ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 4 ตะลอนทัวร์ St.Petersburg (Day 3)





ปล. รูปมาจากกล้องหลายคน 

เช้าวันใหม่ ยังนอน(ไม่หลับ)อยู่บนรถไฟ 💤

เวลาตี 3 ครึ่ง
แสงอาทิตย์สาดส่องมาด้านในห้อง
ถือเป็นนิมิตหมายอันดี
ได้เห็นพระอาทิตย์แล้วเว้ยเห้ยยยยยยยยยย 😆😆😆😆😆




จนเวลาตี 5 กว่าๆ
ไปจองห้องน้ำ ทำธุระส่วนตัว พร้อมเปลี่ยนเสื้อผ้า

พอ 6 โมง จนท. จะมาเคาะปลุกผู้โดยสาร แล้วคืนตั๋วโดยสารให้
ห้องน้ำคนเริ่มเยอะ คิวเริ่มยาว ดีนะไหวตัวทัน 😉

พอรถไฟถึงชานชาลาปลายทาง
ก็แบกกระเป๋า เดินไปที่ข้างในสถานี

สวัสดี St. Petersburg ชั้นมาหาแล้วววววววววววววววววว 😘



สถานีรถไฟ Moskovskiy vokzal (Московский вокзал) <<< ไม่ได้พิมพ์ผิดนะ ถ้าดูใน Google Map มันจะเขียนว่า Moscow Station ด้วยซ้ำ
หรือ Sankt-Petersburg Glavny (Санкт-Петербург-Главн) ที่เราเห็นใน e-ticket ของรถไฟ ซึ่งเป็นชื่อเก่าของสถานีนี้
สามารถเชื่อมต่อกับรถเมโทร Gostiny Dvor สายสีเขียว และ Ploschad Vosstaniya สายสีแดง

สถานีนี้ เล็กกว่าที่คิด มีร้านค้านิดหน่อย



ทางเข้าสถานีเมโทร ถ้ามาจากชานชาลา จะอยู่ทางซ้ายมือ กลางๆ สถานีรถไฟ




ในสถานี คนค่อนข้างเยอะ
เข้าไปซื้อบัตรตรงหน้าเคาน์เตอร์กันดีกว่า
มีป้ายบอกบัตรราคาบัตรโดยสารต่างๆ แต่มีภาษาอังกฤษเฉพาะบางส่วน



ค่าโดยสารเที่ยวละ 45 RUB

จากที่อ่านมา หลักๆ มีตั๋ว 2 แบบ
1.ตั๋วแบบเหรียญ เรียกว่า талон (ตาลอน) แต่ฝรั่งเค้าเรียกว่า Token



2.ตั๋วแบบบัตร เรียกว่า Podorozhnik เหมือนบัตรเติมเงิน
เราจะต้องกดซื้อบัตรเปล่าจากเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติมาก่อนแล้วค่อยเติมเงินเข้าไป
หรือไปซื้อที่เคาน์เตอร์แล้วบอกจำนวนเที่ยวที่ต้องการเติมลงไป
บัตรมีค่ามัดจำ และจะได้ค่ามัดจำคืนเวลาเอาบัตรไปคืน



จริงๆ ถ้าเข้าไปดูในเว็บ จะมีตั๋วอีกหลายแบบมากกกกกก
http://www.metro.spb.ru/pricetickets.html

เราเลือก 10 Journey Pass for 7 days = ПБ на 10 поездок и 7 дней - RUB 355
มีค่ามัดจำบัตร 70 RUB ได้คืน ตอนเอาบัตรมาคืน



บัตรนี้ไม่สามารถแชร์กับเพื่อนได้
เพราะแตะบัตรครั้งนึงแล้วจะต้องรอเวลาสักพักนึง (น่าจะหลายนาที) ถึงจะแตะบัตรครั้งต่อไปได้
จึงต้องซื้อมาคนละใบ

หน้าบัตรบอกว่า ใช้กับพวกรถ Bus, Trolley Bus, Tram ได้
แต่ลองเอาไปใช้แล้ว ใช้ไม่ได้
ระบบน่าจะแยกการเติมเที่ยวของแต่ละประเภทไว้ ซึ่งเราน่าจะเติมเฉพาะเที่ยวของเมโทรเท่านั้น

หลังจากได้บัตรแล้วก็เอาไปแตะที่เครื่องกั้น แล้วเดินเข้าไปได้เลย

 


ป้ายชานชาลา ต่างจากที่ Moscow
ป้ายด้านบน จะแสดงเฉพาะสถานีปลายทางของขบวนรถเมโทรเท่านั้น (เหมือน BTS บ้านเรา)
เลยต้องมีแผนที่ติดตัวไว้ เพราะจำปลายทางไม่ค่อยได้



แต่พอมาถึงชานชาลา จะมีป้ายบอกอีกที ว่ารถขบวนนี้ผ่านสถานีไหนบ้าง

การไปที่พักของเรา
เริ่มจากการเดินหารถไฟสายสีเขียว

Mayakovskaya -> Gostiny Dvor (สีเขียว ไป Primorskaya 1 สถานี)

สายสีเขียว รถไฟค่อนข้างเก่า
ชานชาลาก็ค่อนข้างแปลก
ปกติเราจะเจอชานชาลาเปิด เหมือน BTS
แบบว่า ถ้านึกบ้าขึ้นมา ก็กระโดดลงรางรถเมโทรไปได้เลย

แต่ที่นี่ รวมถึงสายสีเขียวส่วนใหญ่ที่เห็น
จะมีประตูปิดกั้นระหว่างชานชาลากับรางเมโทรไว้เลย มองไม่เห็นขบวนรถเมโทร
แล้วทุกคนจะยืนแนบชิดติดประตูมาก



สังเกตการณ์อยู่พักนึง (ป่าว... จริงๆ แล้ว ตกรถ 5555)
จึงเห็นว่า มันเป็นสายที่ ประตูรถปิดเร็วมากกกก แล้วปิดแรงมากกกก 😱
คนจึงพยายามพุ่งตัวเข้าไปด้านในรถให้เร็วที่สุด (แต่บางขบวนก็มีไฟเตือน แถมปิดช้าด้วย)

เรารอให้คนหน้าประตูน้อยลง ปล่อยให้เค้าขึ้นกันไปก่อน รอขบวนถัดไปดีกว่า
แล้วเอาตัวไปแนบชิดติดประตูบ้าง แยกกันไปหลายๆ โบกี้ เพื่อความคล่องตัว
แล้วเจอกันสถานีหน้า


ประตูกั้นชานชาลากับรถเมโทร ก็จะประมาณนี้ นอกจากสายสีเขียวแล้ว เรายังพบประตูแบบนี้ได้ในสายสีอื่นๆ บางสถานีด้วย


รถเมโทรที่นี่ มันก็รถไฟสาย 8 ดีๆ นี่เอง 😥

เรื่องการหาทางออก
ไม่ต่างกับ Moscow เลยไม่เป็นปัญหา
แต่ต้องจำประตูทางออกไว้บ้าง
เพราะสวนใหญ่ มีหลายทางออก และดันชื่อคล้ายๆ กัน (มักจะเป็นชื่อถนน)

ออกมาจากสถานีได้ ก็จะเจอถนน Nevskiy

ต้องมุดลอดทางข้ามถนน
เพื่อข้ามไปอีกฝั่ง
จากนั้นเดินตรงไปตามถนน Sadovoya จนถึงแยกที่สอง เลี้ยวขวา ก็เจอประตูทางเข้ารร. เลย






รร. ชื่อ Baby Lemonade Hostel
ซึ่งเราจะอยู่ที่นี่ 3 คืน




ไปถึงก็เช็คอิน
แต่ยังเข้าห้องไม่ได้ ได้แค่ฝากกระเป๋าไว้เฉยๆ แล้วก็ใช้ห้องอาบน้ำ ห้องน้ำ ห้องครัว ได้ตามสะดวก



จากนั้นก็ทำ VISA Registration คนละ 120 RUB
ของที่ใช้ก็คือ Passport กับ ใบตม.
พอบันทึกข้อมูลเสร็จก็จะคืน Passport ให้เลย

ออกเดินทางต่อได้

แพลนวันนี้


รร. อยู่ไม่ไกลโบสถ์หยดเลือดมากนัก
ออกจากประตูรร. หันซ้าย แล้วตรงไปเรื่อยๆ จนสุดทาง จะเป็นคลอง
เลี้ยวขวาอีกที ก็เจอแล้ว








🌷 Church of the Savior on Spilled Blood 🌷
(Церковь Спаса на Крови) 


โบสถ์แห่งหยดพระโลหิตพระผู้ไถ่ (Church of the Savior on the Spilled Blood)
หรือเราเรียกสั้นๆ ว่า โบสถ์หยดเลือด

เป็นอนุสรณ์ที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 3 สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึง พระเจ้าซาร์อเล็กซานเดอร์ที่ 2 ผู้เป็นพระบิดา และเป็นผู้ประกาศเลิกทาส ทำให้เหล่าขุนนางที่เสียประโยชน์เกิดความไม่พอใจ บางแหล่งก็ว่า ชาวนาไม่ได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จึงทำให้เกิดความไม่พอใจ เป็นเหตุให้มีการลอบปลงประชนม์พระองค์ขึ้น

ต่อมาได้มีการให้ถมที่บนคลอง Griboedov เพื่อที่จะสร้างโบสถ์ล้อมรอบบริเวณที่เกิดเหตุลอบปลงพระชนม์ และกลายเป็นโบสถ์หยดเลือดมาจนถึงทุกวันนี้

การตกแต่งทั้งโบสถ์เป็นภาพงานโมเสก ละเอียดสวยงาม ทั้งด้านนอกและด้านใน
เป็นโบสถ์ออโธดอกซ์ที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซียที่ถูกประดับประดาด้วยกระเบื้องโมเสก

ภายในสวยงามมากๆ ไม่ควรพลาด
ด้านหน้าโบสถ์จะมีลานเป็นเต๊นท์ขายของที่ระลึกเยอะทีเดียว

เวลาทำการ: 10.30 - 18.00 ปิดทุกวันพุธ ช่วงหน้าร้อน พ.ค- ก.ย มีรอบกลางคืน 18.00 - 22.30
ค่าเข้าชม: 250 RUB หลัง 18.00 ราคา 400 RUB
การเดินทาง:
- Gostiny Dvor (Гостиный двор) สายสีเขียว
- Nevsky Prospekt (Невский проспект) สายสีฟ้า


ตอนที่เรามาถึงยังเช้าอยู่ และโบสถ์ยังไม่เปิด
ยังมีคนเดินค่อนข้างน้อย
จากตรงที่เรามองเห็นโบสถ์ เป็นส่วนด้านหลัง





ด้านหน้าโบสถ์จะมีที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว

เคาน์เตอร์ยังปิดอยู่ และยังไม่มีใครมาต่อคิว
แต่ทัวร์จีนเยอะมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก





แต่ที่สังเกตมา ทัวร์จีนจะไม่ค่อยเข้าไปบ้างใน ส่วนใหญ่จะถ่ายรูปอยู่ข้างนอก แล้วก็กลับไป
(เห น่าเสียดายอ่ะ)

แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เข้ามาเลย (เค้าอาจจะไม่ต้องต่อคิว เพราะซื้อตั๋วสำหรับกรุ๊ปมาแล้วก็ได้)



เพื่อความชัวร์เลยเฝ้าหน้าเคาน์เตอร์ไว้
ถึงเวลาจะได้ไปต่อคิวซื้อตั๋ว กลัวคนเยอะ

เริ่มต่อคิวตั้งแต่ 10 โมง
จนกระทั่ง 10.30 เคาน์เตอร์จึงเปิด (ตรงเวลามากค่ะ)

จ่ายค่าตั๋วไป 250 RUB และต้องเป็นแบงค์ย่อย เพราะเค้าไม่มีตังค์ทอน (โห 😞)
ได้ตั๋วแล้วก็ไปเข้าแถว เพื่อเข้าโบสถ์

เอาบาร์โค้ดบนตั๋ว ไปแตะที่เครื่องกั้น จากนั้นก็เดินเข้าไปได้เลย





ตอนเช้าๆ นี่คนเยอะเหมือนกัน ส่วนใหญ่เป็นทัวร์

ข้างในกว้างขวาง ถึงทัวร์จะเยอะก็ไม่อึดอัด
เป็นพื้นที่โล่งๆ แล้วก็มีพวกภาพวาด จิตรกรรมฝาผนังต่างๆ ประดับรอบโบสถ์






แท่นบูชาพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 2


แหงนคอ ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ไม่นานก็ครบรอบ
จากนั้นก็เดินออกมาด้านนอก

แถวประตูทางออกจะมีบูธขายของที่ระลึกด้วย
ราคาของที่ระลึกตามโบสถ์ต่างๆ ถึงจะไม่ถูกเท่าใน Izmailovo แต่ก็ถือว่าไม่แพงเท่าไหร่
ถ้าถูกใจอันไหน ซื้อเก็บไว้เลยก็ได้



พอออกมานอกโบสถ์ ร้านรวงหน้าโบสถ์เปิดกันครบแล้ว
เดินช็อปปื้งไปเรื่อยๆ จนถึงถนนใหญ่




ก่อนจะข้ามถนนไปมหาวิหารคาซาน
ก็แวะซื้อของฝากกับกินสตาร์บัคด้วย (มีคนไห้มาสืบราคาสตาร์บัคที่รัสเซีย)






 🌼 Kazan Cathedral (Каза́нский кафедра́льный собо́р) 🌼


สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ในปีค.ศ. 1708 ตั้งอยู่ใจกลางเมือง บนถนนเนฟสกี้
เป็นสถาปัตยกรรมในรูปศิลปะแบบนีโอคลาสสิก ผสมผสานกับสถาปัตยกรรมแบบอิตาลี
มีลักษณะรูปทรงครึ่งวงกลม มีเสาหินโรมัน วางเรียงกันหลายต้น ตรงกลางเป็นโดมขนาดใหญ่
ด้านหน้ามีสวนสาธารณะที่คนรัสเซียชอบมาพักผ่อนกัน

เวลาทำการ: 08:30 - 20.00 ทุกวัน
ค่าเข้าชม: ฟรี
การเดินทาง:
- สถานี Gostiny Dvor (Гостиный двор) สายสีเขียว
- สถานี Nevsky Prospekt (Невский проспект) สายสีฟ้า


จากรีวิวบอกว่า ควรแต่งกายสุภาพ ผู้หญิงควรมีผ้าโพกหัว
แต่ตอนเข้าไป ก็ไม่มีคนตรวจอะไรนะ





ข้างในบรรยากาศต่างจากข้างนอกเลย
ข้างนอกจะดูคึกคัก
ข้างในจะเงียบสงบ





มีแสงสว่างอ่อนๆ จากเทียน และแสงอาทิตย์ ที่เล็ดลอดมาจากส่วนยอดโดมของวิหาร
ภายในตกแต่งด้วยโทนสีหม่นๆ และเครื่องประดับสีทอง

ด้านในมีรูปไอคอนของพระแม่มารีแห่งคาซานอันศักดิ์สิทธิ์ (Our Lady of Kazan)
ที่ประชาชนต่อแถวกันเข้าไปทำการสักการะโดยการจูบลงบนไอคอนด้วยความศรัทธา 

เนื่องจากเป็นสถานที่ที่ดูมีความขลัง เราเลยพยายามทำตัวให้เรียบร้อย ถ่ายรูปน้อยๆ
แล้วเดินออกมาเงียบๆ

แล้วพบว่า .... เค้าห้ามถ่ายรูปนี่นา >/\<

จากนั้นเดินทางด้วยรถเมโทรเพื่อไปป้อมปีเตอร์แอนด์พอล

Nevsky Prospekt -> Gorkovskaya (สีฟ้า ไป Parnas 1 สถานี)


เป็นเส้นทางที่นานมาก เพราะต้องเดินทางข้ามแม่น้ำ
แถมบันไดเลื่อนก็ยาวมากๆ จับเวลาได้เกิน 3 นาที จะลึกไปไหน



จากนั้นมองหาทางออก ตรงไหนก็ได้ เพราะสถานีมันเป็นวงกลม
ออกมา ก็สังเกต มัสยิด Saint Petersburg Mosque (Санкт-Петербу́ргская мече́ть)
เป็นมัสยิดยอดสีฟ้า ขนาดใหญ่มาก
เดินตามมัสยิดไปเลย



ตรงนี้เราแค่จะถ่ายรูปประตูด้านข้างเท่านั้น
เพราะมีคนส่งรูปมาแล้วบอกว่า อยากมาที่นี่
แต่ไม่ได้เข้าไปด้านใน




จากนั้นเดินตรงต่อไป เจอถนนใหญ่ก็เลี้ยวขวา
จะมองเห็นยอด Peter and Paul Cathedral อยู่ไม่ไกล
เดินตามไปได้เลย

ระหว่างทาง เห็นมีร้าน Burger King เลยแวะทานข้าวกลางวันกันหน่อย
วันนี้ อากาศดีมาก แดดจ้า ฟ้าเปิด

 


Burger King ราคาไม่แพง พอๆ กับไทย
น้ำอัดลมไซต์ใหญ่มาก แถมไม่ใส่น้ำแข็ง

เนื่องจากที่นั่งไม่พอ เราเลย ไปนั่งบนสนามหญ้า ในสวนสาธารณะใกล้ๆ
เหมือนมาปิคนิคเลย

นกที่นี่เป็นมิตรมากกกกกก ยื่นของให้กินได้เลย
แล้วก็กลายเป็นนกทวิตเตอร์ ปากต่อปาก ว่ามีของกิน
เริ่มพากันมาระราน 5555




ห้องน้ำในร้านเข้าได้ฟรี แต่คนต่อคิวค่อนข้างเยอะ
ข้างๆ มีห้องน้ำสาธารณะแบบเสียค่าบริการ (40 RUB มั้ง) สภาพไม่ดีเท่าไหร่
ถ้าใครรีบก็ไปลองดูได้

กินเสร็จก็เดินต่อไปที่ป้อม





🍀 Peter and Paul Fortress (Петропа́вловская кре́пость) 🍀


ที่นี่เป็นสิ่งแรกที่สร้างในเมืองและเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดของเมือง
ลักษณะเป็นป้อมรูปทรงหกเหลี่ยม กำแพงเป็นหิน ก่ออิฐ สร้างเพื่อป้องกันการรุกรานจากศัตรู

จุดเด่นคือ Peter and Paul Cathedral ซึ่งมี ตัวหอระฆังสูงมากๆ
นอกจากนี้ก็จะมีสถานที่ย่อยๆ อยู่ในกำแพงป้อม อย่างพวกคุกโบราณ

เวลาทำการ:
- ทางเดินชมป้อมและสถานที่ต่างๆ 06.00 - 22.00  ปิดวันพุธ
- พิพิธภัณฑ์ต่างๆ 10.00 - 18.00  ปิดวันพุธ
ค่าเข้าชม: 
- Peter and Paul Cathedral 450 RUB
- ค่าเข้าชมสถานที่อื่นๆ ในป้อม ดูได้จากในเว็บ
http://www.spbmuseum.ru/themuseum/visitors/cost.php?lang_ui=en
การเดินทาง: สถานี Gorkovskaya (Го́рьковская) สายสีฟ้า


ระหว่างทางเดินเข้าป้อม จะเห็นคนรัสเซียมานอนตากแดดกันเต็มไปหมด
แต่จากการส่องไกลๆ แล้ว
ยังไม่เห็นสาวๆ แจ่มๆ มาอาบแดดนะ เจอแต่เด็กๆ กับคนสูงวัย ซะส่วนใหญ่





เข้าประตูป้อมไป ทางซ้ายจะมีห้อง Information อยู่ สามารถซื้อตั๋วได้ที่นี่
มีห้องน้ำแบบเสียตังค์ด้วย






หลังจากพิจารณาราคา และความอยากแล้ว
เลยตัดสินใจ ไม่เข้าสถานที่ใดๆ เลย
แต่มาเดินเล่นภายในป้อมอย่างเดียว



แอบเสียดายโบสถ์เหมือนกัน ได้ข่าวว่าสวย แถมยังปีนขึ้นไปชมวิวบนหอระฆังได้ด้วย





มีจุดชมวิว รอบกำแพง สามารถขึ้นไปได้ แต่เสียค่าขึ้นประมาณ 300 RUB
แต่เนื่องจาก ย้อนแสงอ่ะ เลยไม่ขึ้น





ตรงใกล้ๆ ทางขึ้นจุดชมวิว จะมีประตูนึง ที่เราสามารถออกไปท่าเรือนอกป้อมได้
แล้วก็สามารถเห็นวิวเมือง ริมน้ำฝั่งตรงข้ามป้อมได้ด้วย
ไปดูแค่นี้ก็โอเคแล้ว



มีขึ้นเฮลิคอปเตอร์ทัวร์ด้วยนะ



จากนั้นก็เดินกลับสถานีเมโทร

ตรงใกล้ๆ สถานี
จะมีเมืองจำลองสถานที่สำคัญๆ ของ St. Petersburg อยู่
เป็นสวนเล็กๆ มีการจำลองสิ่งก่อสร้างสำคัญๆ
เช่น Peter and Paul Fortress, Winter Palace, วิหารไอแซค ฯลฯ





ชมเสร็จก็เดินกลับไปที่สถานี
แล้วกลับไปที่รร. เพื่อเช็คอินเข้าที่พักจริงๆ ซะที

โซนห้องพัก จะอยู่คนละชั้นกับห้องครัว
ต้องเดินขึ้นบันไดไปอีก 1 ชั้น

ห้องที่นี่กว้างกว่าโฮสเทลที่ Moscow 3 เท่าได้
เราจองห้อง 4 เตียง กับห้อง 6 เตียง ไว้แบบเหมาห้อง

ห้อง 6 คน
จะเป็นห้อง 2 ชั้น
ชั้นล่างจะเป็นห้องโล่งๆ มีล็อคเกอร์ให้
ชั้นบนจะเป็นเตียง 6 เตียง





ห้อง 4 คน
เป็นห้องชั้นเดียว มีเตียง 2 ชั้น 2 ชุด
มีล็อคเกอร์ให้ ห้องกว้างมาก เปิดกระเป๋า พร้อมกันได้




กุญแจห้องจะให้มาคนละ 1 ชุด
สามารถใช้ได้ทั้ง เปิดประตูตึก เปิดประตูโซนห้องครัว เปิดประตูโซนห้องนอน เปิดประตูเข้าห้องตัวเอง
และใช้ไขล็อคเกอร์ตามหมายเลขบนกุญแจได้

ห้องน้ำ จะเป็นห้องสุขา+ห้องอาบน้ำ มีทั้งหมด 5 ห้อง อยู่ในโซนห้องนอน
ไฟเป็นแบบเปิดปิดอัตโนมัติ เดินเข้าไปเดี๋ยวไฟเปิดเอง พอเลิกใช้งานไฟก็จะดับให้เองด้วย

พักผ่อนพอหายเหนื่อย
ก็เดินทางต่อไปวิหารไอแซค

Nevsky Prospekt -> Sennaya Ploshchad  (สีฟ้า ไป Kupchino 1 สถานี)
Sadovaya -> Admiralteyskaya (สีม่วง ไป Komendatsky Prospekt 1 สถานี)

ปล. จริงๆ นั่งบัสใกล้กว่า

ออกมาจากสถานี ก็มองหาตึกใหญ่ๆ ดำๆ



เดินไปทางตึกนั้น แล้วเลี้ยวซ้าย
ตรงไปเลยจ้า เห็นวิหารเมื่อไหร่ก็คือถึงแล้วนั่นแหละ





🍁 St. Isaac's Cathedral (Исаа́киевский Собо́р) 🍁 


เป็นวิหารที่มีการตกแต่งอลังการมากที่สุด
ยอดโดมฉาบด้วยทองคำแท้ 100 กิโลกรัม และภายในใช้หินอ่อน และหินอื่นๆ กว่า 43 ชนิด
แต่เดิมเคยเป็นที่ประกอบพิธีอภิเษกสมรสของกษัตริย์ปีเตอร์มหาราช และพระนางแคทเธอรีน

เวลาทำการ: 11.00 - 18.00 ปิดวันพุธ ช่วงหน้าร้อน พ.ค- ก.ย จะมีรอบเย็นเวลา 18.00 - 22.00
ค่าเข้าชม: 250 RUB หลัง 18.00 ราคา 400 RUB
การเดินทาง:
- สถานี Admiralteyskaya (Адмиралте́йская) สายสีม่วง
- สามารถเดินจาก สถานี Gostiny Dvor และ Nevsky Prospekt ได้เช่นกัน แต่ไกลหน่อย

หมายเหตุ:
- สิ่งที่ไม่ควรพลาดชมเมื่อเข้ามาภายในมหาวิหาร คือ เสามาลาไคต์(Malachiten) สีเขียว และเสาลาปิส(Lapis) สีน้ำเงินอมม่วง
- ตั๋วชมวิหารและขึ้นหอคอยจะซื้อแยกกัน และเดินแยกกันคนละทาง หอคอยไม่สูงมาก ประมาณ 260 กว่าขั้น เป็นบันไดวน
- อนุสาวรีย์ Bronze Horseman ที่อยู่ใกล้ๆ St.Isaac


พอถึงจุดหมาย
โอ๊ะ! ยอดโดม ซ่อมอยู่ เสียดายจัง เสียดายจัง ได้ข่าวว่าสวยมาก



จากนั้นมองหาเคาน์เตอร์ จะอยู่ฝั่งสวน (ฝั่งแม่น้ำ Neva) มีป้ายบอกทางไปเคาน์เตอร์หน้าประตู
เนื่องจากเลย 6 โมงเย็นแล้ว
ราคาตั๋วจะเปลี่ยนไปเป็น 400 RUB
แต่คนน้อยมาก น่าจะเพราะตั๋วแพงรึเปล่านะ





จากที่เคาน์เตอร์
ต้องเดินกลับมาด้านที่มีอนุสาวรีย์
ทางเข้าจะมีสองทาง ทางซ้ายเป็นทางเข้าวิหาร ทางขวาเป็นทางขึ้นหอคอย



เอาบาร์โค้ดบนตั๋ว ไปแตะตรงเครื่องกั้น
แล้วเดินเข้าไปได้เลย

ข้างใน อลังการมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ข้างในประดับด้วยภาพวาด ภาพสลักนูนต่ำ รูปแกะสลัก มากมาย
ดูระยิบระยับ
แหงนดูจนคอจะหัก






 


มีเก้าอี้นั่งพักด้วยนะ

เสร็จแล้วก็แยกย้ายอีกรอบ
เราแยกเดี่ยวออกมาเพราะจะขึ้นหอคอย



กลับไปที่เคาน์เตอร์อีกครั้ง ซื้อตั๋วขึ้นหอคอยในราคา 300 RUB (ถ้าหลัง 22.00 จะ 400 RUB)
แล้วเดินกลับไปตรงทางขึ้น แต่คราวนี้ เข้าประตูฝั่งขวา




วิธีการใช้ตั๋วก็เหมือนเดิม
เอาบาร์โค้ดบนตั๋ว แตะที่เครื่องกั้น
แล้วเดินเข้าประตูเล็กๆ ไป



ทางขึ้นจะเป็นบันไดวนๆ
เริ่มต้นจากบันไดปูน กว้างๆ ประมาณ 200 ขั้น

มีเลขบอกจำนวนขั้นที่เหลือด้วย


จากนั้นบันได ปูนจะแคบลง มีราวเหล็กให้จับ




ต่อไปก็เจอบันไดเหล็กสีน้ำตาลเก่าๆ หน่อย นึกว่าจะถึงแล้ว



ยังค่ะยัง ตรงนี้จะเป็นแค่หอระฆัง ด้านข้าง




ต้องขึ้นบันไดเหล็กตรงๆ ไปอีก แต่ว่าไม่ไกลเท่าไหร่



ด้านบน จะมีทางเดินรอบๆ โดม
สามารถมองเห็นทัศนียภาพได้ 360 องศา โดยไม่มีกระจกกั้น (แต่มีราวกั้นนะ)
สามารถมองเห็นสถานที่สำคัญๆ ใน St. Petersburg ได้
ทั้ง โบสถ์หยดเลือด, ป้อมปีเตอร์แอนด์พอล และ Winter Palace









เดินชมวิว 2 รอบได้ ทางลงจะอยู่อีกประตูนึง
ก็เดินกลับมาเจอกับเพื่่อนๆ






แล้วก็เดินทางกลับรร.
ใกล้รร. มีซุปเปอร์ด้วย ราคาค่อนข้างถูก ซื้อของมากินตอนเช้า กับตอนเย็นวันพรุ่งนี้



✨Night Tour ✨


หลังจากกินข้าว และพักผ่อนได้นิดหน่อย
ช่วงเกือบเที่ยงคืน
เราก็ออกมาท่องราตรี กับพี่อีก 2 คน

จริงๆ มันเป็นวันใหม่แล้วนะ เพราะเลยเที่ยงคืนแล้ว
แต่ว่า มันเป็นทัวร์ที่ต่อเนื่องจากวันนี้ เลยเอามารวมในวันนี้เลยแล้วกัน

เป็นทริปชมสะพานเปิด
ซึ่งจะเปิดช่วง ตี 1 - ตี 5 ของทุกคืน
โดยสะพานส่วนใหญ่จะเปิดเวลาไล่เลี่ยกัน
มีช่องว่างที่สะพานบางอันจะปิดเล็กน้อย

หมายความว่า ถ้าเราข้ามฝั่งไปแล้ว
คือ ติดเกาะ กลับเข้ามาฝั่งรร. ไม่ได้แล้ว จนกว่า จะมีสะพานอันใดอันหนึ่ง ปิด
เลยต้องทำการบ้านมาให้ดีๆ ถ้าอยากชมหลายๆ สะพานพร้อมกัน

ตารางการเปิดสะพาน



สะพานแรก สะพาน Blagoveshchenskiy Bridge (Благовещенский мост)

เป็นสะพานที่อยู่ใกล้มหาวิหารไอแซค
และถ้าอยากชมสะพานนี้เปิด โดยมีวิหารไอแซคเป็นฉากหลัง ต้องข้ามสะพานไป

ตอนแรกรอรถบัส สาย 7, 24 ลงป้าย 8-я и 9-я линии (В.О.)
แต่ไม่มาซะที

ใกล้เวลาสะพานเปิดแล้ว
เลยตัดสินใจ เดินไปอีกป้าย นั่งรถบัส สาย  3, 22, 27 ลงใกล้ๆ สะพาน แล้วเดินต่อไป

รถบัสค่อนข้างสะดวก
เดินขึ้นไป จ่ายเงินหรือแตะบัตรกับกระเป๋ารถ ค่ารถคนละ 40 RUB
แล้วก็นั่งดูวิว ไปพร้อมกับมองหน้าจอด้านบน ซึ่งจะบอกชื่อของป้ายถัดไป
อย่าลืมเปิด 2GIS ไปด้วย เพื่อความชัวร์
ลงป้าย Пл. Труда



พอลงรถ ก็เดินข้ามสะพานไป แล้วไปหาจุดทำเลดีๆ
ระยะทางประมาณ 1 กิโลได้



รอสักพัก สะพานก็เปิดออก
ตำแหน่งการชมสะพาน จะอยู่ตรง ท่าเรือเล็ก อันนึง แถวถนน 8-ya liniya อะไรเนี่ยแหละ







นั่งถ่ายรูปไปสักพัก
ก็เดินไปสะพานถัดไป สะพาน Exchange/Birzhevoy Bridge (Биржевой мост)



ซึ่งจะมองเห็น โบสถ์ปีเตอร์แอนด์พอล เป็นฉากหลัง

ระหว่างเดินไปนั้น
หันหลังกลับไปมองที่สะพาน Blagoveshchenskiy
ก็พบว่า ....
สะพานปิดไปแล้ว 😨😨😨

เอ๊ะ!
มันยังไม่ถึงเวลานี่
ตามกำหนดการ มันเปิดถึงตี 2 กว่า
นี่ยังไม่ตี 2 เลย

แล้วก็มองไปอีกสะพาน สะพาน Palace/ Dvortsovyy Bridge (Дворцо́вый мост) ซึ่งควรจะเปิดอยู่
เหย มันปิดแล้ว 😨😨😨
อ่าว! แบบนี้ สะพาน Exchange เราล่ะ

ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะยังไปไม่ถึง เลยยังไม่เห็นว่าสะพานสบายดีมั้ย
เดินตามถนนไปเรื่อยๆ
ฝั่งนี้ค่อนข้างเงียบสงบ ไม่ค่อยมีคนมาเดินเพ่นพ่าน รถยังไม่ค่อยมีผ่านมาเลย
แต่ไฟสว่างตลอดทาง

พอไปถึง Spit of Vasilievsky Island (Стрелка Васильевского острова)
ก็พบว่า สะพานรอบๆ นี้ปิดไปหมดแล้ว
อ่าว เห้ย ไม่เหมือนทีคุยกันไว้ ฮืออออ อดดิ 😭




เดินชมวิว แถวนั้นไปก่อน มองเห็นโบสถ์เหมือนกัน
พระอาทิตย์เริ่มขึ้นแล้ว
มองเห็นแสงสีส้มๆ ที่ขอบฟ้า




ใกล้ตี 3 แล้ว
ได้เวลาที่ Palace Bridge จะเปิด



ก็เดินข้ามฝั่ง กลับเข้าฝั่งรร.
แล้วก็มองหาจุดที่จะเห็นโบสถ์ปีเตอร์แอนด์พอลเป็นฉากหลังตอนสะพานเปิด

พอได้มุมที่พอใจ
สะพานกำลังจะเปิด
พรึ่บ!!!! ไปดับ !!!!  เหยยยยย !!!!!!!!!!!!!!!!! 😦



คือ มันเช้าแล้วใช่มั้ยยยย เค้าเลยดับไฟสะพาน

แต่ก็ยังเปิดสะพานตามปกติ
ง่าาาาาา ไม่เหมือนที่คิดไว้ แต่ก็ภาพสวยไปอีกแบบ 😤







จบทริปตอน ตี 4
นั่ง Uber กลับรร. ราคาเกือบ 90 RUB ในระยะทาง 2 กิโล
หาร 3 ก็ตกคนละ ไม่ถึง 30 RUB ถูกมาก





💲 ค่าใช้จ่ายประจำวัน 💲

รายการราคา (RUB)
บัตรเมโทร355
Visa Registration120
ค่าเข้าโบสถ์หยดเลือด250
ค่าอาหารเช้า120
ค่าที่พัก500
Burger King140
ค่าเข้าวิหารไอแซค400
ค่าขึ้นหอคอยวิหารไอแซค300
ค่ารถบัส40
ค่ารถ Uber30





ตอนอื่นๆ

ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 1 บทนำ
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 2 ตะลุยมอสโคว เยือนถิ่นปูติน (Day 1)
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 3 ทัวร์เมโทร ชมห้องสมบัติ สัมผัสโบสถ์สีลูกกวาด (Day 2)
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 4 ตะลอนทัวร์ St.Petersburg (Day 3)
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 5 วังน้ำพุ Peterhof (Day 4)
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 6 Catherine Palace (Day 5)
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 7 Winter Palace (Day 6)
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 8 Sergiev Posad (Day 7)
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 9 ตะลอนไปทั่วมอสโคว (Day 8)
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 10 รีวิว Kremlin Lights Hostel (Кремлевские Огни) @Moscow
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 11 รีวิว Baby Lemonade Hostel @St. Petersburg
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 12 รีวิว Fasol Hostel (Хостел Фасоль) @Moscow
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 13 รีวิว รถไฟระหว่างเมือง Moscow-St.Petersburg

ความคิดเห็น

  1. รีวิวละเอียดมากกกกกก ขอบคุณมากนะครับ จะตามดูสะพานบ้าง เป็นแนวทางได้เยอะมากเลย ... เดี๋ยวนี้มีบอกเวลาเปิดปิด้วยครับ ง่ายขึ้นหน่อย

    https://en.mostotrest-spb.ru/

    ตอบลบ
  2. มีเวลาเปิดปิด แต่ตอนเราไป ดันปิดก่อนเวลา 55555 เฟลมาก

    ตอบลบ

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : ประสบการณ์การซื้อยา Diamox ที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน

☞ ประสบการณ์ทำเควส "ตรวจสุขภาพ ศูนย์แพทย์พัฒนา" ☜

มาเลือกกระเป๋าเดินทาง กันเถอะ