ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 6 Catherine Palace (Day 5)



ปล. รูปมาจากกล้องหลายคน


สภาพอากาศวันนี้ ดูเลวร้ายกว่าเมื่อวานเยอะเลย
พยากรณ์บอกว่า ฝนจะตกทั้งวัน แถมน่าจะหนักด้วย
ทั้งๆ ที่เมื่อคืนไม่ตกเลยสักนิด

ภาวนาให้การพยากรณ์ผิดพลาดละกัน
.... แต่ ... มันแม่นอ่ะ 😭

วันนี้เราจะไปชมพระราชวังนอกเมืองกัน ที่ Catherine Palace

Nevsky Prospekt -> Moskovskaya (สีฟ้า ไป Kupchino 7 สถานี)

พอออกมาจากสถานี
เราจะเจออนุสาวรีย์เลนิน และลานกว้างๆ




ด้านหลังรูปปั้น มีตึกขนาดใหญ่สีน้ำตาลอยู่
ตรงหน้าตึกนั้นมีท่ารถมินิบัสอยู่



นั่งรถมินิบัส 545 ราคา 40 RUB





🌸 Catherine Palace (Екатерининский дворец) 🌸

เป็นพระราชวังที่งดงามและล้ำค่า
ตั้งอยู่ที่เมือง Pushkin ห่างจากตัวเมือง St.Petersburg 25 กม.

ก่อสร้างขึ้นโดยพระนางแคทเธอรีนที่ 1 พระมเหสีองค์โปรดของปีเตอร์มหาราช ซึ่งได้ครองราชย์หลังจากสวรรคต จึงสร้างวังแห่งนี้ขึ้นเพื่อเป็นพระราชวังฤดูร้อน โดยสถาปนิกชาวเยอรมัน ในสไตล์สถาปัตยกรรมแบบคลาสสิค

เวลาทำการ:
- Catherine Palace: 12.00 - 19.00 ปิดวันอังคาร (Jun to Aug)
- Catherine Park: 07.00 - 23.00 ทุกวัน
ค่าเข้าชม:
- Catherine Palace: 1000 RUB
- Catherine Park: 120 RUB
- ถ้าซื้อออนไลน์ Catherine Palace + Park: 1500 RUB
การเดินทาง:
1. "Moskovskaya" (Московская) สายสีฟ้า
นั่งรถสาย 342, 545
2. "Kupchino" (Купчино)  สายสีฟ้า
นั่งรถสาย 186, K-177, K-342, 545-A
ระยะเวลาเดินทาง: 30 นาที
เว็บไซต์: http://eng.tzar.ru/



รถมินิบัสมาจอดใกล้กำแพงวังเลย
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที



😕 ความเฟล ครั้งที่ 1
ฝนตกนะจ๊ะ


ตอนนี้ฝนกำลังตกโปรยปรายอย่างหนัก (สรุปมันหนักมั้ย 😟)
เรามาถึงเร็วกว่ากำหนดนิดหน่อย ขณะนี้เวลาประมาณ 10 โมงกว่าๆ

แต่ตั๋ว E-Ticket สามารถแลกได้หลังเวลา 12.00 น. เท่านั้น
เลยเดินตามหาร้านกาแฟ เพื่อจะได้นั่งพัก

เจอร้าน KEB HOUSE อยู่ไม่ไกล
อาหารและเครื่องดื่มอร่อย มีห้องน้ำฟรี





ใกล้ถึงเวลาเที่ยง ก็ออกจากร้าน
ฝนกระหน่ำใหญ่แล้ว ⛈⛈⛈⛈
ต้องอาศัยจังหวะที่ฝนซา เดินลุยออกมา



เดินมาถึงเขตวัง
จะเจอร้านขายของที่ระลึกระหว่างทาง มีร่มกับเสื้อกันฝนขายด้วยนะ



จากนั้นก็เลี้ยวขวา
ผ่านซุ้มประตูใหญ่ๆ



 แล้วเดินไปทางประตูสำหรับกรุ๊ปทัวร์ ใกล้ๆ กันนั้นจะมีเคาน์เตอร์อยู่





เคาน์เตอร์นี้เป็นจุดแลกตั๋ว
ตอนแลกก็ยื่น E-Ticket ไป เค้าไม่ขอดู Passport ใดๆ ทั้งสิ้น (แต่เตรียมไว้หน่อยก็ดี)
จากนั้นก็จะได้ตั๋วจริงมาคนละใบ เป็นประเภท Personal Ticket ใช้ทั้งเข้าวังและสวน





ตั๋วจะมีอายุการใช้งาน 1 ชม.
ต้องแตะเข้าห้องพิพิธภัณฑ์ภายใน 1 ชม. ไม่งั้นตั๋วจะใช้งานไม่ได้ เข้าในวังไม่ได้อีก (แต่เข้าสวนได้)

จากนั้นก็เดินเข้าประตูใกล้ๆ ได้เลย
เป็นประตูสำหรับกรุ๊ปทัวร์และพวกซื้อตั๋วออนไลน์มา


😕 ความเฟล ครั้งที่ 2
ทำไมไม่บอกล่ะ ว่ามันแยกแถว Group กับ Personal Ticket


พอเข้าไปถึงเขตหน้าวัง
ต้องต่อแถวเข้าไปยังตัวอาคาร
เห็นแถวยาวๆ มีแต่ทัวร์





ถัดจากประตูที่เรากำลังต่อคิวอยู่
มีอีกแถวนึง สั้นๆ ไม่มีคน

 


ก็สงสัยว่าทำไมไม่มีคนย้ายไปต่อที่นั่นเลย
ส่งตัวแทนไปถาม
สรุปว่า นั่นไม่ใช่ประตูสำหรับพวกเรา น่าจะเป็นประตูสำหรับ VIP หรือกลุ่มที่ซื้อตั๋วพร้อมไกด์ของวัง

กลับมาต่อคิวแถวเดียวกับทัวร์เหมือนเดิม
ต่อคิวนานมาก เกือบครึ่งชม.
แถวก็ยังไม่ลดลงเลย

จนมีผู้กล้าเดินไปถามจนท. (เพราะไม่งั้นตั๋วหมดอายุก่อนแน่นอน)
เค้าบอกว่าได้เดินเข้าไปได้เลย
มันจะมีช่องแคบๆ สำหรับตั๋ว Personal Ticket อยู่ ข้างๆ แถวทัวร์นะแหละ

อ้าววววววว จะไม่มีป้ายบอกอะไรหน่อยเหรอ 😕
คือ คนต่างชาติมั้ย
เข้ามาก็เดินตามๆ เค้ามา
ต่อคิวตามเค้า
ป้ายบอกอะไรไม่มีสักอย่าง
จนท. ก็ไม่ได้ประกาศอะไร
แล้วจะรู้มั้ย ว่า Personal Ticket ไม่ต้องต่อแถวเดียวกับทัวร์น่ะ
แล้วนี่ถ้ายังต่อคิวกับพวกทัวร์อยู่ ตั๋วหมดอายุแน่นอน


😕 ความเฟลครั้งที่ 3
ไปผิดทาง


หลังจากผ่านเข้าไปในตัวตึกได้
ก็นึกว่าจะจบแล้ว
ตั๋วเรารอดแล้ว
แต่เปล่าค่ะ

เราจะเจอห้องเก็บกระเป๋ากับเสื้อโค้ท รวมทั้งห้องน้ำ ทางด้านขวามือก่อน
จัดการตัวเองให้เรียบร้อย ฝากของและเสื้อโค้ทด้วย
อย่าเผลอฝากตั๋วไปล่ะ ยังต้องใช้อีก (ตอนแรกไม่รู้ เอาใส่ไว้ในกระเป๋า ต้องกลับไปเอาอีก)




ตอนแรกนึกว่าให้เดินไปทางขวานั่นแหละ (จากห้องฝากกระเป๋า เดินตรงต่อไป)
เพราะเห็นมีแถวอยู่ แอบไปต่อคิวแล้วด้วย

ปรากฎว่า ไม่ใช่ 😐
นั่นเหมือนเป็นแถวสำหรับตั๋วอีกประเภท จากประตูที่ไม่ให้เราเข้าน่ะแหละ

ส่วนเราต้องไปต่อคิวเข้าโซนพิพิธภัณฑ์ทางฝั่งซ้ายมือ
ตอนที่ผ่านประตูเข้าตึกมา ทางขวาเป็นห้องฝากของ ทางซ้ายเป็นทางไปพิพิธภัณฑ์



ก็เดินไปต่อคิว
เห้ย แถวยาวมากกกกก
อีก 15 นาที จะหมดเวลาใช้ตั๋ว

จนมีจนท. คนนึงเดินมาถามว่า นี่ตั๋ว Personal Ticket หรือเปล่า
แล้วเค้าก็ให้เดินไปทางซ้ายสุดของแถว

เอาตั๋วแตะที่กั้นช่องซ้ายสุด แล้วเดินไปได้เลย (ซึ่งช่องนี้ ไม่มีคิวเลย)

 


อ่าว นี่ก็ไม่มีอะไรบอกอีกแล้ว
เข้าแถวเดียวกับกรุ๊ปทัวร์นี่มันงงงวยดีจริงๆ

สรุปคือ Personal Ticket หาทางแทรกตัวมาที่เครื่องกั้นซ้ายสุดได้เลย
ไม่ต้องไปต่อคิวกับกรุ๊ปทัวร์นะ
.... จะทำที่กั้นแยกให้หน่อยไม่ได้หรอ

เอาเถอะ ตอนนี้รอดแล้ว ใช้ตั๋วสำเร็จ
หลังผ่านเครื่องกั้นมา ก็ให้ไปรับ ถุงครอบรองเท้ามาใส่ก่อน



แล้วก็เดินเข้าห้องพิพิธภัณฑ์ได้เลย



😕 ความเฟลครั้งที่ 4
เกือบแซงคิวแน่ะ


พอมาถึงหน้าห้องพิพิธภัณฑ์ ก็พบว่า
มีคนจำนวนมากมายืนออกันอยู่ด้านหน้าประตูทางเข้า
ยังไม่ได้เข้าไปด้านใน



เห็นหน้าสุดมีไกด์กำลังบรรยายอยู่
นึกว่าเราติดไกด์บรรยายกับกรุ๊ปทัวร์ของเค้า ทำให้เข้าไปในห้องไม่ได้สักที

เลยแทรกตัวออกไป จะอ้อมกรุ๊ปทัวร์นี้ไป
คิดว่าในห้องนี้ เป็นกรุ๊ปทัวร์เดียวกันหมด แล้วยืนฟังบรรยายอยู่



ปรากฎว่า มีคนมาห้ามไว้
เราก็อธิบายไปว่า เราไม่ได้อยู่ในกรุ๊ปทัวร์นี้ ไม่ต้องฟังบรรยายก็ได้ จะขอเข้าห้องเลย

แล้วก็มีฝรั่งใจดี มาอธิบายว่า
ช่วงนี้คนเยอะ แล้วห้องมันเล็ก
จนท. เค้าจะปล่อยให้คนเข้าไปในห้องเป็นกลุ่มๆ ไป
เราไม่สามารถเข้าไปก่อนกลุ่มอื่นๆ ที่อยู่ในห้องนี้ได้

อ๋อ เข้าใจละ
ในห้องนี้ ตอนนี้มีหลายๆ กลุ่ม อัดอยู่รวมกัน
กลุ่มเราต้องต่อคิว กรุ๊ปทัวร์ที่มีไกด์บรรยาย กับกรุ๊ปทัวร์เล็กๆ นี่ ก่อนถึงจะเข้าไปได้
เป็นคิวที่ 3 ประมาณนั้น

แต่คนมายืนออกันที่ห้องโถง เลยไม่เห็นว่ามีการต่อคิวอยู่

พอกลุ่มก่อนหน้า เริ่มทยอยออกจากห้อง
ก็ปล่อยให้กลุ่มหลังๆ เดินเข้าห้อง เป็นกลุ่มๆ



😕 ความเฟลครั้งที่ 5
ทำไมโหดจัง


จนท. ค่อนข้างดุ
ไม่ค่อยจะปล่อยให้เรายืนหยุดอยู่ห้องใดห้องหนึ่งนานนัก
หยุดถ่ายรูปปุ๊บ โดนไล่ให้รีบๆ เดินเลย
Don't Stop ! คำนี้ได้ยินบ่อยมาก




ห้องแรกที่เข้าไป คือ ห้อง Grand Hall ห้องบอลรูมขนาดใหญ่มาก
แต่ก็ดูเล็กไปทันทีเมื่อเทียบกับจำนวนคนที่อยู่ด้านใน




รอบห้องแกะสลักและตกแต่งด้วยสีเหลืองทองอร่าม ประดับด้วยเทียนหลายเล่ม
จุดไฟสะท้อนกับกระจกตามมุมต่างๆ





เราก็เดินชมรอบๆ ห้องไปเรื่อยๆ ส่วนใหญ่เค้าก็จะเน้นของตกแต่งผนังกับเพดาน
ไม่ค่อยมีข้าวของเครื่องใช้อะไรมากนัก


😕 ความเฟลครั้งที่ 6
เกือบแซงคิวอีกแล้วอ่ะ


เราอยู่ในนี้ไม่นาน เพราะคนเยอะ
ก็กำลังจะเดินออกนอกห้อง แล้วไปห้องถัดไปบ้าง

ปรากฎว่า
โดนห้ามอีกแล้ว
กรุ๊ปทัวร์เดิม ที่มีคุณฝรั่งใจดี
ห้ามไม่ให้เราเดินออกนอกห้องนี้ไปก่อนเค้า

เอ่อ คือ สารภาพว่าเพิ่งรู้จริงๆ ว่าในพิพิธภัณฑ์นี้เค้าใช้ระบบนี้

ก่อนหน้านี้ เราตามหลังกรุ๊ปทัวร์นี้อยู่ใช่มะ
สมมติว่า เค้าอยู่กลุ่มลำดับ 2 เราอยู่กลุ่มลำดับ 3
ลำดับจะต้องอยู่ตามนี้ไปทุกๆ ห้อง จนกว่าจะออกจากพิพิธภัณฑ์

ถ้าเราอยู่ห้องนี้แป๊บเดียว เราจะเดินออกจากห้องนี้ ไปยังห้องถัดไปไม่ได้นะ ต้องรอเค้าออกไปก่อน
ถ้าเค้าอยู่ห้องนี้นาน เราก็ต้องคอย (อาจจะกดดันเค้าได้ ถ้ารอนานไป ไม่งั้นเดี๋ยว จนท. ก็มากดดันเอง)
แต่ถ้าเราอยากอยู่ห้องนี้นาน เราอาจจะยอมให้กลุ่มที่อยู่หลังเรา ออกจากห้องไปก่อนก็ได้
ซึ่งกลุ่มก่อนหน้าเรา เค้าคงใช้เวลาแป๊บเดียว จึงไม่ยอมให้เราออกนอกห้องไปก่อน
(กรุ๊ปเราคนเยอะด้วยมั้ง)

โอเค เข้าใจระบบละ โดนเขม่นไปสองรอบ
นึกว่าต่อคิวแค่ตอนเข้าห้อง แล้วหลังจากนั้นจะชมห้องไหนก็ได้

แต่เหมือนไกด์กลุ่มนั้น จะไม่ชอบหน้ากลุ่มเรามากๆ เลยแหะ
สงสัยจะโดนบ่อยจนหงุดหงิด 😅

เราเลยตัดสินใจ ให้กลุ่มหลังเรานำไปก่อนเลย

ระหว่างเดินชมห้องต่างๆ
ก็ไม่ค่อยจะใช้เวลามากนักหรอก
ห้องมันเล็ก คนก็เยอะ แล้วก็เดินไหลไปเรื่อยๆ
ถ้าทำทางเลื่อนได้ ก็ทำไปเหอะ 555










ห้องอำพัน
สวยมาก เหลืองทอง อร่ามทั้งเลย ห้องไม่ใหญ่มาก แต่วิ๊งๆ สุด😎
เสียดายห้ามถ่ายรูป (แต่ทำไมเห็นบางรีวิวมีรูปหว่า เราไม่กล้าถ่ายตั้งแต่ประตูหน้าห้องละ กลัวจนท. ดุ)

ข้างในถ่ายรูปไม่ได้ เอาป้ายหน้าห้องไปดูเล่นๆ ก่อนละกัน


เดินได้ประมาณ 1 ชม. ก็ครบแล้ว



ออกจากโซนพิพิธภัณฑ์ คืนถุงครอบรองเท้า
ก็เจอห้องจำหน่ายของที่ระลึก
ราคาไม่แพงเท่าไหร่
 
เลือกซื้อของติดไม้ติดมือกลับไปบ้าง
จากนั้นก็เดินออกนอกตัวตึกไปยังสวนด้านหลัง




มองเห็นคนต่อคิวยาวมากกกกก
นี่น่าจะเป็นแถวสำหรับคนที่มาซื้อตั๋วหน้าเคาน์เตอร์
เข้าใจแล้วว่าทำไมต้องจองออนไลน์




สวนที่นี่สวยดี
กว้างมาก
ร่มรื่นด้วย



โซนสวนดอกไม้







ชอบสวนมากกว่าพิพิธภัณฑ์อีก

มีบริการนั่งรถม้านำเที่ยวรอบสวน


ด้านบนอาคารข้างสวนดอกไม้







เดินสวนด้านล่างบ้าง






เดินจนเมื่อยขา มาจนถึงทางออก ยังไม่ถึงครึ่งรอบเลยมั้ง
ทางออกมี 2 ทาง
คือ ทางออกฝั่งสวน กับทางออกฝั่งวัง

ตรงนี้เป็นทั้งทางออกฝั่งสวน และร้านขายของที่ระลึกด้วย


แต่เรายังอยากถ่ายตัววังอยู่
เลยเดินอ้อมกลับไปที่วังอีกครั้ง







จากนั้นก็ออกทางประตูใกล้ๆ กับเคาน์เตอร์ที่เราไปแลกตั๋วมา





สามารถเดินทะลุออกมาทางลานจอดรถได้







ถ้าออกทางนี้ มีโอกาสได้ถ่ายรูปด้านหน้า (หรือหลังหว่า) ของวังด้วย





ออกมาทางใกล้ๆ ประตูสำหรับทัวร์





เป็นพระราชวังที่สวยนะ
แต่ไม่ค่อยอินเท่าไหร่
แบบว่าให้เวลาน้อยเกินไป รีบๆ ดู รีบๆ เดิน
คนก็เบียดๆ กันเหมือนงานวัด



ควรจำกัดจำนวนคนเข้าให้น้อยกว่านี้ แล้วทำเป็นรอบๆ ดีกว่า
รอบ 10.00-11.00 จำนวน 1000 คนงี้

สำหรับคนที่มาซื้อตั๋วที่วัง เหมือนเค้าจะค่อยๆ ปล่อยเข้าไปทีละ 50 คนนะ อ่านมาจากรีวิวเก่าๆ
แต่เข้าไป ก็ไปเบียดเสียดกับทัวร์อยู่ดี

คือค่าตั๋ว 1500 RUB แพงสุดในบรรดาวังทั้งหมด
แต่ดูได้แป๊บเดียวก็ต้องออกละ

นี่ยังคิดว่า เข้าสวนอย่างเดียว คุ้มกว่าเลย
แต่ห้องอำพันสวยจริง (ดันไม่ให้ถ่ายรูปอีก)
แล้วทำไมต้องทำให้ตั๋วออนไลน์มีอายุแค่ชม. เดียวหว่า 😕



จากนั้นก็เดินออกจากวัง
กลับไปยังร้าน KEB HOUSE ทีเดิม



กินข้าวเย็นที่นี่เลยละกัน
รสชาติใช้ได้ ราคาไม่แพงมาก




จากนั้นก็เดินไปยังป้ายรถบัสอยู่






เลือกรถบัสสายไหนก็ได้ที่มุ่งไปยังรถเมโทร เราได้สาย 186 มา
ได้รถบัสไปส่งที่ สถานีเมโทร Kupchino สายสีฟ้า ค่ารถบัส 40 RUB

Kupchino -> Nevsky Prospekt (สีฟ้า ไป Parnas 9 สถานี)

แอบแวะ ซุปเปอร์มาเก็ตเหมือนเดิม




✨ ล่องเรือ ✨


กลางคืนตื่นมา
ดูพยากรณ์แล้ว ฟ้าแจ่มใสแน่นอน
เลยรีบบึ่งออกไป หน้าถนน เนฟสกี้
นั่งรถบัส ไปหน้า Palace Square เหมือนเดิม



จากนั้นมองหาท่าเรือ เพื่อซื้อตั๋ว
ได้เรือจากท่าเรือหน้าวิหารไอแซค
ล่องเรือ 1 ชม. 45 นาที ราคา 800 RUB

ขึ้นเรือได้ตอน 00.30 น.
เลือกที่นั่งได้ตามใจ

เรือแบ่งเป็นดาดฟ้า จะเป็นที่โล่งๆ มีเก้าอี้ 3-3 และด้านล่างเป็นห้องกระจก
เราเลือกนั่งดาดฟ้า ฝั่งริมน้ำ
ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกนั่งหน้าสุด ไม่งั้นจะโดนบัง
อากาศค่อนข้างหนาว เพราะฝนเพิ่งหยุดตก



ตรงเก้าอี้มีผ้าผืนนึง
ตอนแรกนึกว่ามารองเก้าอี้ เพราะฝนเพิ่งหยุด สงสัยพื้นเก้าอี้จะเปียก
แต่คนข้างหน้าเอามาห่ม
อ่าว สรุปเป็นผ้าห่มหรอ หลงนั่งอยู่ตั้งนาน 😅

แต่คือ ผ้ามันชื้นมากอ่ะ แน่ใจนะว่าจะช่วยได้
แต่ก็ห่มไว้ตลอดทาง 😌555



พอตี 1 เรือก็เริ่มเดินเครื่อง
ล่องเรือผ่านสะพาน Palace Bridge ช่วงสะพานกำลังเปิดพอดี



หน้าชามาก เนื่องจากอากาศหนาว ลมแรง แต่ฟ้าเปิด มองเห็นพระจันทร์ด้วย
มีเสียงบรรยาย ไม่แน่ใจว่าภาษาอะไร เพราะไม่ได้สนใจฟังเลย 😋


Palace Bridge



จากนั้นก็ล่องผ่านสะพาน Trinity Bridge

Trinity Bridge

Trinity Bridge

Trinity Bridge



แล้วก็เลี้ยวซ้ายเข้าแม่น้ำสายเล็กๆ Bolshaya Nevka River ก่อนถึงสะพาน Liteiny Bridge


เรือรบ ออโรร่า


เข้าไปด้านในได้ไม่ไกล เรือก็กลับลำ


Liteiny Bridge


แล้ววกกลับทางเก่า กลับมาจอดที่ท่าหน้าวิหารไอแซค

Trinity Bridge

Trinity Bridge

มองเห็น winter palace สว่างไสว



Palace Bridge




ล่องเรือเสร็จ ก็เดินกลับมาทาง Palace Square












ถ่ายรูปต่อ จนถึงตี 3
จู่ๆ ไฟก็ดับ พรึ่บ! 😦




เหยยยยย ไรเนี่ย 😥
สงสัยเค้าใช้ระบบไฟอัตโนมัติ
วันนี้ฟ้าเปิด เห็นแสงสว่างเร็วหน่อย
เค้าเลยปิดไฟเร็วกว่าปกติ (วันแรกที่มาเดินกลางคืน ตอนตี 4 ยังเปิดไฟอยู่เลย)

เดินกลับรร. อีก 2 กิโล



จ๊ะเอ๋




สลบคาที่นอน





💲 ค่าใช้จ่าย 💲


รายการราคา (RUB)
ค่ารถไปแคทเธอรีน40
ค่าโกโก้ในร้าน KEB HOUSE150
ค่าของฝาก450
ค่าข้าวเย็นร้าน KEB HOUSE300
ค่ารถไป Kupchino40
ค่าของในซุปเปอร์มาเก็ต150
ค่าล่องเรือ800
ค่าจิปาถะ100




ตอนอื่นๆ

ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 1 บทนำ
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 2 ตะลุยมอสโคว เยือนถิ่นปูติน (Day 1)
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 3 ทัวร์เมโทร ชมห้องสมบัติ สัมผัสโบสถ์สีลูกกวาด (Day 2)
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 4 ตะลอนทัวร์ St.Petersburg (Day 3)
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 5 วังน้ำพุ Peterhof (Day 4)
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 6 Catherine Palace (Day 5)
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 7 Winter Palace (Day 6)
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 8 Sergiev Posad (Day 7)
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 9 ตะลอนไปทั่วมอสโคว (Day 8)
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 10 รีวิว Kremlin Lights Hostel (Кремлевские Огни) @Moscow
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 11 รีวิว Baby Lemonade Hostel @St. Petersburg
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 12 รีวิว Fasol Hostel (Хостел Фасоль) @Moscow
ʕ•ᴥ•ʔ ♡ โหดสัส รัสเซีย ตอนที่ 13 รีวิว รถไฟระหว่างเมือง Moscow-St.Petersburg

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : ประสบการณ์การซื้อยา Diamox ที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน

☞ ประสบการณ์ทำเควส "ตรวจสุขภาพ ศูนย์แพทย์พัฒนา" ☜

มาเลือกกระเป๋าเดินทาง กันเถอะ