ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 3 : Day 4 Go Go to China Snow Town 中国雪乡



วันที่ 26 ธันวาคม 2566


วันนี้ต้องตื่นเช้ามากกกกกกกกกกกกกกก

เพราะต้องออกเดินทางจากฮาร์บิน ไป


China Snow Town

中国雪乡


วิธีการเดินทางคร่าวๆ 


เราเช็คเอาต์จากโรงแรมตั้งแต่ตี 4 ครึ่ง

การแต่งกายของเราจะคล้ายกับเมื่อวาน เพียงแต่เอาเสื้อลองจอนออกไปตัวนึง

พนักงานนอนรอที่ล็อบบี้เลย 555


จากนั้นก็เปิด App Alipay 

แล้วเลือกเมนู Didi เพื่อเรียกรถ Taxi ไปส่งที่ Modern Hotel

นี่เป็นการทดลองใช้ครั้งแรกอ่ะ

งงๆ อยู่เหมือนกัน 

ดีที่เมื่อคืนลองลงทะเบียนด้วยเบอร์มือถือจีนมาแล้ว


ระบบมันแปลกๆ เวลาเราจะปักหมุด ชอบซูมเอาต์ออกมาให้เอง


ใช้เวลาเรียกแป๊บเดียวก็มี Taxi มารับหน้าโรงแรม

แต่ตอนขึ้นไปนั่ง เค้าขอเบอร์อะไรสักอย่าง

คุยไม่รู้เรื่องเลย

สุดท้ายจับใจความได้ว่าเป็นเบอร์มือถือ 4 ตัวท้าย

เพราะคนขับจะใช้ verify ในระบบ เป็นการยืนยันว่ารับถูกคน


รถใช้เวลาไม่นานก็มาถึงโรงแรม Modern

ค่ารถ 9 หยวน

อันนี้ก็งงอีก เพราะไม่ตัดผ่าน Alipay ให้

ต้องสแกน QR code จ่าย (ก็ใช้ Alipay อยู่ดี)


ไม่เป็นไร มาถึงที่แล้ว

แต่ข้างนอกหนาวมากกกกกก หนาวกว่าปกติ คงเพราะมันเพิ่งตี 5 กว่าๆ

เลยเข้าไปหลบที่ธนาคาร จะเป็นห้องรวมตู้ ATM ของธนาคารอีกที


สักพักก็มีรถตู้มาถึง


ซึ่งเมื่อวานผู้จัดการรถ เค้าแจ้งเบอร์รถมาให้แล้ว

เราก็ยื่นแชทให้คนขับอ่าน

คนขับก็บอกว่าใช่


เนื่องจากเป็นรถตู้ 

ท้ายรถจะใส่ได้แค่กระเป๋าใบไม่เกิน 25 นิ้ว 

ส่วนของเรา 28 นิ้ว ต้องรอคนขึ้นครบก่อน

แล้วเค้าจะเอาไปยัดไว้ด้านท้ายในรถอีกที


พอถึงเวลา 06.10 ก็ออกรถเลยจร้าาาาา

พร้อมสูบบุหรี่ไปด้วย

เรานั่งหลังคนขับ ก็โดนเต็มๆ อีกแล้ว ไม่เข็ดสินะ โดนทุกรอบ ยังไปนั่งหลังคนขับอีก


รถใช้เวลา 1 ชั่วโมง กว่าจะออกมาจากตัวเมืองฮาร์บินได้

เราใช้ Map จับตำแหน่งดู

สังเกตว่ารถมันไปคนละเส้นกับที่ Map มันแนะนำ

คือปกติ Map จะแนะนำให้ไปเส้น Yabuli

ซึ่งจากรีวิว เราก็เข้าใจว่ารถน่าจะไปทางนั้น


แต่คันนี้มาทางด้านล่าง ไปทางอู่ชาง

ชิบหายละ ถูกคันมั้ยเนี่ย

นั่งรถไปแบบตื่นเต้นสุดๆ กลัวไปไม่ถึงจุดหมาย





รถที่นี่เค้าจะขับช้าๆ นะ ประมาณไม่เกิน 80 กม/ชม.

ระยะทางจากฮาร์บินไป Snow Town เกือบ 300 กิโล

แต่จะใช้เวลาขับ 6 ชม.

ก็สงสัยว่าทำไมขับกันช้าจัง


พอมาถึงจุดจ่ายค่าทางด่วน จุดที่ 2

จู่ๆ รถมันก็เลี้ยว

ตอนแรกนึกในใจ เห้ย!!! แกจะหลบด่านหรอ? หรือจะเลี้ยวกลับ? มาผิดทางเรอะ 🤨?


สักพักรถมันก็หมุน 360 องศา 

มาจอดที่จุดเดิม 😦😦😦


สรุป คือ รถมันดริฟฟฟฟฟ ถนนลื่นเว้ยเห้ยยยยย 😱

เข้าใจแล้วว่าทำไมต้องขับช้าๆ

พี่จะขับช้ากว่านี้ก็ได้นะ 😰


พอผ่านทางด่วนไปไม่นาน

รถก็เลี้ยวเข้าเส้นทางไป Snow Town

โอเค โล่งใจละ เพราะจากนี้ไม่มีแยกอื่น 555



เลี้ยวมาได้สักพัก

จะถึงจุดพักรถ แวะจอด 20 นาที

เป็นเหมือนร้านอาหารเล็กๆ คนขับก็ลงไปกินข้าว

มีห้องน้ำชั้นบนและล่าง

น่าจะดีลกับพวกรถไป Snow Town ไว้แล้ว

ห้องน้ำสะอาดดี ไม่มีอะไรน่ากลัว

ที่น่ากลัวคือ เค้าแวะแค่ครั้งเดียว ต้องบริหารตัวเองดีๆ



จากนั้นรถก็จะวิ่งบนเส้นทางชนบทหน่อย

เจอหมู่บ้านประปราย ทางไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ถนนดูพังๆ

แต่วิวสวยดีนะ

ขาวๆ ตลอดเส้น


พอขึ้นเขา คือวิวสวยมากกกกก

ขาวโพลนไปหมด ต้นไม้ก็สีขาว






รถมาถึงประตูทางเข้าหมู่บ้านประมาณ 12.30

เค้ามาส่งเราแค่นี้ละ

ลงจากรถ รับกระเป๋า แล้วเข้าไปที่อาคาร




ต้องเข้าไปอาคารข้างๆ ประตู


ซื้อตั๋วเข้าหมู่บ้าน 120 หยวน

ใช้ Passport ในการซื้อ

จ่ายด้วย Alipay ได้

ตั๋วรวมค่ารถไปกลับหมู่บ้านแล้ว




พอได้ตั๋ว ก็สามารถไปขึ้นรถได้เลย มีรถมาเรื่อยๆ 

ทางเข้า ก็อยู่ข้างๆ จุดจำหน่ายตั๋วนั่นแหละ


แต่เรานั่งพักก่อน หาไรกินนิดหน่อย เพราะไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า

ในนี้ไม่มีร้านอาหาร มีแต่เครื่องขายของอัตโนมัติ


พอกินเสร็จ ค่อยไปขึ้นรถ

จะเจอรถบัสเข้าหมู่บ้าน

เป็นบัสเล็กๆ ต้องเอากระเป๋าขึ้นไปบนรถ




จากตรงนี้ ใช้เวลาประมาณไม่ถึง 10 นาที

ก็มาถึงหมู่บ้านแล้ว




เวลคัมมมมมม

โรงแรมเราอยู่หนายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ขอเปิดแมพก่อน (และโรงแรมปักหมุดผิดด้วย ปักผิดฝั่ง)


รถจากฝั่งอู่ชาง จะจอดทางใต้ของหมู่บ้าน

แต่โรงแรมอยู่ทางทิศเหนือ ใกล้กับป้ายหิน


จากจุดลงรถ ไปโรงแรม ทุลักทุเลพอสมควร

เพราะต้องลากกระเป๋าไปด้วย เปิดแมพไปด้วย

ถนนก็ไม่ค่อยลื่นเท่าไหร่นะ ใช้แรงลากพอสมควร

มีบริการลากกระเป๋า แต่เราไม่ได้ใช้




จนมาถึงจุดที่ใกล้ๆ กับแมพ

ก็เริ่มมองหารร. 

ในที่สุดก็หาเจอ


โรงแรม Snow Town Yingxuege Inn 雪鄉映雪閣客棧(雪韻大街店)

พอเข้าไปปุ๊บ

พนักงานก็ทำการเช็คชื่อ แล้วก็เอากุญแจให้

จากนั้นก็พาเราไปที่ห้อง


รร. ไม่มีลิฟต์ และห้องพักอยู่ชั้นสอง 


ห้องไม่กว้างเท่าไหร่ 

เป็นห้องแฟมิลี่ ที่เหมาะกับการพัก 2 คนมากกว่า

มีหน้าต่าง แต่หลังคาบ้านข้างๆ บังวิว

มองเห็นสะพานไม้ที่เป็นจุดชมวิวหมู่บ้านได้ด้วยนิดนึง


มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ

เตียงแข็งไปหน่อย 


ห้องน้ำสะอาดดี เล็กไปนิด แต่ก็ใช้งานได้


หลังจากเตรียมตัวเสร็จแล้วว

ก็เดินลงไปลุยหมู่บ้านหิมะ


ก่อนออกจากโรงแรม ก็ถามพนักงานเรื่องรถขากลับฮาร์บินไว้ด้วย

เค้าก็จะจัดการหาให้

ค่ารถ 120 หยวนต่อคน เป็นรถบัสใหญ่เลย (แต่ลงจุดไหนไม่รู้นะ ลืมถาม)


จ่ายเงินเสร็จ เค้าก็ชวนเล่นกิจกรรมต่างๆ ใกล้ๆ หมู่บ้าน

แต่เราอยากถ่ายรุปมากกว่า เลยปฏิเสธไป

ลองถามเค้าเรื่อง เขาแกะหญ้า เค้าบอกไกลไป

จริงๆ อยากไปที่นั่นตอนเช้า แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรเพิ่ม


ออกจากโรงแรม เลี้ยวซ้าย เดินขึ้นไปทางเหนือ







จะเจอป้ายหิน ของหมู่บ้าน

ถ่ายรูปแป๊บนึง




แล้วไปที่ลานกว้าง
ตรงนี้เป็นลานกิจกรรมตอนกลางคืนและเป็นจุดจอดรถบัสรับส่งสำหรับคนที่มาจากหมู่บ้านอื่นด้วย




มีทางขึ้นสะพานไม้ไปยังจุดชมวิวหมู่บ้านด้วยนะ

แต่ยังไม่ขึ้นตอนนี้


เราเริ่มเดินสำรวจทางเหนือของหมู่บ้านก่อน

โซนนี้จะเป็นพวกโรงแรมซะส่วนใหญ่

แต่เงียบสงบดี ผู้คนไม่พลุกพล่าน











ระหว่างถ่ายรูปก็ประสบปัญหาอันยิงใหญ่ของชีวิต
... มือถือดับ = ='''

น้องทนอยู่ในอากาศ -10 กว่าๆ มาหลายวัน 
วันนี้น้องจบชีวิตไปแล่วววววว >.<
ต้องทำการชุบ

ก่อนอื่นต้องเอามือถือยัดกลับไปไปกระเป๋าเป้ก่อน
แล้วค่อยเสียบสายชาร์จ
ซึ่งหลังจากนี้ เราจะเสียบสายชาร์จไว้ตลอด
น้องจะสามารถทนอยู่กับอากาศข้างนอกได้ โดยมีค่าชีวิตที่ 1% ตลอดเวลา
เคยลองใช้แผ่นร้อนแปะที่เคสแล้ว ไม่ช่วยอะไร เสียสายชาร์จนี่แหละ เวิร์คสุด














จากนั้นก็เดินกลับลงมาที่ลานกว้างอีกครั้ง

สภาพตอนนี้คือ หิมะท่วมหัวมาก ก็ว่าทำไมหัวเย็นๆ


เดินขึ้นสะพานไม้





ตอนนี้ประสบปัญหาฝ้าขึ้นแว่นอีกแล้วววววววววววววววววววววว 😭😭

แล้วอากาศหนาว + หิมะ + ลม

จะให้ถอดหน้ากาก ก็จะหน้าหนาไปแล้วววววว 

แต่สุดท้ายก็ต้องยอมถอด ไม่งั้นเดินต่อไม่ได้ 😠


ตอนเดินขึ้นสะพาน เหนื่อยมาก เพราะเสื้อผ้าแน่นหนาเกิน ขยับขาขึ้นบันไดลำบาก

ขึ้นไปเจอจุดให้อาหารเลี้ยงกวางด้วยนะ

เหมือนในนิทานเลย







ตรงแถวนี้สะพานจะแยกเป็นด้านบนกับด้านล่าง

ลองไปด้านบนก่อน ปรากฎว่าขึ้นไปสักพัก ทางขึ้นเค้าปิด

เลยต้องเดินกลับลงมา ผ่านนุ้งกวางอีกรอบ

แล้วเดินต่อตรงสะพานไม้ยาวๆ 



เดินไปสักพัก จะเริ่มเห็นวิวหมู่บ้านแล้ว

แล้วก็จะเจอจุดถ่ายรูป แต่ละจุดคนเยอะมาก





ตอนแรกก็เป็นหมู่บ้านขาวๆ ดีๆ

สักพักเริ่มเปิดไฟ



หมู่บ้านเริ่มมีสีสันขึ้น

คนก็มากันเยอะขึ้นเรื่อยๆ













เดินไปเรื่อยๆ จะเจอทางลง แต่เรายังไม่ลง

เดินไปจนสุดทางนั้นแหละ จะเจอทางลงอีกที่นึง

(ทางขึ้นลง เท่าที่นับได้มี 4 จุด)





ชมวิวเสร็จ ก็เดินลงไป

แล้วเดินออกไปถนนเส้นหลักของหมู่บ้าน



ตอนนี้คือ หิว

ขอกินชาบู อีกแล้ว


ร้านที่นี่ค่อนข้างดูยาก ว่า ขายอะไร

ก็เลยมั่วๆ เข้าไป (บอกแล้ว เรามึนทุกครั้งที่เข้าร้านอาหาร)

เจอร้านสุกี้สายพาน

ก็นั่งเลยจ่ะ

แบบไม่รู้อะไรทั้งนั้น แม้แต่ราคา


โชคดีที่คนนั่งตรงข้ามพูดอังกฤษได้

เลยคุยกับร้านให้

ร้านนี้ไม่รับ Alipay เราเลยจ่ายเงินสดไป

เค้าจะมีซุปให้เลือก

แต่ตอนแรก ร้านเข้าใจว่าเรามากับคนนั่งตรงข้าม เลยเอาซุปเดียวกันมาให้

เราก็ขี้เกียจเลือก ก็เลยรับไปเลย

พร้อมกับหมูถาดนึง


อาหารตรงสายพาน ทานได้เรื่อยๆ

แต่ไม่ค่อยมีอะไรเด่นๆ 

ออกแนวกินเรื่อยๆ มากกว่า


น้ำสามารถหยิบและจ่ายเพิ่มได้ตรงตู้แช่


ไม่รู้ว่าให้เวลาเท่าไหร่ แต่คนนั่งตรงข้ามยังไม่ไป เราก็น่าจะนั่งกินได้อยู่ (เพราะเข้ามาพร้อมกัน 555)


กินเสร็จก็ออกจากร้าน แล้วเดินสำรวจต่อ









ถนนคึกคักมาก

ตอนนี้หิมะหยุดตกแล้ว เลยเดินสบายหน่อย

อากาศเย็นๆ ไม่ถึงกับหนาวมาก



เดินไปสักพัก เริ่มมีกิจกรรมตรงลานกว้างละ แต่เราไม่ได้ไป

เพื่อนเริ่มหาของกิน

ส่วนเราเดินเล่นไปเรื่อยๆ


เดินถนนเส้นหลักครบ 1 รอบก็กลับโรงแรม

พร้อมกับของกินจำนวนหนึ่ง


ของกินจะแแพงกว่าที่เจอที่ฮาร์บินเกือบเท่าตัว

แต่ไม่ได้กินเยอะ เลยจ่ายไหว


ประมาณ 4 ทุ่มถึงกลับเข้าโรงแรม


นั่งกินขนมต่อ

ค่อยอาบน้ำ


ลองมองไปที่หน้าต่าง เกือบเที่ยงคืนแล้ว แต่ยังมีคนไปเดินที่สะพานอยู่

คนน้อยดีนะ จนอยากไปเดินอีกรอบเลย 


แต่ง่วงแล้ว นอนดีกว่า 😴😴😴




สำหรับทางขึ้นลงสะพานไม้ มันขึ้นฟรีนะ
เราเจอทางขึ้นประมาณ 4 จุด



ทางซ้าย (ทิศใต้)
จะเป็นทางไปอู่ชางหรือฮาร์บิน

ทางขวา (ทิศเหนือ)
จะเป็นทางที่ตั้งป้ายหิน

เริ่มจากทางขวา 

จุดที่ 1
ถ้าเจอป้ายหินแล้ว ให้เดินไปด้านหลังป้าย จะเจอลานกว้างที่มีเวทีคอนเสิร์ต
มองทางซ้ายมือจะเจอซุ้มทางขึ้นสะพานไม้ ตกแต่งเหมือนงานวัด



จุดที่ 2 
จะอยู่ตรงมุมตึก ข้างๆ ร้านกาแฟ

จุดที่ 3
จะอยู่กลางๆ หมู่บ้าน ค่อนไปทางใต้

จุดที่ 4
อยู่ไม่ไกลจากจุดที่ 3 และข้างๆ จะเป็น Dream Home ที่เค้าต้องเสียเงินค่าเข้าไปชมหมู่บ้านหิมะแบบใกล้ชิด





⛄⛄⛄⛄⛄⛄⛄⛄⛄⛄⛄⛄⛄⛄⛄⛄⛄⛄⛄⛄⛄⛄⛄⛄⛄⛄⛄⛄⛄⛄⛄⛄⛄⛄


📌 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 3 : เทศกาลน้ำแข็ง เมืองฮาร์บิน

📌 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 3 : รีวิวโรงแรม Anhang Holiday Hotel (Harbin Taiping Airport) 安航假日賓館 (哈爾濱太平機場店)

📌 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 3 : รีวิวโรงแรม Dayang Hotel (Harbin Central Street Subway Station Railway Station Branch) 大洋賓館(哈爾濱中央大街地鐵站火車站店)

📌ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 3 : รีวิวโรงแรม Snow Town Yingxuege Inn 雪鄉映雪閣客棧(雪韻大街店)

📌 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 3 : Day 1 ออกเดินทางสู่ Harbin 哈尔滨

📌 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 3 : Day 2 โบสถ์เซนต์โซเฟีย 圣索菲亚教堂(哈尔滨) และ แม่น้ำซงฮวา 松花江

📌 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 3 : Day 3 25th Harbin Ice and Snow World 冰雪大世界

📌 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 3 : Day 4 Go Go to China Snow Town 中国雪乡

📌 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 3 : Day 5 Snow Town 中国雪乡

📌 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 3 : Day 6 Sun Island Ice and Snow Art Exhibition 太阳岛冰雪艺术馆

📌 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 3 : Day 7 Back to Thailand

📌 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 3 : Day 8 กว่างโจว Guangzhou 广州 no plan trip

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : ประสบการณ์การซื้อยา Diamox ที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน

☞ ประสบการณ์ทำเควส "ตรวจสุขภาพ ศูนย์แพทย์พัฒนา" ☜

ประสบการณ์ยื่นขอวีซ่าจีน ด้วยตัวเอง <ก.ย 2561 & ส.ค 2562>