ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 3 : บทนำ การเดินทาง ค่าใช้จ่าย Harbin in Winter Trip
บทนำ
เที่ยวต่างประเทศครั้งแรกหลังโควิดของเรา
ยังไม่ข้ามกำแพงเมืองจีนสักที ครั้งนี้เราบินไกลถึง
ฮาร์บิน 哈尔滨
อันที่จริงแล้ว ปีนี้ (2023) ไม่ได้ตั้งใจไปไหน
แต่เนื่องจาก วันลาเหลือ และเก็บข้ามปีไม่ได้
ซึ่งหัวหน้าเพิ่งแจ้งมาตอนปลายตุลา เหลือเวลา 2 เดือนในการใช้
เพื่อนเลยส่งทัวร์ต่างๆ มาให้ดู
สุดท้ายมาจบที่ ฮาร์บิน เพราะราคาถูกสุด
แต่ไม่ได้ไปทัวร์นะ
ระดับนี้ ต้องไปเอง 🤩 กับเวลาวางแผนไม่ถึง 2 เดือน 🤣
จริงๆ มีเวลาไม่ถึงเดือนซ้ำด้วย เพราะต้องจองตั๋วเครื่องบิน รร. และทำวีซ่า ให้เสร็จก่อน 1 เดือน
✈️ ตั๋วเครื่องบิน
โดยปกติแล้วราคาตั๋วช่วงโปรจะอยู่ที่ 7,000-9,000 บาท (ไปกลับ)
และอาจจะถูกได้ถึง 4,000 ถ้าเจอโปรแรงๆ
แต่เนื่องจากเราไปกระชั้นชิด เฝ้าดูราคาตั้งแต่ปลายตค. ถึงต้นพย. ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะมีโปรมา
เลยต้องจองก่อน เพราะต้องทำวีซ่า
สุดท้ายได้ตั๋ว China Eastern Airlines มา จองผ่าน Trip.com
ราคาตั๋วเครื่องบินไปกลับ + โรงแรม 2 คืน ประมาณ 18,000 บาท (ต่อคน)
ซึ่งค่าตั๋วน่าจะประมาณ 16,500 บาท เพราะโรงแรมมันตกคืนละ 800 บาท
🏨 โรงแรม
เราพักทั้งหมด 3 โรงแรม
1. โรงแรม Anhang Holiday Hotel (Harbin Taiping Airport) 安航假日賓館 (哈爾濱太平機場店)
เป็นโรงแรมใกล้สนามบิน เนื่องจากเรามาถึงฮาร์บินตอนเที่ยงคืนครึ่ง ยังไม่พร้อมออกไปเผชิญความหนาว
2. โรงแรม Dayang Hotel (Harbin Central Street Subway Station Railway Station Branch) 大洋賓館(哈爾濱中央大街地鐵站火車站店)
เป็นโรงแรมฐานที่มั่นของเรา พักทั้งหมด 2 คืน + 2 คืน
3. โรงแรม Snow Town Yingxuege Inn 雪鄉映雪閣客棧(雪韻大街店)
เป็นโรงแรมที่แพงที่สุดในทริป ตั้งอยู่ใน Snow Town
ซึ่งปีนี้ โรงแรมแพงบรรลัยมาก จากเดิมพันต้นๆ อัพไปเกือบหมื่น
แต่ก็อยากพักที่นี่ เลยยอมจ่าย โชคดีมีส่วนลดของ Trip ช่วย
📝 Visa
ปีนี้ไม่ได้พักอยู่ใกล้ๆ กับศูนย์วีซ่าแล้ว
แต่ก็ยังไปยื่นเองอยู่ดี
มีที่จอดรถให้ เสียชม.ละ 40 บาท
(15 นาทีแรกฟรี แล้วถ้ามีตราประทับด้วยก็จอดฟรีอีก 1 ชม.)
ขั้นตอนการยื่นเปลี่ยนไปจากเดิมค่อนข้างเยอะ และมีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา
แนะนำให้เข้าเว็บไซต์ของวีซ่าจีน แล้วเช็ครายละเอียดดีๆ https://bio.visaforchina.cn/BKK3_EN/
ตอนเรายื่น
มีให้กรอกฟอร์มออนไลน์
ซึ่งรายละเอียดข้อมูลที่ต้องกรอก มันจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
เท่าที่ดูช่วงปลายปี 2023 ก็เปลี่ยนมา 3 รอบแล้ว 😅
แนะนำให้ดูรีวิวและวิธีการกรอกที่เว็บนี้
https://www.freebirdtour.com/18102411/วิธีกรอกแบบฟอร์มขอวีซ่าจีนอย่างละเอียด
สำหรับการกรอกข้อมูลการเดินทาง เนื่องจากเป็น Connecting flight
Arrival, Departure city กับ flight ให้เลือกจุดที่เป็น International flight
อย่างของเราเป็น
BKK-PVG-HRB : arrival กรอกข้อมูลไฟท์ที่ลงเซี่ยงไฮ้
HRB-CAN-BKK : departure กรอกข้อมูลไฟท์ที่ออกจากกว่างโจว
ส่วนแผนการท่องเที่ยว ให้ใส่เป็นชื่อโรงแรม ต่างๆ ที่ไปพักในฮาร์บิน
กรอกเสร็จแล้ว ก็เอาหมายเลขแบบฟอร์ม กับ เลขพาสปอร์ต ไปทำการนัดหมายวันยื่นขอวีซ่า
ไม่สามารถ Walk-In ได้
ตอนไปยื่นขอวีซ่า
เรานัดไว้ 9 โมง
ไปถึงก่อน 8 โมงนิดนึง ก็มีคนมารอคิวแล้ว
อย่าลืมปรินท์ใบนัดมาด้วย
พอถึงเวลาก็จะเรียกเข้าห้องไป
เริ่มต้นจะมีแถวเดียว ทั้งยื่น ทั้งรับ
พอได้รับบัตรคิว ก็จะแยกกันไปตามเคาน์เตอร์
เอกสารหลักๆ เหมือนเดิม
🌟 แบบฟอร์ม (สีหรือขาวดำก็ได้)
🌟 รูปถ่าย (พกไปเผื่อ เพราะถ้ารูปในแบบฟอร์มไม่โอเค หรือไม่ชัด เค้าจะขอรูปจริงด้วย)
🌟 Passport ตัวจริง
🌟 ใบจองเครื่องบิน (ควรระบุชื่อผู้โดยสารให้ครบ)
🌟 ใบจองโรงแรม (ควรระบุชื่อผู้เข้าพักให้ครบ)
เนื่องจากเราเคยขอวีซ่ามาก่อน และดันกรอกข้อมูลนี้ในแบบฟอร์มด้วย เลยต้องเพิ่ม
🌟 สำเนา Passport เล่มเก่า (หน้าที่มีข้อมูล + หน้าที่ติดกัน)
🌟 สำเนา วีซ่า เก่า (หน้าที่แปะวีซ่า + หน้าที่ติดกัน)
และเพื่อนฝากเรายื่น ก็ต้องมี
🌟 หนังสือมอบอำนาจ + สำเนาบัตรประชาชนคนรับมอบอำนาจ
ค่าวีซ่าจ่ายเลย เป็นเงินสด 1,770 บาท
แล้วเค้าจะให้ใบนัดรับเล่มมา (ประมาณ 3 วันทำการค่อยมา)
ช่วงที่ไปทำ ไม่มีให้สแกนลายนิ้วมือ
และเค้ายกเลิกแบบฟอร์มสุขภาพไปแล้ว
ไปต่อคิวก่อน 8 โมง ยื่นเสร็จ 9 โมงครึ่ง เสียค่าจอดรถ 40 บาท
ตอนมารับเล่ม จะมาเวลาไหนก็ได้
ต่อแถวรับคิวเดียวกับที่มายื่นขอวีซ่า ซึ่งจะช้าตรงนี้
แต่พอได้คิว ทุกอย่างจะเร็ว เพราะว่าแยกเคาน์เตอร์กันแล้ว
เราไปตอน 11 โมง ใช้เวลาประมาณไม่ถึงครึ่งชม. ก็ได้เล่มมา
ไม่เสียค่าจอดรถ
หลังจากยื่นได้เดือนนึง
ทางศูนย์วีซ่าก็ประกาศลดค่าธรรมเนียมครึ่งนึง
และก็ให้ Walk-In ได้ด้วย
ล่าสุดปี 2024 เค้าก็จะยกเลิกวีซ่าอีกละ
(ตอนไต้หวันก็ไปทำวีซ่า พอกลับมา ก็ยกเลิกวีซ่าให้ 🙄)
📱ซิม
ไปจีนรอบนี้เราเตรียมซิมไปค่อนข้างเยอะ
🌟 Sim2Fly
เป็นซิมที่ปกติเราใช้ตอนไปต่างประเทศอยู่แล้ว
ที่จีนใช้งานได้ดี ไม่มีปัญหาเน็ตหาย
หลังซื้อมา สามารถลงทะเบียนซิมได้ทันที (มันมีกำหนดด้วยนะ ว่าลงทะเบียนได้ถึงเมื่อไหร่)
แพ็คเกจจะเริ่มเดินเมื่อจับสัญญาณโรมมิ่งในต่างประเทศได้
🌟 Ready2Fly
เนื่องจากเดี๋ยวนี้คนจีนเค้านิยมใช้จ่ายผ่าน Alipay, Wechat Pay กันเป็นส่วนใหญ่ บางที่ไม่รับเงินสดด้วย
เราเลยต้องมีการผูกบัตรเข้ากับ Alipay
ซึ่งก็กลัวว่าเค้าจะมีการขอ OTP เลยสมัคร Ready2Fly มาด้วบ
โดยสมัครก่อนที่เค้าจะเรียกขึ้นเครื่องเลย สมัครเสร็จ ได้ SMS มา ก็เปิด Flight Mode ไว้เลย
พอไปถึงจีนค่อยเปิด Data Roaming แพ็คเกจถึงจะเริ่มเดิน
ซึ่งซิมที่ใช้สมัครเป็นแบบเติมเงินอยู่แล้ว เลยไม่ค่อยกังวลเรื่องเน็ตรั่วเท่าไหร่
🌟 CMLink
อันนี้เป็นของใหม่ เพิ่งลอง
เป็นซิมของ TrueMoveH ดีลกับฝั่งจีน
สามารถซื้อได้ใน Shopee Lazada เลย
แพ็คเกจมีหลายแบบ
แพ็คเกจ 126 บาท
จะได้
ซิมเบอร์ไทย ที่รับสาย+ข้อความได้เท่านั้น
แล้วเราสามารถสมัครขอเบอร์จีนได้ฟรี ใช้บริการฟรี 1 เดือน รับสาย+ข้อความได้เท่านั้น
แพ็คเกจ 279 บาท
จะได้
ซิมเบอร์ไทย ที่โทรเข้าออกได้ + เล่นเน็ตที่ไทยได้ 50 GB + เน็ต Roaming ที่จีนได้ 1 GB + โทรเข้าออกตอนอยู่จีนได้ 100 นาที
แล้วเราสามารถสมัครขอเบอร์จีนได้ฟรี แต่จะเสียค่าบริการรายเดือนเพิ่ม 77 บาทต่อเดือน รับสาย+ข้อความได้เท่านั้น หักจากเงินในซิม ถ้าเดือนถัดไปไม่ใช่ ก็ไม่ต้องเติมเงิน
ซึ่งเราตอนแรกเรางงกับแพ็คเกจ เลยซื้อ 279 มา เลยต้องจ่ายเพิ่ม 77 บาทเพื่อขอเบอร์จีน
จริงๆ ซื้อแค่ 126 ก็ได้ เพราะจะใช้แค่รับ SMS
วิธีการสมัครเบอร์จีน
พอได้ซิมมา ก็ลงทะเบียนซิมให้เรียบร้อย
เค้าจะบอกวิธีการลงทะเบียนมาให้พร้อมกับซิมนั่นแหละ
ลงเสร็จก็เข้าเว็บ https://www.cmlink.com/th/
ไปที่หน้าล็อคอิน https://www.cmlink.com/th/login/
เข้าสู่ระบบด้วย OTP หรือรหัสผ่าน
ตรงเมนูจัดการบัญชีผู้ใช้
คลิกเข้าจะจะเจอ เมนู เชื่อมต่อเบอร์จีน (ถ้าใช้แพ็ค 279 ต้องเติมเงินเข้าไปก่อน 77 บาท)
จะมีเมนูให้เลือกเชื่อมต่อเบอร์จีน หรือเบอร์ฮ่องกง
เลือกเบอร์จีน
แล้วก็มีเมนูย่อย ให้เลือกเชื่อมกับเบอร์ใหม่ หรือเบอร์ที่มีอยู่แล้ว
เราเลือกเบอร์ใหม่
ก็มีเบอร์ขึ้นมาให้เลือก 3-4 เบอร์
กดเบอร์ที่ต้องการ
แล้วก็กด Next
จากนั้นระบบจะให้กรอกข้อมูล Passport ลงไป
ต้องส่งคลิปที่เราถ่ายคู่กับ Passport ไปด้วยนะ
*** ระยะพิจารณาไม่เกิน 5 วันทำการ ***
ใครจะบินด่วน อาจจะได้เบอร์มาไม่ทันใช้นะ
⛄ ตั๋วงาน Ice and Snow Word
ในช่วงแรกของการเปิดงาน (ประมาณ 17-18 ธันวาคม)
ช่วงนั้นคนเข้างานกันเยอะมากกกก ตั๋วหน้างานขายหมดตั้งแต่บ่าย 2
และคิวยาวมาก
เลยมีคนแนะนำให้จองตั๋วผ่านแอพจีน เช่น Meituan Ctrip
ซึ่งต้องใช้เบอร์จีน (เป็นเหตุให้เราซื้อ CMLink มา)
เข้าไปแล้วค้นคำว่า 哈尔滨冰雪大世界
แอพจะเป็นภาษาจีนหมดเลย
ให้ใช้ Google translate ช่วยนะ มันสามารถแปลทั้งหน้าได้
ราคา 328 หยวน
โดยจะให้เลือกวันที่ และเวลาเข้างาน (พอเลือกวันแล้ว เวลามันมีให้เลือกแค่เวลาเดียว)
จากนั้นก็จะไปหน้าระบุจำนวนตั๋ว (จำกัดใบเดียว แต่ซื้อได้หลายครั้ง)
แล้วก็ให้ระบุข้อมูลผู้ซื้อ
โดยเลือกบรรทัดแรกให้เป็น Passport ก่อน
จากนั้นใส่รายละเอียดลงไปหรือถ่ายรูป Passport ไปเลยก็ได้ มันจะดึงข้อมูลมาใส่ทางฝั่งซ้ายให้
ของเราตอนแรกจองผ่าน Meituan
แต่วันที่จะไป ตั๋วหมดแล้ว เลยไปจอง Ctrip แทน
สำหรับ Ctrip มันจะมีให้ใส่ทั้งชื่อภาษาอังกฤษ กับ ภาษาจีน
เราเอาชื่อภาษาอังกฤษไปใส่ Google Translate ก็จะได้ภาษาจีนมา
กดเซฟ
แล้วก็กดชำระเงิน (สามารถขอคืนเงินได้)
พอจ่ายเสร็จก็จะได้เป็น QR Code มา
เอา QR Code ไปสแกนได้เลย
🚌 การเดินทางไป Snow Town
เนื่องจากทริปนี้เรามีออกนอกเมือง 1 วัน คือ ไป Snow Town
การเดินทางหลักๆ มี 3 วิธี
1. รถไฟ ต่อด้วยรถบัส
นั่งรถไฟไปลง Hengdaohezi East
ต่อรถบัส
ราคาประมาณ 1,700 บาท
ใช้เวลา 4 ชม.
2. รถบัส
มีจุดซื้อตั๋วและขึ้นรถ 3 ที่
2.1 สถานี Nangang
2.2 สถานีกระเช้าข้ามแม่น้ำซงฮวา
2.3 สถานีรถไฟ Harbin West Railway Station
ราคา 120 หยวนต่อเที่ยว
ใช้เวลาเดินทาง 6 ชม.
3. รถตู้เอกชน
สามารถขอ Wechat ของคนขับหรือผู้จัดการรถ จากโรงแรมหรือทัวร์หรือเพจเที่ยวจีนได้
มีทั้งแบบมารับที่หน้ารร. และไปที่จุดนัดพบ
ราคา 90-100 หยวนต่อเที่ยว
ใช้เวลาเดินทาง 6 ชม.
4. เหมารถ
ราคาแล้วแต่ตกลง ปกติจะ 3000+ บาท
ใช้เวลาเดินทาง 4 ชม.
💸 Alipay
ตอนนี้คนจีนเค้าไม่นิยมใช้เงินสดกันแล้ว
หลายร้านต้องจ่ายผ่าน App เท่านั้น
เราเลยต้องสมัคร Alipay แล้วผูกบัตรเข้าไป
ก่อนอื่นต้องทำการ Verify ตัวตนก่อน
ให้ไปที่ Account
แล้วกดปุ่ม Setting (มุมขวาบน)
ไปที่ Account and Security
แล้วใส่ข้อมูล Identity Information
ข้อมูลที่ใช้ก็พวก Passport กับรูปถ่าย
** หลังลงทะเบียน ตรง Identity Information ต้องมีคำว่า Verified
จากนั้นกลับมาหน้าแรก
แล้วกดปุ่ม Bank Cards
ใส่ข้อมูลบัตรไป
ของเราใส่บัตร SCB Planet ไม่ได้
แต่ใส่ Master card, JCB, Youtrip ได้
ซึ่งตลอดการเดินทาง
Youtrip เรทถูกสุด
แต่การใช้งานค่อนข้างยุ่งยาก
เพราะมีบางที (หลายที) ที่ต้อง Verify ในแอพก่อน
มันจะวิ่งไปหน้าเว็บ ให้เรากดปุ่ม
แล้วก็สลับไปที่แอพ Youtrip โดยต้อง login หรือใส่ pin ก่อนเข้าแอพ
พอเข้าแอพได้แล้วก็เลื่อนสไลด์หน้าจอเพื่อยืนยันการจ่ายเงิน
จากนั้นก็กลับมาหน้าเว็บที่เปิดจาก Alipay แล้วกด Continue
จบการ Verify
ต่อด้วยจ่ายเงิน
ซึ่ง Step ค่อนข้างใช้เวลา เกรงใจคนข้างหลัง
บางทีระบบของฝั่งรับเงินปิดไปแล้ว แต่ยังจ่ายไม่เสร็จ
ต้องเอา Transaction มายืนยันอีก
โชคดีที่มันเป็นภาษาจีน ไม่งั้นคุยกันยาวววววววว
ส่วนการตัดผ่าน Master card นั้น ไวมาก ไม่ขอ otp ด้วย
ซึ่งก่อนบินเราแจ้งคอลเซ็นเตอร์ของบัตรไว้แล้ว
🔌 ปลั๊ก
เอาปลั๊กแบบสองขาของไทยไปใช้ได้เลย
แต่ถ้าสามขาต้องเตรียมอแดปเตอร์แปลงไปด้วย
📢 แปลภาษา
เตรียมประโยคหรือศัพท์ภาษาจีนไว้ด้วย พวกชื่อสถานที่ต่างๆ
เพราะคนที่นั่น แม้แต่ในสนามบิน ยังหาคนที่พูดภาษาอังกฤษได้ยากเลย
ถึงแม้จะมีแอพแปลภาษาแล้ว
แต่ควรเตรียมแบบกระดาษมาด้วย เผื่อตอนมือถือแบตหมด
🧥 การเตรียมตัว
แนะนำเพจ กลุ่มคนชอบตะลอนเที่ยวเมืองจีน และฮาร์บิน Harbin China
ข้อมูลครบ แอดมินใจดี มีปัญหาทักแชทได้เลย
สิ่งสำคัญที่ต้องระวังในเรื่องการไปฮาร์บินครั้งนี้คือ
🥶 ความหนาว 🥶
เพราะอุณภูมิคือ ติดลบสองหลัก จ้าาาา
ช่วงที่ไปประมาณ -18 จนถึง -22 แต่ RealFeel อาจหนาวได้จนถึง -35 เลยทีเดียว 🥶🥶🥶
แน่นอนว่าอุปกรณ์กันหนาวนั้น สำคัญมากกกกกกกกกกกกกกกกก
และนี่คือการแต่งตัวเพื่อเอาตัวรอดของเรา
🌟 เสื้ออัลตร้าฮีทเทค 2 ตัว เสื้อลองจอนหนาๆ 2-3 ตัว เสื้อไหมพรม เสื้ออัลตร้าไลท์ดาวน์ เสื้อกันหนาวหนาๆ พองๆ กันลม (ต้องกันลม)
🌟 กางเกงเกงอัลตร้าอีทเทค 2 ตัว กางเกงลองจอน 2 ตัว กางเกงสกีบุขนหนาๆ กันลม (ต้องกันลม)
🌟 หมวกไหมพรม ที่ปิดถึงหู หรือ หมวกสกี หรือ หมวกกันน้ำ เพราะอาจจะเจอหิมะ
🌟 ที่ปิดหู
🌟 ผ้าพันคอควรใส่สัก 2 ชั้นแรกเป็นผ้าวูลบางๆ แล้วตามด้วยผ้าพันคอหนาๆ
🌟 หน้ากากอนามัยเป็นแบบหนาๆ ยิ่งดี
🌟 ถุงมือสกีแบบบุขนหนาๆ
🌟 แผ่นแปะร้อน ถุงทรายร้อน แผ่นแปะเท้า
🌟 ถุงเท้าวูลหนาๆ
🌟 รองเท้าเดินหิมะ กันน้ำ
แผ่นร้อนแบบแปะไม่ค่อยช่วยเท่าไหร่ เพราะว่าเสื้อกับกางเกงหนาๆ เอาอยู่
แต่มือนั้นสำคัญมาก เป็นส่วนที่เซนซิทีฟ และบอบบาง
ทริปนี้มือเย็นตลอด เพราะเอาออกมากดกล้อง ต้องพกถุงทรายร้อนไปด้วย
ของเรายัดใส่ในถุงมือไปเลย ถ้าอยู่ไทยอาจจะรู้สึกว่ามันร้อน แต่ไปอยู่นู่น รู้สึกแค่มันอุ่นๆ แต่ก็ช่วยได้เยอะ
อื่นๆ ที่ควรพกไป
🌟 ปากกาจิ้มหน้าจอ แบบที่เป็นปุ่มใสๆ แบนๆ (ไม่ใช่ปุ่มดำๆ นูนๆ)
🌟 สำหรับคนใส่แว่น เตรียมหน้ากากสำหรับคนใส่แว่นไป ที่กันไม่ให้แว่นเป็นฝ้าน่ะ
🌟 ผ้าเช็ดแว่นหรือสเปรย์กันแว่นเป็นฝ้า หรือให้ดี ใส่คอนแทคเลนส์ก็ได้
🌟 ร่ม ไว้กันหิมะ แต่ไม่เห็นคนที่นี่กางร่มนะ
🌟 แบตเตอรี่สำรอง พกไปเยอะๆ เพราะว่าแบตหมดไวมากกก ต้องเสียบไว้ตลอด แต่อย่าใช้ที่ความจุเกิน 20,000 นะ เสี่ยงจะถูกยึด เพราะที่จีนเค้าเข้มงวดมากกกก
🌟 ถ้าต้องนั่งรถเมล์ เตรียมเงินย่อยไว้ด้วย เพราะเค้าไม่รับ Alipay
แล้วอย่าลืมเช็คกระเป๋าเดินทางด้วยนะ
ของเราไม่ได้เดินทางนาน กระเป๋าเก็บไว้ในห้อง 2 ปี
ตอนเอาออกมา ตรงมือจับหักเป็นท่อนๆ เลยจร้าาาาาาา 😱
ต้องสั่งอะไหล่มาเปลี่ยนอีกกก
🚽 ห้องน้ำ
สรุปการเดินทาง
สรุปค่าใช้จ่าย
📌 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 3 : เทศกาลน้ำแข็ง เมืองฮาร์บิน
📌ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 3 : รีวิวโรงแรม Snow Town Yingxuege Inn 雪鄉映雪閣客棧(雪韻大街店)
📌 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 3 : Day 1 ออกเดินทางสู่ Harbin 哈尔滨
📌 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 3 : Day 2 โบสถ์เซนต์โซเฟีย 圣索菲亚教堂(哈尔滨) และ แม่น้ำซงฮวา 松花江
📌 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 3 : Day 3 25th Harbin Ice and Snow World 冰雪大世界
📌 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 3 : Day 4 Go Go to China Snow Town 中国雪乡
📌 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 3 : Day 5 Snow Town 中国雪乡
📌 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 3 : Day 6 Sun Island Ice and Snow Art Exhibition 太阳岛冰雪艺术馆
📌 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 3 : Day 7 Back to Thailand
📌 ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 3 : Day 8 กว่างโจว Guangzhou 广州 no plan trip
อ่านเพลินมากครับ ชอบอะไรที่มันอ่านยาวๆ ไว้อ่านก่อนนอน สถานที่ไปเที่ยวก็สวยมากครับ
ตอบลบขอบคุณมากค่ะ
ลบ