ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : Day 3 "Yading" Shangri-La แห่งสุดท้าย (รูทยาว ทะเลสาบน้ำนมกับทะเลสาบห้าสี)





ข้อมูลเบื้องต้น อุทยานย่าติง (Yading) 亚丁国家保护区

จุดที่น่าสนใจ
 ▶ วัดชงกู่ (Chonggu Temple) 冲古寺
 ▶ ทุ่งหญ้าลั่วหรง (Luorong Pasture) 洛绒牛场
 ▶ ทะเลสาบไข่มุก (Pearl Lake / Zuoma La Lake) 珍珠海
 ▶ ทะเลสาบน้ำนม (Milk Lake) 牛奶海
 ▶ ทะเลสาบห้าสี (Five Color Lake) 五色海


ภูเขาหิมะศักดิ์สิทธิ์
ย่าติง (Yading 亚丁) นั้น จะมี 3 ภูเขาหิมะศักดิ์สิทธิ์ คือ

 ▶ เซียนหน่ายรื่อ (Xiannairi / Shenrezig) 仙乃日
เขาแห่งองค์พระอวโลกิเตศวร ตัวแทนของความเมตตากรุณา
สามารถชมได้ที่ทะเลสาบไข่มุก (Pearl Lake)

 ▶ เซียนโตว๋จื่อ (Xiaruoduoji / Chanadorje) 夏诺多吉
เขาแห่งพระวัชรปาณีโพธิสัตว์ ตัวแทนของพลัง
สามารถชมได้ที่ทุ่งหญ้าชงกู่ (Chonggu Pasture) ใกล้ๆ กับจุดขึ้นรถกอล์ฟ

 ▶ หยางเหมยหย่ง (Yangmaiyong / Jambeyang) 央迈勇
เขาแห่งพระมัญชุศรีโพธิสัตว์ ตัวแทนของปัญญา
สามารถชมได้ที่ทุ่งหญ้าลั่วหรง (Luorong Pasture)
แต่ถ้าอยากชมใกล้ๆ ต้องไปทะเลสาบน้ำนม


ข้อมูลเบื้องต้น

เวลาทำการ: 
▶  Ticket Center: 06.00 - 17.00
▶  Bus to อุทยาน:
     (26 เมษ. - 4 พย.) ขาไป 07.20 - 17.40
                                  ขากลับ 09.00 - 19.30
     (5 พย. - 25 เมษ.) ขาไป 08.40 - 16.30
                                  ขากลับ 10.10 - 17.40
▶  Electric Car to ทุ่งหญ้าลั่วหรง: 07.30 - 18.30



ค่าตั๋ว
▶ ตั๋วเข้าอุทยาน 146 หยวน ใช้ได้ 2 วัน (แต่เห็นบางรีวิวบอก 3)
▶ รถบัสไปกลับ 120 หยวน ใช้ได้ 1 วัน
▶ ส่วนวันที่ 2 จ่ายเฉพาะค่ารถบัส 60 หยวน
แต่ต้องมีตั๋วเข้าอุทยานของเมื่อวาน พร้อมรูปถ่ายหลักฐานว่าไปอุทยานมาแล้ว




ใช้เวลา
➤ จาก Ticket Center ไปอุทยาน 1 ชม. (40 กิโล)
➤ จากจุดขึ้นรถกอล์ฟไปทุ่งลั่วหรง 15 นาที
➤ เดินรูทสั้น 3-5 ชม.
➤ เดินรูทยาว 6-10 ชม.




การเดินทางในอุทยาน
จาก จุดจอดรถบัส เดิน(ขึ้นเนิน)ต่อไปประมาณ 400 เมตร ลานกว้างหน้าวัดชงกู่
เป็นจุดที่ต้องเลือกว่าจะไปรูทสั้น (ทะเลสาบไข่มุก) หรือ รูทยาว (ทะเลสาบน้ำนม+ห้าสี)


แผนผังการเดินทางในอุทยาน ด้านบนจะเป็นรูทสั้น ด้านล่างจะเป็นรูทยาว

จากที่จอดรถบัสมาวัดชงกู่


เส้นที่ 1 รูทยาว
ระยะทางไปกลับประมาณ 12 กิโลเมตร ปกติใช้เวลาไปกลับ 7-8 ชม.

▶  ทุ่งหญ้าชงกู่ Choggu
ระยะทาง 500 เมตร จากจุดจอดรถบัส
อยู่ใกล้กับวัดชงกู่ และบริเวณจุดขึ้นรถกอล์ฟ

ทุ่งหญ้าลั่วหรง (Luorong Pasture) 洛绒牛场
ระยะทาง 7 กิโล จากวัดชงกู่
สามารถนั่งรถกอล์ฟไปได้ ในราคาเที่ยวเดียว 50 หยวน หรือไปกลับ 80 หยวน ใช้เวลา 15-20 นาที

ทะเลสาบน้ำนม (Milk Lake) 牛奶海
ระยะทาง 5 กิโล จากทุ่งหญ้าลั่วหรง
มีม้าให้นั่ง แต่แพงมาก ไปกลับน่าจะประมาณ 500 หยวนและไปไม่ถึงทะเลสาบน้ำนม

ทะเลสาบห้าสี (Five Color Lake) 五色海
ระยะทาง 450 เมตร จากทะเลสาบน้ำนม แต่ค่อนข้างชัน







เส้นที่ 2 รูทสั้น
ระยะทางไปกลับประมาณ 3 กิโลเมตร ปกติใช้เวลาไปกลับ 2-3 ชม.

▶  วัดชงกู่ (Chonggu Temple) 冲古寺
ระยะทาง 600 เมตร จากจุดจอดรถบัส

ทะเลสาบไข่มุก (Zuoma La Lake) 珍珠海
ระยะทาง 1.5 กิโล จากวัด






ปล. ระยะทางคร่าวๆ เราคาดคะเนเอาจากป้ายบอกทางที่เจออีกที


รอบรถ
26 เม.ย - 4 พ.ย. : รถกอล์ฟหมด 18.30 น. และรถบัสหมด 19.30 น.
5 พ.ย. - 25 เม.ย. : รถกอล์ฟหมด 17.00 น. และรถบัสหมด 17.40 น.



เริ่มการเดินทางกันดีกว่า!

20/10/2019
วันนี้เรานัดคนขับรถของเราให้มารับประมาณ 6 โมงเช้า
เพราะเรากะว่าจะไปให้ตั้งแต่เคาน์เตอร์เปิด

06.15 ออกเดินทางจากโรงแรม
ไปถึง Ticket Center ประมาณ 06.30
ใต้อาคารมีที่จอดรถ

หลังจากนั้นก็เดินขึ้นบันไดไปยังชั้นบนสุด
จริงๆ มีลิฟต์นะ ถ้ามันเปิดก็ขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนสุดได้เลย




พอขึ้นมาถึงชั้นบน
ให้เดินตรงต่อไปยังอาคารที่อยู่ด้านใน
ตรงมาเรื่อยๆ ผ่านกำแพงไป ก็เข้าเลี้ยวขวา





จากนั้นมองหาเคาน์เตอร์ทางซ้ายมือ

ตอนซื้อตั๋วเราไม่ได้ใช้ Passport นะ
ค่าตั๋ว 266 หยวน
เป็นค่าเข้าอุทยานกับค่ารถบัสวิ่งเข้าด้านในอุทยาน






ซื้อตั๋วเสร็จแล้ว ก็เดินออกไปจากอาคาร
แล้วเลี้ยวซ้ายไปยังจุดจอดรถบัส

เนื่องจากมันยังมืดอยู่
มองไม่ค่อยเห็นอะไรเท่าไหร่



จากตรงนี้ เดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ
แต่บางจุดมันมีบันไดเลื่อน อย่าลืมใช้บริการ เซฟแรงไว้หน่อย





พอไปถึงหน้าอาคารจอดรถบัส
เดินขึ้นไปด้านบน แล้วเลี้ยวซ้าย
จะมีจุดตรวจตั๋ว
เอา QR Code บนตั๋วแตะที่เครื่อง แล้วเข้าไปด้านใน



จากนั้นก็เดินไปยังจุดจอดรถบัส
อย่าลืมถ่ายรูปตั๋วกับรถบัสไว้ด้วย




ตอนนั่งรถบัส แนะนำให้นั่งฝั่งซ้ายนะจ๊ะ
จะมองเห็นวิวได้ดีกว่า







รถขับมาได้สัก 45 นาที จะมาถึงหมู่บ้านย่าติง
(หมู่บ้านในเขตอุทยาน)



มีแวะจอดรับคนเป็นบางจุด

รถวิ่งต่ออีกประมาณ 15 นาที
ก็มาถึงจุดจอดรถบัส สถานีย่าติง



ลงจากรถมา น่าจะเกือบๆ 8 โมงเช้า
อากาศหนาวมากกกกกกกกกกกกก
มือเย็นจนจะแข็งอยู่แล้ว
อากาศตอนนี้ อยู่ที่ -3 องศา




เริ่มการเดินทางได้
เส้นทางเดินช่วงที่ 1 (เราแบ่งเอาเอง)
เป็นเส้นทางจากจุดจอดรถบัส ไปถึง ลานกว้างหน้าวัดชงกู่

ซึ่งจากตรงนี้ จะต้องเดินขึ้นเนินไปเรื่อยๆ ประมาณ 400 เมตร
จะเจอจุดทางแยกและเป็นลานกว้างที่มองเห็นวัดชงกู่

ระหว่างทางสามารถมองเห็นภูเขาเซียนหน่ายรื่อ และเซียนโต่วจื่อ ได้


เซียนโตว๋จื่อ

เซียนหน่ายรื่อ

ลานหน้าวัดชงกู่









เนื่องจากวันนี้เราจะไปเดินรูทยาวกัน
ก็ต้องเดินต่อไปอีกนิด (ไม่ข้ามสะพานไปวัดชงกู่)
จะเจอเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วรถกอล์ฟ
ซื้อตั๋วที่นี่ก่อน 80 หยวน (ราคาไปกลับ ถ้าเที่ยวเดียวน่าจะ 50 หยวน)







หรือถ้าใครมีแรง ก็เดินจากตรงนี้ ไปจนถึงทุ่งลั่วหรงเลยก็ได้
ระยะทาง 7 กิโลเมตร 




แต่เราไม่น่าไหว เซฟแรงไว้ดีกว่า
สำหรับใครที่อยากเดินจริงๆ เอาไว้จบรูทสั้น แล้วมีแรงและเวลาเหลือค่อยมาเดินก็น่าจะได้



รถกอล์ฟใช้เวลา 15 นาที
ไปถึงทุ่งลั่วหรง




จากจุดจอดรถ เดินลงบันไดมา
จะเป็นทางเดินไม้ รอบๆ ทุ่ง

ต่อไปเป็นเส้นทางเดินช่วงที่ 2
จากจุดจอดรถกอล์ฟ ไปยัง ฝั่งตรงข้าม

ซึ่งต้องเดินลัดเลาะทุ่งหญ้าไปตามทางเดินไม้ เป็นระยะทางประมาณ 700 เมตร







เมื่อมาถึงอีกฝั่ง
ก็เข้าสู่เส้นทางเดินช่วงที่ 3
เป็นทางเดินไม้ ที่ลัดเลาะริมทุ่งหญ้า ไปเรื่อยๆ ประมาณ 500 เมตร

วิวสวยมากกกกกกกกกกกก
อากาศเริ่มอุ่นขึ้น หลังจากพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว

ช่วงนี้เดินสบายๆ หน่อย
มีเหนื่อยบ้างตรงช่วงที่ต้องเดินขึ้น




ทุกๆ จุดสามารถเป็นจุดชมวิว ได้หมด




เมื่อสิ้นสุดทางเดินไม้
ก็จะเข้าสู่เส้นทางเดินช่วงที่ 4
จากจุดสิ้นสุดทางเดินไม้ ไปยัง น้ำตกขนาดเล็ก
ระยะทางประมาณ 1 กิโล



เป็นทางเดินป่าธรรมดา
แต่ทางเดินจะชันกว่าเดิม
ใครเดินไม่ไหว เค้าก็มีม้าให้ขี่ แต่ราคาแพงมาก



เดินไปสัก 1 กิโล จะถึงจุดชมวิวน้ำตกเล็กๆ
ซึ่งทางขึ้นค่อนข้างชัน แต่วิวสวยมากกกกกก






เส้นทางเดินช่วงที่ 5
จากน้ำตก ไปยัง บึงน้ำใส ระยะทางปะมาณ 300 เมตร

เป็นทางเดินสั้นๆ
เดินลงจากจุดชมวิวน้ำตกไปเรื่อยๆ จะเจอลานชมวิว

ด้านหน้าจะเป็นบึงขนาดใหญ่
มองเห็นภูเขาหยางเหมยหยง สะท้อนน้ำ

น้ำใสมากกกกกก
และที่สำคัญ วิวสวยมากกกกกกกกกกกกกกกกก








เข้าสู่เส้นทางเดินช่วงที่ 6
จากบึงน้ำใส ไปยัง ลานไม้
ระยะทางประมาณ 1 กิโล

เป็นทางเดินป่า ที่แคบกว่าเดิม ชันกว่าเดิม และถนนขรุขระมากขึ้น
ต้องระวังขบวนม้าที่จะสวนทางกับเราด้วย




เริ่มขึ้นเนินบ่อยขึ้น
และบางจุดก็เดินขึ้นค่อนข้างชัน

ความรู้สึกตอนเดินขึ้น
คือเหนื่อยมากกกกกกกกกกกกกกก
หอบแฮ่กๆ

เดินขึ้นได้ 4-5 ก้าว พัก
สูดอ๊อกซิเจนเป็นช่วงๆ

ถามว่าช่วยได้มั้ย???
ตอบ มันช่วยให้รู้สึกดีตอนสูดเข้าไปอ่ะ
เวลาเหนื่อย พอสูดแล้วรู้สึกหายใจสะดวกขึ้น
แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ช่วยอะไรอีกแล้ว เดินขึ้นอีกก็หอบเหมือนเดิม




ในที่สุดก็เดินมาถึงลานไม้ ที่เป็นจุดพักเหนื่อยของนักท่องเที่ยวหลายๆ คน
บริเวณนี้จะมีนักท่องเที่ยวมาพักทานอาหารกันเยอะมา




เราตัดสินใจแวะพักทานข้าวกลางวันที่นี่เช่นกัน
เพราะเส้นทางต่อจากนี้ไป มันทรหดกว่าเดิมเยอะเลย

มาลองกินข้าวกล่องแบบอุ่นอัตโนมัติดูบ้าง
วิธีทำ
- แกะพลาสติกด้านนอกออก แกะกระดาษบนฝาออก เพราะมันจะมีรูระบายไอน้ำ
- ในกล่อง จะมีช้อนมาให้ ปลายช้อนมีเขี้ยวเล็กๆ ทำหน้าที่เป็นมีดได้ ซองกับข้าว ซองอุ่นร้อน (หน้าตาเหมือนซิลิก้าเจล) ซองน้ำเปล่า
- ฉีกซองของส่วนที่เป็นข้าวออก ด้วยใบมีดตรงปลายช้อน
- ยกส่วนที่เป็นถาดข้าวออก วางซองอุ่นร้อนไว้ชั้นล่างสุดของกล่อง
- ฉีกซองน้ำเปล่า และเทน้ำลงบนซองอุ่นร้อน
- วางถาดข้าวทับลงไป ตรงนี้เห็นบางคน ฉีกซองกับข้าวเทราดลงบนข้าวเลย แต่เราดูตามวิธีข้างกล่อง มันให้วางใต้กล่อง แล้วค่อยเทบนข้าวหลังจากข้าวสุกแล้ว
- สักพักจะเริ่มมีไอน้ำออกมาตรงๆ รูๆ เอามาเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายได้ แต่! มันร้อนจริงๆ นะ ควรสัมผัสอย่างระมัดระวัง
- รอทิ้งไว้ประมาณ 8-10 นาที ขึ้นอยู่กับชนิดของอาหาร (จะมีตัวอักษรเขียนว่าต้องทิ้งไว้กี่นาที) หรือรอจนกว่าไอน้ำจะหมด
- พอครบกำหนด ก็เปิดฝาออก ฉีกซองกับข้าวเทลงไป กินได้เลยจ้า






รสชาติ ไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่ แถมไม่ค่อยตรงปก
หนักมาก เป็นภาระสุดๆ

ถ้าเป็นไปได้ ซื้อไข่ต้ม ขนมหรือผลไม้มากินแทนดีกว่า

เมื่อเราพักกันจนหายเหนื่อย
ก็เริ่มเดินต่อ

เดินทางต่อในเส้นทางเดินช่วงที่ 7
จะเป็นบันไดทางขึ้น ไต่ริมเขาไปเรื่อยๆ ประมาณ 500 เมตร
ความชัน 45-60 องศาได้

จากนี้เป็นทางขึ้นเขายาวๆ ไปเลย
มีเชือกให้จับ พอผ่อนแรงได้บ้างนิ๊ดดดดดดดดดดนึง













เมื่อสื้นสุดทางขึ้นเนิน

เข้าสู่เส้นทางเดินช่วงที่ 8 แล้ว
ตรงนี้จะเป็นทางแยกให้เลือกว่า จะไปทะเลสาบน้ำนมหรือทะเลสาบห้าสีก่อน




ถ้าตรงไปจะเป็นทะเลสาบน้ำนม
ถ้าเดินขึ้นเขาไป จะเป็นทางไปทะเลสาบห้าสี

แต่เนื่องจากช่วงที่เราไป มีข่าวว่าทะเลสาบน้ำนมปิด 15.00
เราเลยไปทะเลสาบน้ำนมก่อน

จากตรงนี้จะเป็นทางเดินที่ค่อนข้างเรียบ มีขึ้นบันไดบ้าง แต่ไม่เยอะ
แต่ ความเหนื่อยไม่ได้น้อยลงไปเลย

ระยะทางประมาณประมาณ 1 กิโลเมตร ที่ไกลโครตๆ









จนในทีสุดเราก็มาถึงทะเลสาบน้ำนม (Milk Lake) 牛奶海

"ชั้นมาทำไมที่นี่ "
เป็นเสียงตะโกนในใจทันทีที่มาถึงทะเลสาบ
มันเหนื่อยแทบขาดใจเลยทีเดียว

แต่ทะเลสาบใหญ่ และสวยดี
เวลาแสงส่องมากระทบทะเลสาบ มันดูสวยมากกกกกกก
แต่เรามองไม่ออกว่าเป็นน้ำนมยังไง 555






ขณะนี้เวลาประมาณ 15.00 แล้ว
ยังไม่เห็นมีเจ้าหน้าที่มาห้ามไม่ให้เข้าทะเลสาบน้ำนม
และก็ยังเห็นคนทยอยมากันเรื่อยๆ อยู่

เราตัดสินใจจะเดินไปทะเลสาบห้าสีต่อ แม้จะไม่ค่อยมีแรงแล้วก็ตาม

เส้นทางเดินช่วงที่ 9
ทะเลสาบน้ำนม -  ทะเลสาบห้าสี

จากตรงนี้ เดินย้อนกลับไป ไม่ไกลจากทะเลสาบน้ำนม
จะมีทางขึ้นไปทะเลสาบห้าสีอยู่ทางซ้ายมือ

ซึ่งตรงนี้ จะชันน้อยกว่าตรงทางแยก
ทางเดินค่อนข้างดี
มีเชือกให้จับ

ระยะทาง 450 เมตร ใช้เวลาเดินขึ้นเกือบ 45 นาที






พอมองทะเลสาบน้ำนมจากมุมสูงแล้ว มันเป็นสีฟ้าอ่อนๆ เหมือนน้ำนมจริงๆ นั่นแหละ







เดินมาเกือบ 1 ชม. ในที่สุดก็มาถึงทะเลสาบห้าสี (Five Color Lake) 五色海
มิชชั่นเกือบคอมพลีสแล้วววววววววว
เหลือแค่รอดตายกลับไปก็พอ

จากตรงนี้  มองเห็นทะเลสาบห้าสีเป็นหลายๆ สี แต่ก็ไม่ถึง 5 สีสักที
พยายามเดินไปดูหลายๆ มุม เท่าที่เดินไหว
แตไม่ลงไปด้านล่างนะ เพราะไม่มีแรงเดินกลับขึ้นมาแล้ววววววววววววววว







บริเวณรอบๆ จะมีธงมนต์ประดับอยู่



วิวด้านหลังทะเลสาบก็สวยใช่ย่อย



เวลา 16.30 เราก็เดินทางกลับ
โดยขากลับ จะเดินไปอีกทาง
ซึ่งจะใช้เส้นทางชันๆ ที่เราเห็นครั้งแรกตรงสามแยก

จากตรงนี้ ยังไม่เจอทางลง
ต้องเดินต่อไปเรื่อยๆ น่าจะเกือบ 500 เมตรนั่นแหละ




ระหว่างทางจะเห็นทะเลสาบอีกแห่งหนึ่งคู่กับทะเลสาบห้าสี



ถัดจากทะเลสาบนี้ไป จะเจอทางลงแล้ว
ระยะทางลงน่าจะประมาณ 300 เมตร

ทางลงชันมากกกกกกกกก
มีที่จับเฉพาะช่วงแรกๆ




แล้วตอนนี้ ลมแรงโครตๆๆๆๆ
กลัวร่วงตกลงไปมาก

แล้วคือ ตาโดนลม แสบมาก น้ำตาไหลพรากๆๆๆๆ
หาทิชชู่มาเช็ดแทบไม่ทัน

ตอนเดินลงนี่ลำบากลำบนมาก
แถมช่วงท้ายๆ ยังไม่มีที่ให้จับอีก

มันยากเพราะชัน กับลมแรงเนี่ยแหละ
ไม่ได้รู้สึกเหนื่อยหรือเจ็บขานะ




หลังจากเดินลงมาอย่างทุกลักทุเล

ต่อไปก็เป็นทางเดินลงแบบที่เป็นไม้ และมีเชือกจับแล้ว
ทางลงตรงนี้สบายมาก
แทบจะวิ่งลงไปเลย




ไม่นานเราก็มาถึงลานไม้ ที่เราพักกินข้าวกลางวันกัน
เราพักตรงนี้แป๊บนึง ตอน 17.30

แล้วก็เดินต่อ
ตรงนี้จะมีทางขึ้นๆ ลงๆ สลับกันไป

ตรงไหนขึ้นเนิน ก็หอบแดกเหมือนเดิมจร้าาาาาาาา
ใช้เวลาเดินประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ
เพราะเดินไป พักไป

ตอนนี้ 18.30 แล้ววววววววววว
ยังไม่ถึงทางเดินไม้ตรงลั่วหรงเลย





จากข้อมูลบอกว่ารถกอล์ฟมันหมด 18.00
แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวอยู่บ้างประปราย




แต่ที่สังเกตได้คือ
ที่นี่ ไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำการเลย
ไม่มีคนมาไล่นักท่องเที่ยว
ไม่มีคนมาเก็บตกนักท่องเที่ยว
แล้วเค้าจะรู้ไหมนะ ว่ามีนักท่องเที่ยวบางคนหลงเหลืออยู่

ถ้าตกรถ นี่ซวยแน่ๆ

แต่เราส่งพี่เปิ้ลล่วงหน้าไปแล้ว พี่เค้าเดินเก่งกว่า คาดว่าจะไปดูลาดเลาไว้ให้แล้ว (เชื่อมั่นสุดๆ)

ในที่สุดเราก็มาถึงทางเดินไม้ที่ลั่วหรง
ระหว่างทางก็เจอกวางบ้าง เจอม้าบ้าง




ม้าแม่งเบียดจนจะตกทุ่งอยู่แล้ว

ตรงทางเดินไม้
น่าจะเดินแบบสบายๆ เพราะมีทางขึ้นลงไม่มาก



แต่ แต่ ด้วยความเหนื่อยที่สะสมมา ตอนนี้กระเป๋ามันหนักมาก
ไม่รู้มันหนักขึ้นได้ยังไง
รู้แต่อยากขว้างกระเป๋าทิ้งไว้ที่นี่มาก

เดินลากขาเลย เพราะว่าเหนื่อย และเริ่มหิวแล้ว
ฟ้าก็เริ่มมืด

เราเริ่มมองรถกอล์ฟ ที่ค่อยๆ ทะยอยออกจากจุดจอดไปทีละคัน ทีละคัน อย่างลุ้นระทึก
เหมือนค่อยๆ ตัดความหวังเราทิ้งไปเรื่อยๆ ฮือออออออ
จะมีรถเหลือไว้สำหรับเรามั้ยน้าาาาาาาาาาาาาาา
(คืออยู่ในระยะที่มองเห็น แต่ยังเดินไปไม่ถึง)

จนในที่สุดเราก็มาถึงจุดจอดรถกอล์ฟ
ในเวลาประมาณ 19.15

มีเสียงคนตะโกนว่า สวัสดีครับบบบบบบบบ ซึ่งเป็นคนจีน
และเสียงพี่เปิ้ลตะโกนเรียก
แปลว่า เค้าคุยกันเรียบร้อยแล้วแน่ๆ

นอกจากเราแล้วก็มีคนจีนอีก 2-3 คนเดินมาถึงพร้อมๆ กัน
ได้ขึ้นรถคันสุดท้ายพอดี

รถวิ่งไปถึงด้านบนของจุดจอดรถกอล์ฟขามา
แล้วต้องเดินต่อไปเอง

แต่ภายในอุทยานคือ ปิดไฟหมดแล้ว
ต้องใช้ไฟมือถือส่องทาง
ไปจนถึงจุดที่เราลงรถบัสตอนเช้า



แต่เราไม่เห็นรถบัส
อ่าวววว เวงกำ จะได้กลับไหมเนี่ยยยย

สักพักก็มีคนขับรถมาพูดอะไรสักอย่าง เหมือนเป็นรถที่ไปส่งคนในหมู่บ้าน
พอดีมีคนที่นั่งรถกอล์ฟมากับเราเป็นคนจีน และเค้าพักที่รื่อหว่า
พี่เปิ้ลเลยไปคุยกับเค้า แล้วก็ได้ความว่ารถบัสที่สจอดรออยู่ไปส่งถึงรื่อหว่า

แต่ก่อนอื่นต้องเดินจากตรงนี้ลงไปประมาณ 100 เมตร

พอได้นั่งบนรถปุ๊บ
โล่งใจมาก

คนขับขับเร็วมากคร่าาาาาา
แล้วเปิดเพลงในศาลเจ้าจีนไปด้วย
เหมือนได้สวดมนต์ไปตลอดทาง

ระหว่างทางก็แชทกับโรงแรม ที่เราต้องไปพัก (ต้องย้ายจาก No.9 ไปคืนนึงก่อน)
เค้าดูเป็นห่วงเรามาก เพราะตอนแรกเพื่อนเราบอกเค้าว่ามาจากแชงกรีล่า
แล้วนี่ 2 ทุ่มแล้ว ยังไม่ถึงโรงแรม

เราเลยต้องบอกว่า เพื่อนบอกผิด เราเพิงมาจากย่าติงจะขอเช็คอินช้า
ซึ่งเค้าก็โอเค

รถบัสขับมาได้ 1 ชม. ก็มาถึงหน้าทางเข้าอุทยาน
โชคดีที่รถบัสมาจอดด้านล่าง ใกล้ๆ กับลานจอดรถ
และเราก็เจอคนขับรถของเรารออยู่พอดี

คนขับรถพาเราไปที่ No.9 เพื่อย้ายของไปอีกรร.
เราขอฝากกระเป๋าลากไว้ใบนึง เพราะเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ต้องกลับมาเช็คอินใหม่ โดยมีพี่เปิ้ลเป็นคนไปคุยให้
ซึ่งเจ้าของโรงแรมก็โอเค

จากนั้นคนขับก็พาไปส่งที่โรงแรม Xiangyue Shenghu Inn
ดูรีวิวโรงแรมได้ที่นี่ > รีวิวโรงแรม Xiangyue Shenghu Inn 稻城亚丁相约圣湖客栈 @Riwa
และเพิ่งรู้ว่าโรงแรมนี้ อยู่เยื้องๆ กับโรงแรมพี่เปิ้ลเลย

เช็คอินเรียบร้อย
ก็ขึ้นไปเก็บของบนห้อง

จากนั้นก็มากินหม้อไฟ (อีกแล้ว)
ที่ร้านข้างๆ โรงแรม




ด้วยความเหนื่อย เลยสั่งของมาแบบอลังการมาก
หมดไป 460 หยวน

ตอนนี้เวลา 5 ทุ่มแล้ว
กำลังจะเดินไปซื้อของที่มินิมาร์ท
แต่พอเดินผ่านหน้าโรงแรม ปรากฎว่า ......  มันปิดดดดดดดดดดดดดดด
ประตูปิด และไฟด้านในก็ปิดด้วยยยย
อ้าวววววววววววว

รีบเคาะประตูเลย
โชคดี มีคนมาเปิดให้
เลยไม่ไปแล้วจ้า มินิมาร์ทอะไรนั่น เดี๋ยวชั้นเข้าห้องไม่ได้อีก

ที่โรงแรมมีน้ำเปล่าขายพอดี
เลยซื้อน้ำที่โรงแรม
แล้วก็ขึ้นไปนอนดีกว่า


ค่าใช้จ่ายประจำวันต่อคน

ค่าอาหาร
- ค่าข้าวเย็น 117 หยวน

ค่ากิจกรรม
- ค่าเข้าอุทยาน+รถบัส 266 หยวน
- ค่ารถกอล์ฟ 80 หยวน

ค่าจิปาถะ
- ค่าน้ำเปล่า 2 หยวน

รวม 465 หยวน






ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง



รีวิวที่เที่ยว

➤ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : Day 0-1 มุ่งสู่แชงกรีล่า [Shangri-La 迪庆香]

➤ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : Day 2 มุ่งสู่รื่อหว่า [Riwa 日瓦乡]

➤ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : Day 3 "Yading" Shangri-La แห่งสุดท้าย (รูทยาว ทะเลสาบน้ำนมกับทะเลสาบห้าสี)

➤ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : Day 4 "Yading" Shangri-La แห่งสุดท้าย (รูทสั้น ทะเลสาบไข่มุก)

➤ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : Day 5 กลับสู่แชงกรีล่า [Shangri-La 迪庆香]

➤ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : Day 6 ภูเขาหิมะสือข่า [Shika Snow Mountain 石卡雪山] & วัดซงจ้านหลิน [Songzanlin Monastery 颂赞林寺]

➤ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : Day 7 มุ่งสู่ลี่เจียง [Lijiang 丽江] เดินไปกินไปในเมืองโบราณ

➤ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : Day 8 ภูเขาหิมะมังกรหยก [Jade Dragon Snow Mountain 玉龙雪山]

➤ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : Day 9 มุ่งคุนหมิง [Kunming 昆明]

➤ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : Day 10 กลับเมืองไทย





รีวิวโรงแรม

➤ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : รีวิวโรงแรม Home Away From Home 香格里拉古城远方的家客栈 @Shangri-La

➤ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : รีวิวโรงแรม No.9 Space Capsule Youth Hostel 九号太空舱青年旅社 @Riwa

➤ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : รีวิวโรงแรม Xiangyue Shenghu Inn 稻城亚丁相约圣湖客栈 @Riwa

➤ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : รีวิวโรงแรม Riverside Qiji Guesthouse 丽江宝祥居客栈 @Lijiang

➤ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : รีวิวโรงแรม The Hump Hostel 驼峰客栈 @Kunming





รีวิวอื่นๆ

➤ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : สรุปการเดินทาง และค่าใช้จ่ายทั้งหมด

➤ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : จิปาถะ การเดินทาง และที่เที่ยวอื่นๆ

➤ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : ประสบการณ์การซื้อยา Diamox ที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน

➤ ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : ว่าด้วยห้องน้ำจีน


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 2 : ประสบการณ์การซื้อยา Diamox ที่โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน

☞ ประสบการณ์ทำเควส "ตรวจสุขภาพ ศูนย์แพทย์พัฒนา" ☜

ประสบการณ์ยื่นขอวีซ่าจีน ด้วยตัวเอง <ก.ย 2561 & ส.ค 2562>