้วิ่งเข้า AIS Shop ในสนามบิน หรือโทรหา Call Center ได้
เสียบซิม แล้วลองกด *120 โทรออก ดู (อันนี้ทำตามคู่มือที่แถมมากับซิม)
จะมีเสียงตอบรับให้เราใส่รหัส 16 หลักลงไป
ไม่ต้องใส่ใจ นั่นคือ ลงทะเบียนแล้ว
(ทำเอาพวกเรางงอยู่นาน เอารหัสจากไหนฟระ)
สักพักจะมี message ส่งมาบอกว่า ซิมเปิดใช้งานแล้ว ใช้งานได้ถึงวันไหน กี่โมง ไรงี้
(เป็นแบบนับ 24 ชม.)

วิธีใช้งานที่ญี่ปุ่น
ตั้ง Data Roaming เป็น On
มองหาสัญญาณเครือข่าย Softbank
ของเราแค่เปิด Data Roaming มันก็จับสัญญาณเครือข่ายให้เอง

วิธีเติมเงิน
ก็เหมือนซิมเติมเงินทั่วๆ ไป เติมผ่านได้หลายช่องทาง
เราเติมผ่าน iBanking ของ กสิกร

ผลการใช้งาน
การใช้งานเน็ต ใช้งานได้ เร็วดี หลักๆ ใช้เล่นไลน์ เฟสบุ๊ค Google Map แล้วก็ Web Browser

แต่เข้า Hyperdia กับ Jorudan แทบไม่ได้เลยยยยย (ถ้าใช้ wifi เข้าได้)
ทริปนี้เลยอาศัยข้อมูลตอนจัดทริปบวกกับป้ายต่างๆ ตลอด
ใครหวังจะไปหาเส้นทางเอาที่นู่น แนะนำให้ใช้ google แทนนะ
เหมือนมีกระทู้บ่นอยู่ ก็ไม่รู้แก้ไขไปเรียบร้อยหรือยัง

การโทร สัญญาณชัดดี

ถ้าอยากใช้เกิน 8 วัน ทำไงดี??
ต้องเติมเงินเข้าไปก่อน
แล้วก็สมัครเน็ตเพิ่ม
มีแบบ 349 บาท ใช้เน็ต 3 GB 8 วัน และแบบ 119 ใช้เน็ต 1 GB 2 วัน

สรุป OK 👌
รายละเอียดอื่นๆ http://www.ais.co.th/roaming/sim2fly/

มีความโฆษณา


แอร์เอเชีย 
แอร์บัส A330-300
เครื่องใหญ่ดี แบ่งแถวเป็น 3 - 3 - 3
ได้นั่งแถวตรงกลางพอดี

เพดานเครื่องเหมือนจะต่ำไปหน่อย
แอร์ก็เดี๋ยวอุ่น เดี๋ยวหนาว  แถมเสียงดังด้วย
ยังไม่ทันถึงญี่ปุ่นเลย คุณเพื่อนจะเป็นหวัดอยู่แล้ว
นอนหลับไม่สบายเลย ขนาดพกหมอนรองคอ กับหมอนรองหลังไป

ประมาณตี 3 (เวลาไทย) แอร์มาปลุก (จะรีบปลุกไปไหนนนนนน 😡)
แล้วให้ใบขาเข้าของญี่ปุ่นมากรอก

จากนั้นเราก็นอนไม่หลับอีกเลย 😥
พรุ่งนี้ไปถึงแล้วเที่ยวเลย จะรอดมั้ยเนี่ย

✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈✈

วันที่ 19/11/59
ไปถึงสนามบิน Narita - Terminal 2 เวลา 7.30 (ตามเวลาประเทศญี่ปุ่น) 😃
ถึงก่อนกำหนดเวลาไปหน่อยนึง


ตม. คนค่อนข้างเยอะ(ส่วนใหญ่เป็นคนไทย) แต่เค้าจัดระเบียบค่อนข้างดี
มีเจ้าหน้าที่มาจัดการ แบ่งคนไปช่องตม. และตรวจใบขาเข้าว่ากรอกถูกต้องครบถ้วนรึเปล่า 👍


ผ่านตม.อย่างรวดเร็ว ไม่ถงไม่ถามสุขภาพสักคำ 😁
จากนั้นก็ไปรับกระเป๋า


ก่อนจะผ่านศุลกากร
มีถามนิดหน่อย ว่ามากี่คน มากี่วัน
แล้วก็ปล่อยผ่านไป (น่าจะเช็คว่า กระเป๋ากับวันที่)


จากนั้นก็ไปล้างหน้า แต่งตัวกันก่อน


เวลาประมาณ 9 โมง
ลงไปที่ชั้น B1 (มองหาป้าย Train เอาไว้)



เดินออกมานิดจะเจอเคาน์เตอร์ของ Keisei และ N'EX แบ่งแยกกันด้วยสี
Keisei สีน้ำเงิน 
N'EX สีแดง


ตรงเคาน์เตอร์สีน้ำเงินจะเป็นเคาน์เตอร์จำหน่ายบัตร
ถ้าจะไปซื้อตั๋วโปร หรือแลกตั๋ว Skyliner ต้องไปเคาน์เตอร์ฝั่งตรงข้าม


เดินไปซื้อบัตร Keisei Skyliner + Subway 48 hr 3200 เยน



แต่หมด! 😐 ต้องซื้อ Keisei Skyliner + Subway 72 hr 3500 เยน มาแทน



ต้องใช้ Passport ของทุกคนในการซื้อ
จองที่นั่ง ได้รถรอบ 9 โมงกว่า มีเวลาเหลือนิดเดียว 😲

รถออกเวลา 09.19 เลขขบวน 006 ตู้ที่ 01 ที่นั่ง 08A


วิธีเดินทางคร่าวๆ จาก Hyperdia
เส้นทางที่อยู่ใน blog นี้
เรามาแปะให้ทีหลังนะคะ
ดังนั้น เวลา กับขบวนรถอาจจะไม่ตรง แต่เส้นทางประมาณนี้

อยู่นี่ไม่ค่อยได้ใช้ Hyperdia เท่าไหร่ เพราะเน็ตไม่ Support เล้ยยยย
แต่พอจำได้ว่าต้องไปที่ไหนยังไง ก็อาศัยดูแพลนที่ทำไว้ กับอ่านป้ายเอา



แวะซื้อของกินมินิมาร์ทข้างเคาน์เตอร์นิดหน่อย
ต้องเผื่อเวลาไปชานชาลาด้วย


จากนั้นเดินมาตามป้ายที่เขียนว่า Skyliner ป้ายสีส้ม

จากตรงนี้ เดินผ่านเครื่องตรวจตั๋วไป แล้วเลี้ยวซ้าย ตรงป้ายส้มๆ เลย


ผ่านเครื่องตรวจตั๋วอัตโนมัติ
แล้วก็เลี้ยวซ้าย ไปทาง Platform 1



ลงบันไดเลื่อนมา ... ถึงแล้ว
ใช้เวลาเดินประมาณ 1 นาที (เหยยยย ชั้นอุตส่าห์เผื่อเวลาให้) 😲


จากนั้นก็หาตำแหน่ง แถวที่ขบวนเราจะไปจอด



รถมาแล้ววววว



ข้างในกว้างขวางดี ที่นั่ง 2-2



มีที่วางกระเป๋าด้านหลังตู้ แต่จำนวนจำกัด



มีป้ายบอกตำแหน่งที่นั่ง



มีถาดวาง แสดงว่ากินอาหารได้
(ตรรกะนี้ มันถูกแล้วใช่ป่ะ?)



มีปลั๊ก ด้านล่างที่นั่ง



หน้าจอแสดงวิวด้านหน้ารถไฟ
บอกสถานีที่จะจอด
กฎระเบียบต่างๆ ของรถไฟ ทั้งภาษาญี่ปุ่น จีน เกาหลี อังกฤษ



วิวข้างทาง



ไปถึง Nippori ประมาณ 10 โมง ใช้เวลาประมาณ 40 นาที



จากนั้นก็วุ่นวายกับการต่อรถไฟ JR
เนื่องจาก หาทางออกไม่เจอออออ 😱


ไม่เห็นมีตู้ตรวจตั๋วไหนรับตั๋ว Keisei เลยง่าาาาา 😵
สอดไปมันก็ไม่รับ


เลยไปถามจนท.
เค้าก็ให้เราซื้อตั๋ว JR ก่อน (แล้วถ้าหนูลงสถานี้เลย ทำไงอ่ะ 😵)
(ซึ่งเราใช้บัตร IC Card แก๊งค์นี้มีทั้ง Suica, Toica และ Icoca เลย)
จากนั้นก็พาเราไปที่เครื่องตรวจตั๋ว เสียบตั๋ว Keisei ก่อน แล้วแตะบัตร IC Card
โดยมี จนท ถึง 2 คน ให้คำแนะนำ 😜 55


จากนั้นหาป้ายไปรถไฟ JR Joban Line ปลายทาง Kita-Senju แต่เราจะลง Minami-Senju
(จำสถานีนี้ได้ เพราะชื่อคล้าย สถานีทีเราจะลง)



นั่งรถไฟ แต่ดันเลือกขบวน Rapid
อ่าวววว จอด Kita-Senju เฉยเลย ไม่จอด Minami-Senju 😱
ดีที่จำชื่อสถานีได้ เลยรู้ตัวว่า เลยป้ายแล้วจ้าาาา กร๊าาาาก 😅


ต้องนั่งรถย้อนกลับมา 1 สถานี
ลง Minami-Senju Exit West



จากนั้นเดินไปที่พัก ประมาณ 700 เมตร 15 นาที
ฝนกำลังโปรยปรายนิดหน่อย
อากาศหนาวเย็นมากกกกก



มาถึงที่พักเกือบ 10 โมง ครึ่งโดยประมาณ
เป็นโรงแรมเล็กๆ ชื่อ Meigetsu Hotel ホテル明月
ตอนแรกว่าจะฝากกระเป๋าไว้ก่อน
แต่ว่า ห้องว่างพอดี
เช็คอิน ได้ทันที โชคดีจริงๆ
สำรวจห้องกับที่พักนิดหน่อย
รายละเอียดรีวิวที่พัก 👉  http://earist-gui.blogspot.com/2016/12/japan-meigetsu-hotel-tokyo.html


จัดแจงเก็บกระเป๋า เปลี่ยนชุด(พร้อมหนาว)
ก็ออกเดินทางต่อได้







เดินกลับมาที่สถานีรถไฟใต้ดิน Minami-Senju
ได้เวลาใช้บัตรเบ่งละ



วิธีใช้ก็เสียบตั๋วที่เครื่องตรวจตั๋วอัตโนมัติ อย่าลืมรับตั๋วคืนล่ะ



ด้านหลังบัตร พอเริ่มใช้บัตร ก็จะมีวันที่เริ่มใช้ แปะอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยม




นั่งรถไฟใต้ดินสาย Hibiya Line จาก Minami-Senju (H20)ไปลง Ueno (H17)
(แล้วทำไมรถไฟใต้ดินสถานี Minami-Senju มันถึงอยู่บนดินล่ะ 555)





แล้วเปลี่ยนสายเป็น Ginza Line จาก Ueno (G16) ไปลง Asakusa (G19)
โดยการเปลี่ยนสายต้องออกจากระบบก่อน แล้วค่อยเดินเข้าช่องตรวจตั๋วใหม่
ถ้าเป็นตั๋วธรรมดา ต้องออกทางช่องสีส้ม แต่เราบัตรเบ่ง ออกช่องไหนก็ได้


ลง Asakusa Exit 1
ตอนนี้เกือบเที่ยงละ


หาข้าวกินก่อน
เดินหาร้านเทมปุระ ชื่อดัง แต่ดันจำไม่ได้ว่าชื่อไร เลยเดินงงๆ เข้ามาร้านนี้
ร้านเทมปุระ Sansada



พนักงานพูดแต่ภาษาญี่ปุ่น แต่ไม่เป็นไร มีเมนูภาษาไทยให้ด้วยจ้า



สั่งเซตเทมปุระไป เมนูนี้ 1600 เยน ราคารวมภาษีแล้ว
กุ้งตัวใหญ่ เนื้อแน่นดี
มิโซะเข้ม และเค็มกว่าบ้านเรา



ชอบชาที่นี่มาก อร่อยยยยย กินร้อนๆ ฟินจัง (เติมได้เรื่อยๆ)



อิ่มแล้ว มีแรง
เดินต่อไปอีกนิดจะเจอ


วัดเซนโซจิ 浅草寺 

หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า วัดอาซากุสะ
วัดเปิด 6.00 - 17.00 แต่บริเวณรอบๆ วัดเปิด 24 ชม.
เข้าฟรี


ด้านหน้าวัด จะมีโคมสีแดงอันใหญ่ คารินาริมง ที่ทุกคนต้องไปถ่ายรูปคู่ด้วย



ถัดจากโคมจะเป็น ถนน Nakamiese 仲見世 แหล่งช็อปปิ้งของอาซากุสะ
ประมาณงานวัดบ้านเรานะเอง แต่ของเค้าเปิดทุกวัน 09.00 - 19.00



คนเยอะมาก  ตอนนี้ฝนหยุดแล้ว
ร้านรวงก็เปิดกันหมด ผู้คนคึกคักมาก
แวะซื้อของกินนิดๆ หน่อยๆ ของฝากไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่
ข้อเสียของที่นี่คือ ไม่มีใครเค้าเดินไปกินไปกันหรอก


เดินต่อไปจนสุดถนน Nakamiese
จะเจอโคมแดงอีกอัน โคะบุเนะโจ



เด็กน้อยนารัก 😍


ผ่านโคมไปก็จะเจอบริเวณวัด
มองเห็นกระถางธูปขนาดใหญ่ตรงกลาง



ด้านขวา เป็นร้านขายธูป ราคามัดละ 100 เยน



เอาธูปไปจุดที่กระถางหน้าร้าน
ขอพร
แล้วเอาไปปักที่กระถางใหญ่ตรงกลาง
กวักควันธูปเข้าตัวเพื่อความเป็นสิริมงคล





ถัดจากกระถางใหญ่
ทางขวามือ จะมีบ่อน้ำ สำหรับชำระล้าง ก่อนเข้าไปสักการะในอาคารหลัก



สเต็ปการล้างมือ
ล้างมือซ้าย ➤ ล้างมือขวา ➤ ล้างปาก(ด้วยมือซ้าย) ➤ ล้างมือซ้าย ➤ ล้างกระบวย


หน้าอาคารหลักกล่องบริจาคอยู่
แต่เข้าไปในอาคารก็จะมีอีกกล่องนึงนะ







เสต็ปการไหว้
โยนเหรียญ  ➤ สั่นกระดิ่ง(ถ้ามี) ➤ โค้ง 2 ครั้ง ➤ ปรบมือ 2 ครั้ง ➤ ขอพร ➤ โค้ง 1 ครั้ง
ปล. นิยมเหรียญ 5 เยน ที่มีรู


เสร็จแล้วก็เดินชมบริเวณวัด
มีเสี่ยงเซี่ยมซี และเครื่องรางจำหน่าย
ปล. เจดีย์ปิดซ่อมบำรุงอยู่













จากนั้นเดินไปที่สะพานริมน้ำสุมิดะ
เพื่อถ่ายรูปวิว
แต่ทว่า.....
โตเกียวสกายทรี มันหายไปแล้ววววว
โดนก๊อตซิล่าถล่มไปแล้วหรอ เห็นแต่ฐานนนนนนนนน 😭😭😭😭





เดินกลับมาที่  Asakusa Culture Tourist Information Center (อยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัดอาซากุสะ)
เปิด 9.00 - 20.00
เพื่อขึ้นไปชมวิวชั้นบนสุด (น่าจะชั้น 8 นะ ขึ้นฟรีจ้า)



ก็ได้วิวมุมสูงของวัดอาซากุสะมา
ส่วนโตเกียวสกายทรีนั้น ไปแล้วไปลับไม่กลับมา 😢





สถานีต่อไป Ueno
แต่เนื่องจากอากาศหนาวเกิ๊น 😰
เลยกลับไปที่โรงแรมก่อน เพื่อเปลี่ยนเสื้อให้กันหนาวได้สุดๆ (หนาวกว่านี้ก็ช่วยไม่ได้แล้วจ้า)
ถ้ามาจากใต้ดิน Minami-Senju Exit North
(ตามที่เขียนใน Google Map แต่จริงๆ แล้ว เราเห็นแค่ทางออก 1 กะ 2 แค่นั้นเอง 555)



ทางรถไฟ สาย Hibiya


จากนั้นไปยังสถานีรถไฟใต้ดิน Minami-Senju เพื่อไป Ueno



ลง Ueno Exit 5b
มุ่งหน้าไป

ตลาด Ameyoko アメ横

ตอนนี้ 4 โมงกว่าละ ท้องฟ้าเริ่มมืด
ตลาดเปิดทุกวัน 10.00-22.00





มีพวกผลไม้น่ากินเยอะอยู่ ราคาแพงกว่าบ้านเรา จัดแพคเกจมาได้น่าซื้อดี
เมลอนเสียบไม้ สีส้ม 200 เยน อร่อยกว่าแบบสีเขียว 100 เยน
สตอเบอรี่น่ากินมาก 😍 ถุงละ 450-1000 เยน ไม่แน่ใจว่ามันคนละพันธ์รึเปล่า
แต่เพื่อนบอกว่า มีแบบเสียบไม้ 4 ลูก 200 เยนด้วย หวาน ฉ่ำมาก (แต่อิชั้นไม่เจอ เลยไม่ได้กิน 😟)





จากนั้นก็แวะตามร้าน Tax free ต่างๆ
ก่อนจะแยกย้ายกันไปกินข้าวเย็น
ขุ่นเพื่อนไปร้านข้าวหน้าปลาดิบ ซึ่งชั้นไม่กินปลาดิบ
เลยแยกไปหาร้านราเมงกิน


เจอร้านนึง ราคา + หน้าร้านโอเค 😊





เดินเข้าร้านไป
ขวามือเป็นตู้กดเลือก ราเมง
ทุกอย่างเป็นภาษาญี่ปุ่น 😵😵



หึ 😏
สกิลมั่วทำงาน
หยอดตังค์ไป
รูปไหนน่ากินก็กดโล้ด 😆
มันจะมีบัตรออกมา น่าจะเป็นชื่อราเมง
แล้วก็กดปุ่มล่างสุดเพื่อรับตังค์ทอน


จากนั้นยื่นให้พนักงาน (ตอนแรกเราถือบัตรไว้แบบงงๆ จนพนักงานมาขอบัตรไป)
ส่วนเราก็นั่งรอที่โต๊ะ
น้ำเปล่าฟรี
ในร้านอุ่นดี
คนน้อยดีด้วย (หรือมันไม่อร่อยฟระ)



ราเมง เส้นเยอะ เนื้อน้อย เค็มกว่าไทย





จากนั้นก็เดินแถวๆ ตลาด เพราะยังไม่ถึงเวลาที่นัดกับเพื่อน
มีศาลเจ้าด้วย








เวลาเกือบ 1 ทุ่ม
ก็เดินทางต่อไปที่สถานี Onarimon Exit 6
เพื่อไปดู


Tokyo Tower 😍😍




ที่เลือกลงสถานีนี้เพราะ เพื่อนดูซี่รี่ย์มา 😂555
แต่สถานีนี้ เวลาขึ้นมาจะเจอสวน แล้วด้านหน้าเป็น Tokyo tower มุมสวยดีเหมือนกัน 😀









จากนั้นก็เดินไปวัด Zōjō-ji 増上寺



แต่ระหว่างทาง Tokyo Tower แม่งเปลี่ยนสีเว้ยเห้ย 😳
ไม่ส้มแล้ว
ไม่สวยด้วย
ง่าาาาาาาาาา 😢



เข้าไปถ่ายรูปในวัด



เดินไปจนถึง Shiba Park 芝公園



แล้วเดินขึ้นไปบนลานกว้าง ข้างๆ The Prince Park Tower Tokyo ทะลุสวนไปยังถนนที่ติดกับ Tokyo Tower





จากนั้นนั่งรถใต้ดินสาย Oedo จาก Akabanebashi
เพื่อไป


Roppongi Midtown Christmas 2016 
(六本木 ミッドタウン・クリスマス 2016)



ลง Roppongi (Toei Oedo Line) Exit 8
การเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินสะดวกดี
ชานชาลามีไม่เยอะ คนก็ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่
ป่ายต่างๆ ก็ชัดเจน จนท. ในสถานีก็เยอะ โอกาสหลงค่อนข้างน้อย


จะมีการประดับไฟตามต้นไม้ ทั้งสองข้างทาง





เดินไปดูการประดับไฟบริเวณสวน Midtown Garden ミッドタウンガーデン
เปิดไฟเวลา 17:00 - 23:00













ไฮไลท์ของงานคือ Starlight Garden เป็นโชว์แสดงไฟ 😘
การแสดงจะวนไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรอรอบ
ได้ดูไปประมาณ 5 รอบละ พยายามถ่ายวีดีโออยู่ (การแสดงเหมือนเดิม)





สวยดี แต่ไม่ค่อยมีมุมสูงให้ดู



จากนั้นก็กลับ
นั่งรถไฟใต้ดิน ลงไปทางเดิม ที่เราขึ้นมา
แต่เดินทางสาย Hibiya แทน (ตอนแรกเรามาจากสาย Oedo) เดินไม่ไกลเท่าไหร่
ถึงที่พักเกือบ 5 ทุ่ม



ทางกลับโรงแรม เงียบสงบดี แทบไม่มีคนเดินเลย
แต่มีไฟสว่างตลอดทาง ทั้งจาก ไฟถนน และไฟตามบ้านเรือน

ไปถึงก็อาบน้ำ นอนเลย วันแรกก็เดินกันขาลากเลยยยย 😴


ปิดท้ายด้วยวีดีโอจาก Starlight Garden งาน Midtown Christmas




……………………………………… .♥ •.¸.•´♥………………………………………

💰 สรุปค่าใช้จ่าย 💰

รายการYen
ข้าวเช้า (มินิมาร์ท)198
ข้าวกลางวัน (เทมปุระ)1,600
ข้าวเย็น (ราเมง)780
ซื้อบัตร Skyliner3,500
เติมบัตร IC Card500
ค่าขนมอื่นๆ220
ค่ากิจกรรม (เข้าวัด)110
ค่าที่พัก2,800
รวม9,708



ปล. ค่าของกินในมินิมาร์ทกับค่าเดินทางบางส่วนจะใช้ IC Card จ่าย เลยไม่ได้จดรายละเอียดไว้



--- ดูรีวิวซีรีย์ ที่นี่แจแปน ทั้งหมดได้ที่นี่ 👇 ---
🍁 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Japan】 ที่นี่เจแปน - โรงแรม Meigetsu Hotel @Tokyo
🍁 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Japan】 ที่นี่เจแปน - โรงแรม Lake Villa Kawaguchiko @Kawaguchiko Lake 
🍁 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Japan】 ที่นี่เจแปน - โรงแรม Piece Hostel Kyoto @Kyoto
🍁 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Japan】 ที่นี่เจแปน - โรงแรม Shin Imamiya @Osaka
🍁 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Japan】 ที่นี่เจแปน - สถานีโตเกียว [Day 1]
🍁 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Japan】 ที่นี่เจแปน - สถานีโตเกียว [Day 2]
🍁 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Japan】 ที่นี่เจแปน - สถานีคาวากุจิโกะ [Day 3]
🍁 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Japan】 ที่นี่เจแปน - สถานีคาวากุจิโกะ [Day 4]
🍁 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Japan】 ที่นี่เจแปน - สถานีเกียวโต [Day 5]
🍁 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Japan】 ที่นี่เจแปน - สถานีเกียวโต [Day 6]
🍁 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Japan】 ที่นี่เจแปน - สถานีนารา & โอซาก้า [Day 7]
🍁 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Japan】 ที่นี่เจแปน - สถานีฮิเมจิ & โกเบ [Day 8]
🍁 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Japan】 ที่นี่เจแปน - บ๊ายบาย เจแปน [Day 9]

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : ประสบการณ์การซื้อยา Diamox ที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน

☞ ประสบการณ์ทำเควส "ตรวจสุขภาพ ศูนย์แพทย์พัฒนา" ☜

ประสบการณ์ยื่นขอวีซ่าจีน ด้วยตัวเอง <ก.ย 2561 & ส.ค 2562>