ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Japan】 ที่นี่เจแปน - สถานีคาวากุจิโกะ [Day 3]




วันนี้เริ่มต้นด้วยการเช็คเอาต์จากที่พักตั้งแต่ตี 5 เลยค่ะ 😴
แต่เมื่อคืนบอกคุณเจ้าของไว้ล่วงหน้าแล้วน้าา 😏


เค้าก็อุตส่าห์ตื่นมาเปิดประตูให้ 😅
ส่วนพวกเรา เก็บของเรียบร้อย ก็ต้องแบกกระเป๋าลงมา
แล้วเอากุญแจมาวางไว้หน้าเคาน์เตอร์ได้เลย
(แล้วก็ส่งเมล์มาถามทีหลังว่าเช็คเอาต์เรียบร้อยแล้วใช่ไหม จะได้เคลียร์ๆ ไม่มีปัญหา)


จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่สถานี Minami-Senju เพื่อนั่งรถไปยังสถานี Shinjuku กันค่ะ



นั่งรถไฟ JR Joban Line ไปลง Nippori
นั่งรถไฟ JR Yamanote ไปลง Shinjuku


เดินออก Exit South
แล้วข้ามถนนไปตึก NEWoMan ชั้น 4


นั่งรอรถในท่ารถ
ตอนเช้าๆ คนก็ยังคึกคัก
ภายใน ไม่มีอาหาร หรือมินิมาร์ท แต่มีตู้กดน้ำอัตโนมัติอยู่


มีห้องน้ำสะอาดดีค่ะ
ควรมารอเข้าก่อนรถออกประมาณ 15-30 นาที
เพราะห้องน้ำมีจำกัด ประมาณ 4-5 ห้อง บางครั้งคิวยาวมากๆ เลย 😓


เรานั่งรอรถกันตรงเก้าอี้ใกล้ๆ ประตูฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว
จะมีป้ายบอกว่า รถหมายเลขอะไร ปลายทางที่ไหน เวลาออกรถกี่โมง จะเข้ามาจอด ป้ายนี้



รถมาก่อนเวลาประมาณ 10 นาทีค่ะ
พอรถมาก็เข้าแถว แล้วแสดงตั๋วโดยสารกับพนักงาน ก่อนจะขึ้นไปที่รถค่ะ
สามารถฝากกระเป๋าไว้ใต้ท้องรถได้



รถออกตรงเวลามาก
พวกเราได้นั่งแถวแรกๆ เลย (ก็จองตั้งแต่ระบบเริ่มเปิดเลยนี่นา ประมาณตี 3 ได้ 😅)



รถสะอาด กว้างขวางดี



มีถาดวางของข้างหน้า



มีปลั๊กไฟให้ด้วย



หน้ารถมีช่องสำหรับจ่ายเงิน
เหมือนว่าจะรับคนระหว่างทางด้วย



วิวฝั่งซ้ายสวยกว่าฝั่งขวา 😌


ตอนแรก รถก็วิ่งในเมืองดี มีแต่ตึก บ้าน ร้านค้า
พอลอดอุโมงค์ไปแค่นั้นแหละ
ที่นี่ที่ไหน ???
ทำไมมีแต่ป่า เขา หมอก
โอ้ววววว อยากไปอยู่ตรงนั้นนนนน 😍



ท้องฟ้าวันนี้ค่อนข้างหม่นหมองค่ะ เต็มไปด้วยเมฆหมอก (ตามพยากรณ์อากาศเป๊ะ)
เราลุ้นฟูจิอยู่ตลอดเวลาเลยอ่ะ 😣


พอรถมาถึงฟูจิคิวไฮแลนด์ (Fuji Q Highland Sta.)
ฟูจิซัง ค่อยๆ โผล่มาหน่อยๆ ให้ใจเต้นเป็นพักๆ 😲





รถมาถึงสถานีคาวากูจิโกะ (Kawaguchiko Sta.) 河口湖駅 เวลาเกือบ 9 โมง
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.


พอลงมาดู ฟูจิซังก็หายไปแล้ว ฮือออออ 😭





พอลงรถ ก็เอากระเป๋าเก็บที่ล็อกเกอร์
ล็อกเกอร์มี 2 จุด ทั้งคู่จะอยู่ทางฝั่งขวา ถ้าหันหน้าเข้าสถานี



จุดแรกเป็นห้องล็อกเกอร์



อีกจุด จะอยู่ด้านนอก ติดกับห้องล็อกเกอร์



ขนาดใหญ่สุดราคา 600 เยน
จริงๆ สามารถฝากกระเป๋าไว้ตรงจุดฝากกระเป๋าในสถานีได้ ราคาถูกกว่า (น่าจะใบละ 300 เยน)
แต่เราเลือกที่สะดวกดีกว่า เพราะล็อคเกอร์มีที่วางพอดี
ไม่อยากไปลุ้นตรงเคาน์เตอร์อีก


ขณะกำลังยัดกระเป๋าใส่ล็อคเกอร์อยู่นั้น
ฟูจิซังก็โผล่ออกมาให้เห็นเต็มตา 😲😲



วิ่งสิเอ๋ วิ่ง 😆😆😆😆😆😆😆
อร๊ายยยยย รอด้วยยยยยย
รีบไปถ่ายฟูจิ ก่อนที่จะหายไปกับเมฆหมอก
เจอคนไทยที่นี่ด้วย (เพื่อนอีกแก๊งค์มาเมื่อวาน บอกว่า นทท.ที่นี่เป็นคนไทย 80%)







เพียงไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ฟูจิก็ถูกกลืนหายไปเลยยยยยย 😅


หลังจากจัดการกับภาระ เอ้ย! สัมภาระ เรียบร้อย
ก็ออกเดินทางต่อได้ 💪


เป้าหมายต่อไปคือ Oshino Hakkai Village 忍野八海 หรือ หมู่บ้านน้ำใส
ซึ่งต้องเดินทางไปที่สถานีฟูจิ (Fujisan Sta.) 富士山駅 ก่อน แล้วต่อรถไป


ซื้อตั๋วรถไฟได้ที่เครื่องจำหน่ายตั๋ว หรือที่เคาน์เตอร์
มีเครื่องแตะ IC Card อยู่นะคะ
แต่เราไม่แน่ใจ เพราะประตูตรงเครื่องแตะ IC มันมีโซ่คล้องอยู่
เลยซื้อตั่วจากเครื่องเอาก็ได้



พอได้ตั๋วแล้ว ก็เอาไปยื่นให้นายสถานี ตรงช่องตรวจตั๋ว
เค้าจะบอกว่า เราต้องไปขึ้นรถไฟที่ชานชาลาไหน


คันนี้สวยดี แต่เป็นรถไฟนำเที่ยว



เราได้ขึ้นคันนี้





ภายในรถไฟขบวนที่เราต้องนั่งไป สถานีฟูจิ



มองหาฟูจิ กำลังจะพ่ายแพ้ต่อหมอก



พอรถไฟไปถึงสถานีฟูจิ
ก็ต้องยื่นตั๋วให้นายสถานี ตรงช่องตรวจตั๋วอีกครั้ง



จากนั้นเดินเลี้ยวซ้าย ออกไปนอกสถานีค่ะ



พอออกจากสถานีปุ๊บ ให้เลี้ยวซ้ายเลยค่ะ (ถ้าหันหน้าออกจากสถานี)
จากนั้นเดินตรงไปเรื่อยๆ จะเจอ Tourist Information



เข้าไปข้างใน จะเจอเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว
บอกจนท. ว่าไป Oshino Hakkai
เค้าจะให้ตั๋วขาไปมา แล้วบอกว่ารถมากี่โมง ให้รอรถช่องไหน
แต่ขากลับเค้าไม่ขายให้นะคะ ต้องไปจ่ายบนรถ



ถัดจากเคาน์เตอร์ไปด้านใน
จะมีเคาน์เตอร์ Tourist Information



แจ้งจนท. ว่าจะไป Oshino Hakkai
เค้าจะให้ Bus Timetable มา
พร้อมกับข้อมูลที่เที่ยวต่างๆ ใกล้ๆ และแจกโปสการ์ดฟรีด้วยยย 😍
(ข้อดีของการเข้า Tourist Information คือ มีของแจก 😋)


จนท. อธิบายว่า เราสามารถไป Oshino Hakkai ได้โดย
รถบัสเขียว Fujikko-Go
กับ
รถบัสไป Gotemba


ซึ่งสามารถลงรถที่ป้าย
Oshino Hakkai
กับ
Oshino Hakkai Iriguchi หรือ Oshino Hakkai Entrance



ตารางรถบัส Fujikko-Go



ตารางรถบัส Gotemba





เนื่องจากรถมาไม่ค่อยถี่มาก
บางครั้งพลาดไป อาจต้องรอเป็นชั่วโมงเลย ต้องเช็คเวลากันดีๆ หน่อยนะคะ


หลังจากได้ข้อมูลมา เราก็ไปรอรถ ที่ป้ายตรงข้าม Tourist Information
รอสักพัก รถก็มา



เอาตั๋วไปถามพนักงานขับรถ ก็โอเค คันนี้ไป Oshino Hakkai
แต่ ตอนเอาตั๋วไปถาม ดันขึ้นไปหน้ารถ
แล้วพนักงานเค้ากดปิดประตูหน้าพอดี
โดนประตูหนีบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ 😱 😭😭😭😭😭 😱


พนักงานรีบขอโทษ แล้วบอกให้เราไปรอขึ้นรถตรงประตูหลังแทน 😓
รถออกประมาณ 10.10





ฟูจิสู้ๆ 💪





รถวิ่งใช้เวลาประมาณ 20 นาทีก็ถึงที่หมาย
โดยจะจอดตรงใกล้สะพานข้ามแม่น้ำเล็กๆ





จากนั้นก็เดินไปหมู่บ้านใสกันเล้ย!


Oshino Hakkai Village 忍野八海


โดยหลังจากที่ลงจากรถ ให้เดินต่อไปข้างหน้าอีกนิด
จะเจอซอยเล็กๆ ทางซ้าย มีป้ายบอกทางด้านบน (ไว้ซะสูงเชียว)
ก็เดินเลี้ยวเข้าซอยไป



เดินตรงไปเรื่อยๆ จะเจอป้ายหน้าตาจาวๆ ใหญ่ๆ แบบรูปข้างล่าง
ก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอยด้านหลังป้ายอีกครั้ง



ระหว่างทางก็แวะซื้อขนมไปเรื่อยๆ
ได้กินของร้อนๆ แล้วรู้สึกดี
ปล. มันเผา กับเกาลัด อร่อยดี มีควัน ควรลอง 👍







ท้องอิ่มแล้ว
ก็เดินสำรวจบ่อต่างๆ





ที่นี่จะมีบ่อน้ำทั้งหมด 8 บ่อ
แต่เราไปแค่ 6 บ่อเท่านั้น







เริ่มจากบ่อที่ใกล้ที่สุด Waku-ike Pond (5)






ใกล้ๆ กัน จะมีบ่อขนาดใหญ่ ตั้งอยู่หน้าร้านขายของที่ระลึก
แต่ดูเหมือนบ่อนี้จะไม่ถูกนับรวมอยู่ในบ่อน้ำทั้ง 8















บ่อถัดไป Kagami-ike Pond (7) เดินเลยบ่อน้ำใหญ่ไปอีก อยู่หลังห้องน้ำค่ะ 😏





บ่อถัดไป Soubu-ike Pond (8) จะอยู่บริเวณใกล้ๆ แปลงผักค่ะ







เดินอ้อมกลับไปที่บ่อแรก





เจอต้นเมเปิ้ลยักษ์ระหว่างทาง





บ่อถัดไป Nigori-ike Pond (6)
ดูไม่เหมือนบ่อ นึกว่าแม่น้ำ อยู่ใกล้ๆ บ่อใหญ่ตรงข้ามบ่อ 5 (บ่อแรกที่เราไปดู)





เดินริมน้ำไปเรื่อยๆ
จะเจอทางเข้าอีกบ่อนึงทางซ้ายมือ Choshi-ike Pond (4)



มองย้อนกลับไปที่บ่อ 6









จากนั้นกลับไปทางเดินริมน้ำ
เดินไปจนสุดทาง จะเจอสะพานข้าม 2 สะพาน





ข้ามสะพานทั้งคู่มาเลี้ยวซ้าย แล้วเดินตรงๆ ไปเรื่อยๆ ค่ะ
จะเจอบ่อสุดท้าย (ของเรา) Okami-ike (2) ทางขวา
มองเห็นกังหันไม้เด่นเป็นสง่า







บ่อนี้น้ำใสมากจริงๆ ตรงจุดตื้นๆ จะเห็นพื้นชัดมาก
ด้านใน มีจุดที่ลึก และใสมาก
ลึกขนาดนี้ยังมองเห็นถึงก้นบ่อ แบบชัดแจ๋วเลยทีเดียว





ครบแล้ว 6 บ่อแล้ววว 😇
สำหรับบ่อที่เราไม่ได้ไป คือ
- Deguchi-ike Pond (1) เป็นบ่อน้ำที่ต้องเดินไปอีก 15 นาที
- Sokonashi-ike Pond (3) เป็นบ่อน้ำที่ต้องเดินเข้าไปในเขตพิพิธภัณฑ์


เดินต่อไปอีกนิด เจอถนน เลี้ยวขวา ข้ามสะพาน
จะวนกลับมาตรงจุดลงรถเมื่อเช้า





เดินกลับมาจุดเดิม



ไปรอฝั่งตรงข้าม ใกล้ๆ ลานจอดรถ



รอรถสักพัก
ก็มีรถ Fujikko-Go คันเขียวๆ ขับเข้ามา


ถามคนขับว่าไปสถานีฟูจิ หรือเปล่า
คนขับตอบโอเค ก็ขึ้นรถจากทางประตูหลัง


รอบนี้เราแตะบัตร IC Card
ถ้าใครไม่มี ก็ดึงตั๋วตรงใกล้ๆ ที่แตะบัตร
แล้วไปจ่ายเงินตอนลง







ขากลับรถวิ่งช้ากว่าเดิม เพราะรถวิ่งคนละเส้นทางกัน
รอบนี้จะเน้นขับเข้ามาในเขตชุมชนหน่อย
ตอนขามา เจอแต่ป่าเป็นส่วนใหญ่


ตอนลง เรากับเพื่อนๆ ก็แตะบัตร IC Card เพื่อหักเงินในบัตร
แต่! ความพิเศษของมัน
คืออออออออออออ
บัตร 3 ใบ
ไม่มีใครมีเงินพอเลย 😹😹😹😹 55555


แต่เค้าก็มีวิธีแก้ปัญหา (คงเจอบ่อย)
ของเราเงินขาดไป 10 เยน


ลุงคนขับก็ให้เราจ่าย 10 เยน
แล้วเค้าก็เติมเงินใน IC Card ให้
แล้วให้แตะบัตร IC Card อีกครั้ง


ของเพื่อนอีกคนก็ทำเช่นกัน


ส่วนของคนสุดท้าย น่าจะขาดไปหลายเยน
เค้าเลยยกเลิกการจ่ายด้วย IC Card แล้วให้จ่ายเป็นเงินสดแทน


ลุงคนขับคงสงสัย แล้วพวกแกจะใช้บัตรทำไมห๊าาาาา (ช้ากว่าเดิมอี๊กกกก) 😬😬😬😬



มาถึงสถานีฟูจิ ตอนเที่ยงกว่าๆ
ก็หาข้าวกินที่ Food Court ชั้น B1 ในสถานี





มีบะหมี่ Hoto อาหารท้องถิ่นของที่นี่ขายด้วย
ระวังเรื่องไซส์อาหารด้วย
ของที่นี่ ขนาดใหญ่ คือ โครตใหญ่อ่ะ 😓



เสร็จแล้วเดินช็อปนิดหน่อย


ชั้นบนสุด มีดาดฟ้าชมวิวด้วยค่ะ
ปกติจะมองเห็นฟูจิ แต่วันนี้ ม่ายเห็นแล้วววว (ตอกย้ำกันรัวๆ) 😭








เดินในสถานีสักพัก ก่อนจะตัดสินใจกลับ สถานีคาวากูจิโกะ



ซื้อตั๋วจากตู้เหมือนเดิม
ตรงใกล้ๆ ช่องตรวจตั๋ว จะมีห้องให้นั่งรอ
แต่เราไม่เห็น ยื่นตั๋วให้นายสถานี แล้วก็เดินเข้ามารอที่ชานชาลาเลย


และ มันหนาวมากกกกกกกกกกก 😰😰😰😰
ในห้องนั้นน่าจะอุ่น ฮืออออ รีบมาทำไมมมมม กว่ารถไฟจะมาก็เกือบครึ่งชม. 😱😰😱






โชคดีที่เข้ามาแล้วยังมีตู้กดน้ำ เลยกดน้ำอุ่นๆ มาจับๆ คลายหนาว
ด้านในชานชาลา มีตู้เติมบัตร IC Card ด้วย เติมได้ 1000 2000 เยน แบบนี้นะ ไม่มีเติมย่อย
รู้สึกว่าหลังจากออกมาจากโตเกียว ก็ไม่เจอที่รับเติม IC Card เป็นหน่วยเล็กๆ อีกเลยค่ะ


รอเกือบครึ่งชม.
ก็มีรถไฟหลงเข้ามา



แต่เอ่อ....   ใช่ขบวนนี้หรอฟระเนี่ยยยยย 😦




เป็นรถไฟโทมัส มุ้งมิ้ง น่ารักคิกขุเชียว 😑



ถึงสถานีคาวากูจิโกะแล้ว
อยากนั่งคันนี้มั่ง 😆



สำรวจในสถานีนิดหน่อย
เพราะเป้าหมายต่อไปของเราคือ ไปที่พักเลย 💪

ถ้าหันหลังให้สถานี เครื่องตรวจบัตร และชานชาลา (ถ้าเดินหน้าไป ก็ออกจากสถานี)
ฝั่งขวาจะเป็นเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว แลกเงิน
ฝั่งซ้ายจะเป็นร้านอาหาร ร้านจำหน่ายของที่ระลึก ห้องน้ำ ล็อคเกอร์


ป้ายก่อนออกจากสถานี



ด้านหลังเป็นเครื่องตรวจตั๋ว



ขวามือเป็นเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว



ซ้ายมือเป็นย่านร้านค้า และสิ่งอำนวยความสะดวก



สำรวจเสร็จ
ก็กลับมาที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว ช่องที่ 2
เพื่อซื้อตั๋ว 2 Days pass ราคา 1200 เยน นั่งได้ทั้ง Red line และ Green line
มันไม่มีแบบ 1 day นะคะ แบบ Red line อย่างเดียวก็ไม่มีค่ะ
เห็นมีคนถามจนท. บ่อยมาก เพราะหลายคนมาแบบ เช้าไปเย็นกลับ
ระหว่างรอซื้อตั๋ว เพื่อนๆ ก็ไปลากกระเป๋าออกจากล็อคเกอร์





รถบัสวิ่งประมาณ 9.30 ถึง 17.30 รายละเอียดตารางเวลาดูได้จากลิงค์ด้านล่าง
ตารางรถขาไปจากสถานีคาวากูจิโกะ
ตารางรถขากลับไปสถานีคาวากูจิโกะ


อันนี้เป็นตารางค่ารถ หาเจอในเน็ต แต่ไม่แน่ใจว่าล่าสุดหรือยัง
เอาไว้เช็คว่าควรซื้อ Pass ดีไหม




ซื้อเสร็จแล้วไปต่อคิวขึ้นรถ หน้าสถานีเลย
เค้าจะแถวสำหรับ Green line กับ Red line แยกกัน
แล้วจะมีจนท. คอยถามว่าเราจะไปลงป้ายไหน
เค้าจะจัดคนขึ้นรถให้
เพราะบางคันเป็น Red line แต่ไม่ได้วนรอบทะเลสาบ


รอรถอยู่พักนึง
รถก็มา โชคดี เป็นรถบัสคันใหญ่ ไม่ใช่ Omni Bus คนน้อยๆ
แต่ถึงอย่างนั้น คนก็ขึ้นรถกันจนเต็มคัน


Omni Bus คันจิ๋ว ที่บางคันก็ไป Fujisan Sta. บางคันก็ไปถึงป้าย 22



รถบัส Green Line (แล้วถ้าอยากไปแกรนด์ไลน์ล่ะ ... วันพีชก็มา)



ภายในรถบัสที่เรานั่งมา
คันใหญ่คล้าย Green Line



นั่งรถไปสัก 20 นาที ก็ถึงป้าย 18 Kawaguchiko Sarumawashi Gekijo • Konohana Bijutsukan 河口湖猿まわし劇場 • 木の花美術館
ชื่อยาวจังแหะ ฟังไม่ค่อยออก แต่อาศัยฟังคำว่า Konohana เอาค่ะ


ลงตรงหน้าร้านนี้



จากนั้นลากกระเป๋าไปยังที่พัก
ถนนแถวนี้ ทำร้ายล้อกระเป๋ามากอ่ะ


ระหว่างทางบรรยากาศดี
ถ้าไม่ใช่ช่วงใบไม้แดง ก็คงจะมีสีเขียวๆ เต็มแปลง



มาถึงที่พักตอนบ่ายสามกว่าๆ
รอเช็คอินชม. นึง
ใช้เวลาเช็คอินกับบรรยายที่พักอีก ชม.นึง


ออกมา ฟ้ามืดแล้วจ้าาาา 😥


แถวนี้ค่อนข้างห่างไกลความเจริญ
ร้านอาหารมีน้อย และไม่ใกล้มินิมาร์ทเลย (เห็นว่าเดินไปมินิมาร์ท 15 นาทีได้)


โชคดีเป็นช่วงงานเทศกาลอุโมงค์เมเปิ้ล


Maple Corridor / Momiji Kairo 紅葉回路 


ช่วงเวลาจัดงาน 9.00-19.00
(ไฟไลท์อัพเปิดถึง 22.00)


ไปหาของกินตามซุ้มขายของ












ข้าวโพด หวาน อร่อยมากกกก 400 เยน 😘
ปลาหมึกโอเค น่าจะ 500 เยนมั้ง (เพื่อนซื้อมา)



ทาโกะยากิ 400 เยน
เป็นแป้งไปซะ 90%
มี 8 ชิ้น เจอปลาหมึก 2 ชิ้น
ไม่ได้ทำสดใหม่ด้วย



ปลาที่มีคนบอกว่า ควรไปกินที่ หมู่บ้านน้ำใส แล้วก็ไม่ได้ไปกิน
ดันมากินที่นี่ เอ่อ มันเค็มๆ แห้งๆ ไม่ค่อยมีเนื้อเลย (ของปลอมใช่มะ)



กินเสร็จ ก็เดินไป อุโมงค์เมเปิ้ล
ช่วงนี้เริ่มมีฝนโปรยปรายนิดหน่อย



ฝั่งนี้ก็มีซุ้มขายของเช่นกัน แต่จะไม่หลากหลายเท่าอีกฝั่ง



มีก่อกองไฟด้วย



ตอนค่ำๆ คนจะยังเยอะอยู่
แต่พอดีกๆ จะไม่ค่อยมีคนแล้ว























หลังจากเดินได้รอบนึง
ก็เดินกลับที่พัก
รอลุ้นอากาศวันพรุ่งนี้กันต่อ




……………………………………… .♥ •.¸.•´♥………………………………………

💰 สรุปค่าใช้จ่าย 💰

รายการYen
ข้าวเช้า (ขโมยขนมเพื่อน)0
ข้าวกลางวัน (Hoto)500
ข้าวเย็น (ซุ้มงานอุโมงค์เมเปิ้ล)1100
ค่าบัตร 2 Days Pass1200
ค่าตั๋วรถไฟไปกลับสถานีฟูจิ440
ค่าตั๋วบัสไป Oshino Hakkai 390
เติมบัตร IC Card1010
ค่าขนมอื่นๆ370
ค่า Locker600
รวม5,610



--- ดูรีวิวซีรีย์ ที่นี่แจแปน ทั้งหมดได้ที่นี่ 👇 ---
🍁 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Japan】 ที่นี่เจแปน - โรงแรม Meigetsu Hotel @Tokyo
🍁 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Japan】 ที่นี่เจแปน - โรงแรม Lake Villa Kawaguchiko @Kawaguchiko Lake 
🍁 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Japan】 ที่นี่เจแปน - โรงแรม Piece Hostel Kyoto @Kyoto
🍁 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Japan】 ที่นี่เจแปน - โรงแรม Shin Imamiya @Osaka
🍁 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Japan】 ที่นี่เจแปน - สถานีโตเกียว [Day 1]
🍁 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Japan】 ที่นี่เจแปน - สถานีโตเกียว [Day 2]
🍁 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Japan】 ที่นี่เจแปน - สถานีคาวากุจิโกะ [Day 3]
🍁 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Japan】 ที่นี่เจแปน - สถานีคาวากุจิโกะ [Day 4]
🍁 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Japan】 ที่นี่เจแปน - สถานีเกียวโต [Day 5]
🍁 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Japan】 ที่นี่เจแปน - สถานีเกียวโต [Day 6]
🍁 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Japan】 ที่นี่เจแปน - สถานีนารา & โอซาก้า [Day 7]
🍁 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Japan】 ที่นี่เจแปน - สถานีฮิเมจิ & โกเบ [Day 8]
🍁 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ 【 Japan】 ที่นี่เจแปน - บ๊ายบาย เจแปน [Day 9]

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : ประสบการณ์การซื้อยา Diamox ที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน

☞ ประสบการณ์ทำเควส "ตรวจสุขภาพ ศูนย์แพทย์พัฒนา" ☜

ประสบการณ์ยื่นขอวีซ่าจีน ด้วยตัวเอง <ก.ย 2561 & ส.ค 2562>