ประสบการณ์ยื่นขอวีซ่าจีน ด้วยตัวเอง <ก.ย 2561 & ส.ค 2562>


ประสบการณ์ยื่นขอวีซ่าจีน ด้วยตัวเอง 💪


เนื่องจากปลายปีนี้ แพลนจะไปเที่ยวจีนค่ะ

เมื่อใกล้วันเดินทาง
เราก็ต้องมายื่นเอกสารเพื่อขอวีซ่ากันก่อน เนื่องจากคนไทย ยังไม่ได้รับการยกเว้นวีซ่าจีน
(อาจจะได้รับการยกเว้นบางเมือง ต้องเช็คกันดีๆ นะคะ บางคนบอกว่าไปฮ่องกง มาเก๊า เซิ่นเจิ้น ไม่เห็นต้องใช้เลย เอ่อ..ต้องเช็คดูดีๆ นะ แต่ละเมืองมีกฎแตกต่างกัน)

มาดูขั้นตอนการยื่นขอวีซ่ากันเลยดีกว่า


🏢 สถานที่
ไม่ใช่สถานทูตจีน แถวรัชดาซอย 3 แล้วน้าาาาาาา
เค้าย้ายไปที่

“ศูนย์บริการยื่นขอวีซ่าประเทศจีน (Chinese Visa Application Service Center)” 
อาคารธนภูมิ ชั้น 5

ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ไม่ไกล MRT เพชรบุรีเท่าไหร่ ติดกับ ททท.



ถ้ามา MRT แล้วจะมาต่อมอไซต์ ก็คิดราคา 15 บาท (ราคาตามป้ายหน้าวิน)
แต่เดินเอาก็ได้นะ ขากลับเราก็เดินมา MRT


📌 แผนที่


 

 



⏰ วัน-เวลาทำการ
วันทำการ : จันทร์ - ศุกร์
เวลาทำการ : 09.00 - 16.00
เวลายื่นวีซ่า : 09.00 - 15.00
เวลารับเอกสารคืน : 09.00 - 16.00

หมายเหตุ: ยื่นคำร้องแบบเร่งด่วนจะเปิดให้บริการช่วงเช้าถึงเวลา 11.00 น. และรับคืนเอกสารในช่วงบ่ายตั้งแต่เวลา 15.30 น. ของวันถัดไป

นอกจากนี้ ยังมีวันหยุดพิเศษ หรือบางวันที่ไม่รับยื่นขอวีซ่าแบบด่วนด้วย
สามารถเช็คข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
https://www.visaforchina.org/BKK_EN/
https://www.visaforchina.org/BKK_TH/aboutus/278335.shtml

ระยะเวลาที่เหมาะสมในการยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวจีน คือ ประมาณ 1 - 3 เดือน ก่อนวันเดินทาง
เนื่องจากวีซ่าท่องเที่ยวมีอายุ 3 เดือน จึงขอล่วงหน้าไม่เกิน 3 เดือน
แต่ไม่ควรขอใกล้กับวันเดินทางเกินไป เพราะถ้ามีปัญหาต้องเสียเวลากลับมาขอวีซ่าอีก อาจจะไม่ทัน
ซึ่งเรายื่นก่อนเดินทาง 1 เดือนนิดๆ


💲 ค่าใช้จ่าย
ยื่นแบบธรรมดา เข้าออก 1 ครั้ง 1500 บาท 😢 (ราคาอัพเดทล่าสุด ส.ค.2562 คือ 1650)
ส่วนค่าใช้จ่ายการยื่นวีซ่าแบบอื่นๆ ดูได้ตามนี้
https://www.visaforchina.org/BKK_TH/generalinformation/visaknowledge/278936.shtml




⏳ ระยะเวลาในการดำเนินงาน
กรณีที่เอกสารครบสมบูรณ์ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด
1. แบบทั่วไป :ใช้เวลาทำการประมาณ 4 วันทำการ
2. แบบเร่งด่วน:ใช้เวลาทำการประมาณ 2 วันทำการ




📃 เอกสารหลักๆ ที่ต้องใช้ในการยื่นวีซ่านักท่องเที่ยว


1. แบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า (Application Form)
โดยเราสามารถไปขอที่ศูนย์ฯ วีซ่าจีนได้เลย หรือไม่ก็ Download ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.visaforchina.org/BKK_EN/generalinformation/downloads/278156.shtml

แนะนำให้ดาวน์โหลดแล้วมากรอกเอง
จะเขียนเอง หรือพิมพ์เอาแล้วค่อยปรินท์ก็ได้ จะได้เร็ว ไม่เสียเวลาตอนไปยื่น
ส่วนเรา ใช้วิธีพิมพ์เอา เพราะสวยกว่า และจัดระเบียบได้ง่ายกว่า

    1.1 Version ของแบบฟอร์มต้องเป็น Version ล่าสุด เท่านั้น (ปัจจุบันใช้ฟอร์มปี 2013)
    1.2 การกรอกเอกสารต้องกรอกด้วย ภาษาอังกฤษ ตัวพิมพ์ใหญ่ เท่านั้น ตรงไหนไม่มีข้อมูลให้ใส่ N/A อย่าเว้นว่าง
    1.3 การกรอกข้อมูล Part 4 และ 5 (ส่วนที่ต้องมีการเซ็นชื่อ)
          1.3.1 กรณีที่เราเป็นผู้ขอวีซ่า กรอกเอกสารเอง ยื่นเอง
ให้เราทำการกรอกเอกสารและเซ็นชื่อถึงแค่ Part 4 เท่านั้น Part 5 เว้นว่างได้เลย ไม่ต้องใส่ N/A ด้วย
          1.3.2 กรณีที่เราเป็นผู้ขอวีซ่า กรอกเอกสารเอง แต่ให้คนอื่นยื่น
ให้เราทำการกรอกเอกสารและเซ็นชื่อถึงแค่ Part 4 เท่านั้น และให้ผู้ยื่นแทน กรอก Part 5 ด้วย
          1.3.3 กรณีที่เราไม่ใช่เจ้าของแบบฟอร์ม แต่ทำการกรอกและยื่นเอกสารแทนผู้อื่น
อันนี้ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ เราต้องกรอกและเซ็นชื่อใน Part 5 ด้วย 
ส่วน Part 4 ไม่แน่ใจ แต่ละแหล่งบอกมาไม่เหมือนกัน
แต่ถ้าเป็นเรา จะทำไว้ 2 ชุด คือ 
ชุดที่เว้น Part 4 ไว้ว่างๆ (เผื่อเจ้าหน้าที่ให้เว้นว่างไว้ หรือให้เราเซ็น) กับ อีกชุดให้เจ้าของแบบฟอร์มเซ็น Part 4ไว้


ตัวอย่างการกรอกแบบฟอร์ม






2. หนังสือเดินทาง (Passport) ตัวจริง
โดยหนังสือเดินทางต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน และมีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้า

    2.1 สำเนาหนังสือเดินทาง ที่เซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
    2.1 กรณีมีหนังสือเดินทางเล่มเก่าที่เคยได้วีซ่าจีนมาก่อน ให้ถ่ายสำเนาหนังสือเดินทางเล่มเก่า ที่มีหน้ารายละเอียดหนังสือเดินทาง และหน้าที่ได้วีซ่ามาด้วย พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง (พกเล่มเก่ามาเลยก็ได้ ที่นี่มีเครื่องถ่ายเอกสาร ซึ่งน่าจะเสียตังค์)

3. ใบจองตั๋วเครื่องบิน ที่มีชื่อเราเป็นผู้โดยสาร

4. ใบจองที่พัก

5. รูปถ่ายสี 2 นิ้ว 2 รูป อายุไม่เกิน 6 เดือน
- รูปแรก ติดที่แบบฟอร์มขอวีซ่า
อาจจะไม่พอดีกรอบ ก็ไม่ต้องสนใจ เทกาวแปะลงฟอร์มได้เลย
- รูปที่สอง ให้หนีบไว้กับหนังสือเดินทางตัวจริง
โดยหนีบไว้ด้านในหนังสือเดินทาง หน้าตรงข้ามกับหน้าที่มีรูปเราในพาสปอร์ต ระวังอย่าให้รูปมีรอย หรือยับ
(ถ้าติดไม่เป็น ไม่เป็นไร เดี๋ยวตอนตรวจเอกสาร เจ้าหน้าที่จะจัดการให้ แค่อย่าลืมพกรูปไปเท่านั้นเอง)

รูปถ่าย ต้องตรงตามระเบียบเป๊ะ ❗
ซึ่งปกติ ถ้าไปร้านถ่ายรูป แค่บอกเค้าว่าถ่ายรูปทำวีซ่าจีน เค้าก็จะจัดการให้ทันที
เราถ่ายมาครึ่งโหล 80 บาท


- รูปสี พื้นหลังสีขาว ไม่มีขอบ และถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน
- ห้ามใส่เสื้อสีขาว เพราะจะกลืนกำพื้นหลัง แนะนำใส่เสื้อสีเข้ม เสื้อยืดคอกลมก็ได้
- หน้าตรง เปิดหู ไม่หลับตา ไม่ยิ้มเห็นฟัน (ยิ้มมุมปากได้) และต้องเห็นหน้าผากกับคิ้วอย่างชัดเจน
- ห้ามใส่เครื่องประดับ เช่น ต่างหู สร้อยคอ
- ขนาดรูป 48 x 33 มม.
   มีความกว้างส่วนศีรษะ 15 - 22 มม.
   ความสูงส่วนศีรษะ 28 - 33 มม.
- พิมพ์ลงบนกระดาษสำหรับรูปถ่ายเท่านั้น



6. หนังสือมอบอำนาจภาษาอังกฤษ กรณีให้คนอื่นยื่นเอกสารแทน
พร้อมสำเนาบัตรประชาชนของผู้ยื่นแทน (เซ็นสำเนาถูกต้อง)



สำหรับเคสอื่นๆ เช่น วีซ่าสำหรับเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ลองหาในรีวิวอื่นๆ ดูนะ
ของเราเป็นเคสนักท่องเที่ยวปกติทั่วไป


📆 การจองคิว
เนื่องจากกลัวว่าจะเสียเวลารอนาน จึงได้ทำการจองคิวยื่นวีซ่าไว้ล่วงหน้า ผ่านเว็บนี้
https://www.visaforchina.org/BKK_TH/howtogetavisa/quickaccess/index.shtml

กดไปที่ ทำการนัดหมายออนไลน์



จากนั้นก็จะให้กรอกข้อมูล


เสร็จแล้วก็จะเข้าสู่หน้าให้เลือกวันที่ก่อน
เลือกเสร็จถึงจะมีเมนูให้เลือกช่วงเวลาปรากฎด้านล่าง



ของเราเข้าระบบจองคิววันพุธ ที่ 19 กันยา
มันมีให้จองเร็วสุดคือ ศุกร์ ที่ 21 กันยา
ก็โอเค  กดจองตอนนั้น รอบเวลา 09.00-10.00


เมื่อเสร็จแล้วก็จะมีหน้าสำหรับพิมพ์ใบนัดเวลา
โดยใบนัดก็จะมีรายละเอียดต่างๆ เช่น
- ชื่อ
- หมายเลขหนังสือเดินทาง
- เบอร์ติดต่อ
- วันที่
- ช่วงเวลา
- จำนวน แบบฟอร์มที่จะยืน
ประมาณนี้


📑 ขั้นตอนการยื่น

อันนี้เป็นสถานการณ์คร่าวๆ ของการไปยื่นเอกสารของเรา
เราไปยื่นวันศุกร์ที่ 21 กันยา 2561

07.15 ไปถึงที่หมาย
ถ้าถามว่าทำไมไปเร็วนัก ..... ก็ไม่รู้เหมือนกัน 😕 พอดีบ้านอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ 😆555
เห็นว่ามีที่กินข้าวด้วย ก็เลยกะจะไปกินข้าวที่นั่นเลย มีตลาดด้วยนะเออ เดินเล่นฆ่าเวลาไป






08.00 เข้าไปด้านในตึก ไม่ต้องแลกบัตรใดๆ ทั้งสิ้น
(ตึกมีที่จอดรถ จอดฟรี 1 ชม. หลังจากนั้นเสียชม. ละ 40 บาทมั้ง แต่ไม่มีที่ประทับตราเพิ่มเวลาจอดให้)







ขึ้นลิฟต์ฝั่งที่เป็น Low Zone (ฝั่งขวา ใกล้ธนาคารธนชาต)
กดไปที่ชั้น 5




พอออกจากลิฟต์มา จะมีเจ้าหน้าที่ถามว่า มายื่นวีซ่า หรือรับเล่ม ยื่นแบบด่วนหรือไม่ด่วน
จากนั้นก็จะชี้ไปที่แถว



เค้าจัดแถวหน้าประตูทางออก 3 แถว
👉 แถวยื่นด่วน
👉 แถวรับเล่ม
👉 แถวยื่นธรรมดา

เราไปถึงตอน 8 โมงนี่คือ มีคนรออยู่ที่แถวยื่นธรรมดาแล้ว 1 คน (กะว่าจะเป็นคนแรกแท้ๆ)
ส่วนแถวอื่นๆ มีมารอ 3-4 คน
ไม่มีที่ให้นั่งรอนะ ทุกคนก็ยืนรอ ไม่ก็นั่งกับพื้นเอา

แอบได้ยินว่าตอนนี้ไม่มีบริการแบบยื่นวันเดียวได้แล้ว ยกเว้นกรณีพิเศษจริงๆ

08.45 ไฟห้องเริ่มเปิด หันไปด้านหลัง คนมหาศาลมาก 😱 รวมแล้วน่าจะเกิน 50 คน

09.00 ประตูเปิด เจ้าหน้าที่เปิดห้อง เรียกแต่ละแถวให้เดินเข้าประตูทางขวามือ ผ่านเครื่องสแกน

โดยให้แถวรับเล่มเข้าไปก่อน นับได้ประมาณ 20 คน
จากนั้นก็ให้แถวยื่นแบบด่วน เดินตามไป นับได้ประมาณ 15 คน
แถวยื่นธรรมดา เดินตามไปทีหลังสุด นับไม่ได้ เพราะเราอยู่คนที่ 2 จากหัวแถว แต่ลองคะเนจากสายตาน่าจะประมาณ 30 คน

พอผ่านเครื่องสแกน จะแยกเป็น 3 แถวเหมือนเดิม
👉 ซ้ายสุด แถวรับเล่ม
👉 ตรงกลาง แถวยื่นด่วน
👉 ขวาสุด แถวยื่นธรรมดา

ไปยืนรอหน้าเคาน์เตอร์ตรวจเอกสาร
เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสาร และจัดเรียงเอกสารให้
ถ้ามีเอกสารใดขาด จะแจ้งให้ผู้ยื่นไปเตรียมมาใหม่ให้เรียบร้อย
ถ้ามีเอกสารเกินๆ เค้าก็จะไม่สนใจ

พอตรวจเสร็จ เอกสารครบถ้วน (เกินได้แต่อย่าขาด) ก็กดบัตรคิวให้

เราได้ A0001 (จำไม่ได้ว่า 0 กี่ตัว)
เป็นคิวแรก เพราะจองคิวมา
เหมือนมันจะแบ่งเป็นคิว C K B A อะไรประมาณนี้ จำไม่ได้แระ
ถ้านัดไว้จะได้คิวแยกจากคิวปกติอีกที
ถึงแม้ตอนตรวจเอกสารจะเข้าแถวเดียวกันก็เถอะ

ได้บัตรคิวมาปุ๊บ ยังไม่ทันได้ถ่ายรูป
ก็โดนเรียกเข้าช่องยื่นเอกสารเลย ณ ช่อง 9

ยื่นเอกสารทั้งหมด พร้อมบัตรคิว และใบนัด ให้เจ้าหน้าที่
เค้าจะค่อยๆ ตรวจเอกสาร
เริ่มจาก
✅  หนังสือเดินทาง Passport
✅  สำเนาหนังสือเดินทาง Passport
เราเซ็นสำเนาถูกต้องภาษาไทยไว้ แต่เค้าก็ไม่ได้บอกนะ ว่าต้องเซ็นรึเปล่า หรือต้องเซ็นภาษาอะไร
❌  สำเนาบัตรประชาชน <ไม่เอา>
✅  รูปถ่าย
✅  แบบฟอร์มขอวีซ่า
เจ้าหน้าที่จะเช็คคู่กับหนังสือเดินทางว่าใส่ถูกต้อง ครบถ้วนหรือเปล่า 
ถ้าทำงานแล้ว เค้าจะถามว่าทำงานเกี่ยวกับอะไร 
รู้สึกว่าถ้าทำงานบริษัทที่เกี่ยวกับสื่อและสิ่งพิมพ์ ต้องมีเอกสารเพิ่ม
✅  เอกสารการจองเครื่องบิน <ต้องมีหน้าที่แสดงว่าเราเป็นผู้โดยสารด้วย>
✅  เอกสารการจองที่พัก <ต้องมีหน้าที่ระบุจำนวนผู้เข้าพักด้วย แต่ไม่เห็นเค้าเช็คชื่อคนเข้าพักนะ
เช็คตามวันที่เข้าพักเลย ว่ามีครบทุกวันรึเปล่า จำนวนกี่คน>
✅  เอกสารการจองรถไฟ <อันนี้ไม่น่าจะจำเป็นนะ แต่เค้าก็เอาอ่ะ>
✅  แพลน
เจ้าหน้าที่ก็เอานะ แต่อ่านแค่รายละเอียดแบบคร่าวๆ
❌  หนังสือรับรองบัญชี และ Statement <ไม่เอา>
❌  หนังสือรับรองการทำงาน <ไม่เอา>
❌  ประกันภัยการเดินทาง <ไม่เอา>


ส่วนของเพื่อน ให้เรายื่นแทน
✅  หนังสือเดินทาง Passport
✅  สำเนา Passport
เพื่อนเซ็นสำเนาถูกต้องเป็นภาษาอังกฤษ
❌  สำเนาบัตรประชาชน <ไม่เอา>
✅  รูปถ่าย
✅  แบบฟอร์มขอวีซ่า
หน้าสุดท้ายของแบบฟอร์มขอวีซ่า
ในส่วนที่ 4 เซ็นชื่อเพื่อน (คนขอ)
ในส่วนที่ 5 เซ็นชื่อเรา (คนยื่นแทน)
✅  หนังสือมอบอำนาจภาษาอังกฤษ
เซ็นชื่อเพื่อน (คนขอ) และเซ็นชื่อเรา (คนยื่นแทน)
✅  สำเนาบัตรประชาชนของเรา (คนยื่นแทน)
เราเซ็นสำเนาถูกต้องภาษาไทย
ปล. เพื่อนกรอกข้อมูลเป็นหมายเลข Passport ของเรา แต่เจ้าหน้าที่ก็เอาแต่สำเนาบัตรประชาชนน ไม่เอาสำเนา Passport
❌  สำเนา Passport ของเรา (ผู้ยื่นแทน) <ไม่เอา>
❌  เอกสารจองตั๋วเครื่องบิน <ไม่เอา เพราะในเอกสารของเรา มีชื่อเพื่อนอยู่แล้ว>
❌  เอกสารการจองที่พัก <ไม่เอา เพราะ ในเอกสารของเรา ระบุว่าพัก 2 คน อยู่แล้ว>
❌  เอกสารการจองเครื่องบิน <ไม่เอา เพราะในเอกสารของเรา ระบุว่า เดินทาง 2 คน อยู่แล้ว>
❌  แพลน <ไม่เอา เพราะบอกว่าไปด้วยกัน>
ส่วนอื่นๆ เพื่อนไม่เตรียมมาจ้า 😒

เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารเสร็จเรียบร้อย
ก็จะพิมพ์ใบนัดรับเอกสารคืน มาให้

ได้รับคืนวันที่ 27 กันยา สามารถรับเอกสารได้ตั้งแต่เวลา 09.00 - 16.00 ที่เดิม
(ปล. วันที่ 24 กันยา ศูนย์รับยื่นวีซ่าหยุด)
ค่าวีซ่ายังไม่ต้องจ่าย ให้มาจ่ายในวันที่มารับเอกสารคืน



จากนั้นก็เดินตัวไม่ปลิวกลับบ้านได้
(เพราะเอกสารโดนส่งคืนมามีเยอะ แถมเตรียมสำรองอีกเยอะมาก แบบว่า จะเอาอะไรเตรียมมาให้หมดละ มีหลายชุดด้วย)

หันกลับมาที่ล็อบบี้สำหรับนั่งรอเรียกคิว คนเต็มเลย 😲
ดีนะที่มาก่อนเวลา 😏

ทั้งหมดนี้ ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที
(นับตั้งแต่เค้าเรียกแถว)
ประมาณ 09.15 ก็ลงมาชั้น 1 ละ 😁

ถามว่า ถ้ายื่นแล้วไม่ผ่านทำไง
ตอบ เสียตังค์ฟรี แล้วต้องมายื่นใหม่

 





Updated 27 Sep 2018 !!!!

ได้เวลามารับวีซ่าแล้วจ้าาาาาาาาาาาาาาาา!! 😆

ด้วยความมุ่งมั่นว่าจะเป็นคนแรกของแถวให้จงได้ 💪
วันนี้เลยขึ้นมาบนชั้น 5 ไวกว่าเดิม 10 นาที! ประมาณ 07.50 

พอขึ้นมาปุ๊บ ปรากฎว่า !!!!!!
มีคนมาก่อนแว้วววววววววววววววววววววววววววววววววววว 😲
เป็นได้แค่ที่ 5 (จะเอาลำดับเพื่อออออออออออออ 😅)



จัดแถวเหมือนตอนมายื่นขอวีซ่าเลย
แถวยื่นด่วน แถวรับเล่ม และแถวยื่นปกติ

แต่เนื่องจากมันเกะกะ
เจ้าหน้าที่เค้าเลยย้ายแถวรับเล่ม ไปไว้หน้าประตูทางเข้าเลย



ห้องน้ำหญิงอยู่ตรงหน้าเลย

 


พอสักประมาณ 08.50 เจ้าหน้าที่ก็มาเปิดประตู
หันไปทางหางแถว 😲😲




จากนั้นก็เรียกแถวรับเล่ม แถวยื่นด่วน และแถวยื่นปกติ เข้าไปตามลำดับ
ไปแยกแถวกันด้านในอีกที เหมือนเดิม

รับเล่มเข้าช่องซ้ายสุด
ยื่นใบนัดให้เจ้าหน้าที่
เค้าก็กดบัตรคิวให้เลย ไม่มีตรวจสอบเอกสารใดๆ เพิ่มเติมอีก



จากนั้นก็รอเรียกคิว
ประมาณ 5 นาที (ช้าเหมือนกันแหะ 😕)
ก็โดนเรียกเข้าไป ช่อง 16
นำบัตรคิว และใบนัดรับเล่ม ยื่นให้เจ้าหน้าที่
จากนั้นก็ชำระเงิน 1500*2 = 3000 บาท ชำระเป็นเงินสดเท่านั้น
แล้วก็จะได้ใบเสร็จ กับใบนัดรับเล่มที่ประทับตราว่าจ่ายเงินแล้วกลับมา

 


จากนั้นก็ขยับไปช่อง 17
ยื่นใบนัดรับเล่มให้เจ้าหน้าที่
ก็จะได้พาสปอร์ตคืนมา

ขั้นตอนตั้งแต่เข้าช่อง 16 - 17 นี่ไวมาก

จากนั้นก็ตรวจสอบพาสปอร์ต
มีวีซ่าแปะมาแล้ว
แต่ ไม่มีรูป ❓
อ้าว 😮 เอารูปเราไป แต่ไม่เอามาแปะไว้หรอ
เคยขอของไต้หวัน แล้วเค้าแปะรูปในวีซ่าเลยอ่ะ... 😕

 


เดินไปถามเจ้าหน้าที่
เค้าบอกว่าแบบนี้ถูกแล้ว ผ่านแล้ว 👌
เดี๋ยวนี้ไม่แปะรูปแล้ว สามารถเปิดหน้านี้ให้ตม. ดูได้เลย

โอเคร 😌 เข้าใจละ
แต่เพื่อความชัวร์อีกขั้น เลยไปถามคนที่เคยขอวีซ่าจีนเมื่อเร็วๆ นี้ดู
ทุกคนก็บอกว่าไม่มีแปะรูปแล้ว

โอเคร สบายใจ 😆 กลับบ้านได้
ลงมาชั้น 1 เวลาประมาณ 09.10 เร็วกว่ายื่นวีซ่าจริงๆ ด้วย

พี่จีนจ๋า พฤศจิกา เจอกัลลลล 😘





Updated 26 Aug 2019 !!!!


ปีนี้เรามีแพลนบินไปจีนอีกแล้ว
รอบนี้ก็ไปยื่นขอวีซ่าด้วยตัวเองอีกเช่นเคย

ครั้งนี้เตรียมเอกสารคล้ายกับครั้งก่อนเลย ตามนี้

✅  พาสปอร์ตเล่มจริง
✅  สำเนาพาสปอร์ต + ลายเซ็นต์ (เราเซ็นเป็นภาษาไทย)
✅  สำเนาวีซ่าครั้งที่แล้ว + ลายเซ็นต์ (เราเซ็นเป็นภาษาไทย) (ใครที่วีซ่าอยู่เล่มเก่า ต้องถ่ายหน้าพาสปอร์ตเล่มเก่าที่มีวีซ่ามาด้วย)
✅  แบบฟอร์มการขอวีซ่า
✅  รูปถ่าย 2 รูป รูปนึงติดในแบบฟอร์มขอวีซ่า อีกรูปเสียบไว้ในเล่มพาสปอร์ต
✅  รายละเอียดข้อ 2.6 ในแบบฟอร์มการขอวีซ่า (เนื่องจากเราเขียนในฟอร์มไม่พอ)
✅  ใบจองเครื่องบิน (เน้นว่าต้องมีชื่อเราในใบจอง)
✅  ใบจองโรงแรม
✅  เอกสารรับรองเงินเดือน
❌ แพลนเที่ยว (แบบว่าไปที่ไหนบ้าง พักที่ไหนบ้าง)
❌ เอกสารรับรองสถานะทางการเงิน
❌ Statement ย้อนหลัง 6 เดือน
❌ ประกันภัยการเดินทาง

ส่วนของเพื่อน มีเพิ่มมาจากของเรา คือ
✅  หนังสือมอบอำนาจภาษาอังกฤษ
✅  สำเนาบัตรประชาชนของเรา (ซึ่งเป็นผู้ยื่นแทน เซ็นรับรองสำเนาภาษาไทย)

ส่วนรายละเอียดข้อ 2.6, ใบจองเครื่องบิน, ใบจองโรงแรม นั้น เจ้าหน้าที่ไม่เอาเพราะไปด้วยกัน และมีชื่อเพื่อนในเอกสารการจองต่างๆ เรียบร้อยแล้ว


สังเกตว่า มีสิ่งที่แตกต่างจากรอบที่แล้วคือ
- ต้องมีสำเนาวีซ่าครั้งก่อน
- ข้อ 2.6 ในแบบฟอร์ม เราเขียนไม่พอ แล้วเรากับเพื่อนเขียนต่างกันด้วย

คือเราเขียนเต็มทุกช่อง พยายามอัดไปในนั้น
โชคดีที่พอรวบยอดตามเมืองแล้ว แบ่งเป็น 5 แถวได้พอดี
สังเกต แถวที่ 2 จะมี 3โรงแรม

ส่วนเพื่อนเราใส่ N/A ไปทุกช่องเลย




- ทำข้อ 2.6 แยกออกมาเป็นเอกสารอีกแผ่นนึงแนบท้ายแบบฟอร์ม



- เจ้าหน้าที่ไม่เอาแพลนเที่ยว
- เจ้าหน้าที่เอาหนังสือรับรองเงินเดือนด้วย
- ราคาวีซ่าเพิ่มเป็น 1650 บาทแล้วนะตัว


ครั้งนี้เราไม่ได้จองคิวไป เนื่องจากระบบไม่ยอมให้จอง 555
แต่ไปยื่นเลยก็ไม่เสียเวลานะ เราไปเร็ว ก็ได้เป็นคิวที่ 3 ทั้งตอนยื่นและตอนรับเล่ม




ยืนวันที่ 26 รับวีซ่าวันที่ 29
แล้วก็ ผ่านแล้ววววววววววววววววววววววว



-------------------------------------------------

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : ประสบการณ์การซื้อยา Diamox ที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน

ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : Day 8 ภูเขาหิมะมังกรหยก [Jade Dragon Snow Mountain 玉龙雪山]

ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : Day 6 ภูเขาหิมะสือข่า [Shika Snow Mountain 石卡雪山] & วัดซงจ้านหลิน [Songzanlin Monastery 颂赞林寺]