ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 4 : Day 4 จิ่วจ้ายโกว Jiuzhaigou 九寨沟风景区 #1
Day 4 จิ่วจ้ายโกว Jiuzhaigou 九寨沟风景区 #1
29/10/2567
วันแรกของการเข้าอุทยาน Jiuzhaigou
วันนี้ตื่นเช้ามากกกก เพราะตั้งใจว่าจะไปให้ถึงทางเข้าอุทยานประมาณ 6.30
ร้านอาหารที่ชั้นล่างของโรงแรมเปิดกันหลายร้านแล้ว
จริงๆ โรงแรมห่างจากทางเข้าอุทยานประมาณ 1 กิโล เดินไปก็ได้ แต่อยากเซฟขาไง ต้องเดินอีกเยอะ
เลยพยายามเรียก Taxi ผ่าน Didi แต่ไม่รอด ระบบอืดมาก
พอดีมี Taxi ผ่านมาจอดถาม ทั้งๆ ที่มีคนนั่งมาในรถอยู่แล้ว
ก็เลยบอกว่า จิ่วจ้ายโกว
คนขับก็เรียกขึ้นรถเลย
ไปก็ไปค่ะ แชร์รถ แต่ไม่แชร์ค่ารถนะ
นั่งไปแป๊บเดียวก็ถึง
ค่า Taxi วันนี้คือ 10 หยวน (2 คน)
จิ่วจ้ายโกว
Jiuzhaigou
九寨沟风景区
จิ่วไจ้โกว เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ A5 ของจีน และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติโดย UNESCO เมื่อปี ค.ศ. 1992
จิ่วจ้ายโกว หมายความว่า ธารน้ำเก้าหมู่บ้าน เนื่องจากในสมัยก่อนมีหมู่บ้านของชาวทิเบตอยู่ 9 หมู่บ้าน ภายในพื้นที่ อุดมไปด้วยทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามและมีความหลากหลาย จนเรียกได้ว่าเป็น สวรรค์บนดิน
มีสุภาษิตจีนกล่าวไว้ว่า
"九寨归来不看水,黄山归来不看山"
ไปจิ่วจ้ายโกวกลับมา จะไม่มองน้ำที่ไหนอีก ไปหวงซานกลับมา ก็จะไม่มองเขาที่ไหนอีกเลย
ค่าเข้า + รถบัส
ช่วงพีค 280 หยวน ( ค่าเข้า 190 + รถบัส 90 )
ช่วงอื่น 160 หยวน ( ค่าเข้า 80 + รถบัส 80 )
เวลาทำการ
ช่วงพีค 07.30 - 19.00
ช่วงอื่น 08.30 - 17.00
*** เวลาทำการอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง
เมื่อลงจากรถ Taxi ก็เดินตามคนอื่นเข้าไปอุทยาน
เราซื้อจาก Trip.com มาแล้ว จึงไม่ต้องแลกตั๋วอีก
โดยซื้อไว้ 2 วัน เวลาซื้อก็ซื้อแยกของแต่ละวันเลย ไม่มีราคาพิเศษ
แต่ถ้าเป็นนอกช่วงพีค จะสามารถซื้อตั๋ววันที่ 2 ในราคาที่ถูกลงได้
ทางเข้าจะมีทางเข้าชั้น 1 กับชั้นบน
ซึ่งเราไม่รู้อะไรเลย ก็เลยเดินไปที่ชั้น 1
ชั้นนี้จะมี ตู้ขายอาหาร/น้ำ ล็อคเกอร์ ห้องน้ำ
เดินไปจนสุดทาง จะเจอช่องสแกนบัตร ซึ่งยังไม่เปิดและไม่มีคิวเลย
ไอ้เราก็หลงดีใจ จะได้เข้าเป็นคนแรกๆ
แล้วก็นั่งรอไปสิ
สักพักรู้สึกแปลกใจ คนส่วนใหญ่เดินไปชั้นบน
พอมีคนมาที่ช่องสแกนด้านหน้าของเรา เจ้าหน้าที่ก็ชี้ไปด้านบน
เลยขึ้นไปดูชั้นบน
แถวยาวเหยียดเลยค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
สรุปเราไปผิดที่สินะ ต้องมารอด้านบนน้าาาาาาาาาาาาาา 😟
เข้าแถวไหนก็ได้ เพราะทุกแถวจะมีเจ้าหน้าที่ประจำเครื่องสแกนอยู่แล้ว
ตอนเราขึ้นมา เป็นเวลา 7 โมงกว่าๆ
พอ 7 โมง 25 นาที ก็เริ่มให้คนสแกนบัตรเข้าไป
ของเรายื่น Passport ให้เจ้าหน้าที่ เค้าจะคีย์เลขเข้าระบบ
ใช้เวลานับจากเริ่มเปิดให้คนเข้าประมาณ 10 นาทีเอง
จากนั้นก็ไปเข้าคิวรอรถบัสอุทยาน
ที่นี่มีรถแบบเหมานะ แต่ราคาค่อนข้างแพง
เป็นเหมือนมินิทัวร์ มีไกด์นำเที่ยว โดยเค้าจะจอดทุกจุด แต่ต้องขึ้นลงรถคันเดิม
แต่ช่วงพีค รถเหมา จะมีเหลือแค่ 20 คัน
ที่เหลือโดนแบ่งเอาไปใช้เป็นรถรับส่งระหว่างอุทยานกับสถานีรถไฟแทน
มาดูแผนที่จิ่วจ้ายโกวกันหน่อยดีกว่า
แผนที่ จิ่วจ้ายโกว
ภายในอุทยาน จะมีลักษณะเป็นรูปตัว Y
ล่างสุดของหางตัว Y จะเป็น ทางเข้าออกอุทยาน
จุดกึ่งกลางของตัว Y จะเป็น Nuorilang Tourist Center 诺日朗中心站
ปลายสุดด้านบนทางฝั่งซ้าย จะเป็น ทะเลสาบยาว Long Lake 长海
ปลายสุดด้านบนทางฝั่งขวา จะเป็น ป่าดึกดำบรรพ์ Primeval Forest 原始森林
เส้นหางตัว Y
จากทางเข้าอุทยาน ขึ้นไปจุดกึ่งกลาง Nuorilang Tourist Center ใช้เวลาประมาณ 15 นาที
จะผ่านทะเลสาบมากมาย มีจุดที่น่าสนใจได้แก่
🌟 Shuzheng Village 樹正寨 เป็นหมู่บ้านในอุทยาน ด้านบนมีจุดชมวิว สามารถมองเห็นวิวทะเลสาบด้านล่างได้ มีของกินและของที่ระลึกขาย เหมือนจะมีบ้านพักด้วย
🌟 Rhinoceros Lake 犀牛海 หรือ ทะเลสาบแรด เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่และสวยมาก รอบๆ มีใบไม้เปลี่ยนสีให้ชม
🌟 Nuorilang Waterfall 诺日朗瀑布 เป็นน้ำตกขนาดใหญ่
จริงๆ มีอีกหลายจุดนะ แต่ถ้าคนมีเวลาน้อยๆ ส่วนใหญ่เค้าจะข้ามหางตัว Y ไป
วิวทะเลสาบจะอยู่ฝั่งซ้าย เวลานั่งรถขึ้นมา พยายามนั่งฝั่งซ้าย
เส้นขาซ้ายของตัว Y
ตั้งอยู่ในบริเวณ หุบเขา Zechawa 则查洼沟
จากจุดกึ่งกลางของตัว Y หรือ Nuorilang Tourist Center ไปทาง Long Lake 长海 ที่อยู่ปลายสุดทางซ้าย ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
จะมีจุดจอดรถแค่ 2 จุด
🌟 Long Lake 长海 หรือ ทะเลสาบยาว เป็นทะเลสาบขนาดใหญ่ ล้อมรอบด้วยหุบเขาสูง
🌟 Five-colored Pond/Multi-colored Pond 五彩池 หรือ สระ 5 สี เป็นสระน้ำขนาดเล็กๆ น้ำใส สีสันสวยงาม เป็นจุดไฮไลท์ของฝั่งนี้
ส่วนทะเลสาบอื่นๆ คนไม่นิยมไปเพราะต้องเดินไกล
ขาขึ้น รถจะจอดส่ง ที่ ทะเลสาบยาว
ขาลง รถจะจอดรับ ที่ สระ 5 สี
วิวทะเลสาบจะอยู่ฝั่งซ้าย เวลานั่งรถขึ้นมา พยายามนั่งฝั่งซ้าย
เส้นขาขวาของตัว Y
ตั้งอยู่ในบริเวณหุบเขา Rize 日则沟
จากจุดกึ่งกลางของตัว Y หรือ Nuorilang Tourist Center ไปทาง The Primeval Forest 原始森林 ที่อยู่ปลายสุดทางขวา ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ตรงฝั่งนี้จะมีทะเลสาบหลายจุด คนจะมาฝั่งนี้ค่อนข้างเยอะ
จุดที่น่าสนใจ ได้แก่
🌟 Arrow Bamboo Lake 箭竹海 หรือ ทะเลสาบไผ่ลูกศร
🌟 Panda Lake 熊猫海 หรือ ทะเลสาบแพนด้า
🌟 Five Flower Lake 五花海 หรือ ทะเลสาบดอกไม้ห้าสี อีกชื่อนึงคือ Peacock Lake (ทะเลสาบนกยูง) เป็นทะเลสาบไฮไลท์ของจิ่วจ้ายโกว ทะเลสาบใสจนเห็นพื้นด้านล่าง มีสีสันสดใส สวยงามราวกับหางของนกยูง
🌟 Mirror Lake 镜海 หรือ ทะเลสาบกระจก เป็นทะเลสาบที่สวยงาม สะท้อนหุบเขาและท้องฟ้าด้านบน ราวกับกระจก ควรมาช่วงเช้าเพราะน้ำจะนิ่งกว่าช่วงอื่นๆ
🌟 Nuorilang Falls 诺日朗瀑布 เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ อยู่ใกล้กับ Nuorilang Tourist Center
(** ควรจัดให้อยู่ในกลุ่ม หางของตัว Y มากกว่า แต่ใน map นี้ มันดันอยู่กลุ่มนี้)
วิวจะอยู่ฝั่งขวา เวลาขึ้นรถมา พยายามนั่งฝั่งขวา
สำหรับรถบัสในอุทยาน
รถบัสในอุทยานจะเป็นแบบ Hop-off คือ เราสามารถนั่งไปลงจุดที่ต้องการ ลงจากรถ เที่ยว และรอขึ้นรถคันต่อไป
รถจะจอดให้ขึ้นลงหลายจุด แต่อาจจะงงๆ หน่อย
ไม่ใช่ทุกจุดที่จะมีป้ายรถบัส
บางจุด ป้ายรถบัส จะไม่ได้อยู่บริเวณเดียวกัน อาจจะต้องเดินออกไปอีกไกลหน่อย ถึงจะเจอป้าย
บางจุด ป้ายรถบัสขาขึ้นและขาลงไม่ได้อยู่ตรงข้ามกัน
บางจุด มีป้ายรถขาขึ้นอย่างเดียว
บางจุด มีป้ายรถขาลงอย่างเดียว
สำหรับการนั่งรถจากทางเข้าอุทยานขึ้นไป
ในแต่ละช่วงเค้าก็จะมีการจัดการที่แตกต่างกันไป
อย่างเมื่อก่อน มีคนบอกว่า จะขึ้นรถไปเที่ยวฝั่งไหน ให้ดูหน้ารถเพื่อเลือกจุดหมายที่จะไปได้
รถจะบอกว่าจะไปทาง Long Lake หรือ The Primeval Forest
แต่ช่วงที่เราไป เป็นช่วงพีค
คนเยอะมาก ระดับ 3-4 หมื่นคนทุกวัน
เค้าเปลี่ยนระบบใหม่
โดยเราต้องไปเข้าแถวก่อน แล้วรถบัสจะทะยอยเข้ามารับ และป้ายหน้ารถจะไม่มีบอกปลายทาง
ทำให้ไม่รู้ว่า จะได้รถไปฝั่งไหนกันแน่
บางคันพาไป Long Lake บางคันพาไป Forest บางคันไปจอดแค่ Tiger Lake
รถ 1 คัน จะมีช่องต่อคิว 2 ช่อง
ช่องแรกจะขึ้นด้านหน้ารถ
ช่องสองจะขึ้นด้านหลังรถ
แม้ว่าคนจะเยอะมาก
แต่รถบัสก็มีจำนวนมากด้วยเช่นกัน จึงทำให้ใช้เวลารอไม่นาน
ส่วนเราอยากนั่งฝั่งซ้าย เพราะจะดูวิว
เลยรอคันถัดไปเพื่อขึ้นเป็นคนแรกๆ ของรถคั้นนั้น เลือกได้อีก 😂
เราใช้เวลารอรถแค่ 10 นาที ก็ได้ขึ้นรถ นั่งฝั่งซ้ายตามต้องการ
แต่ยังไม่รู้ว่ารถจะพาไปเส้นทางไหน
จนกว่าจะถึง Nuorilang Center เค้าถึงจะบอก
ซึ่งอาจจะทำให้จัดแพลนยากขึ้นอีกสำหรับคนที่เข้าอุทยาน 2 วัน เพราะวันถัดไป รถอาจจะเจอรถพาไปเส้นเดิม ทำให้เสียเวลานั่งรถกลับมาอีก
รถเราใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก็มาถึง Nuorilang Tourist Center
รถจอดที่ถนน ด้านบนของ Center ซึ่งหมายความว่า รถคันนี้ จะไปส่งที่ Long Lake
Nuorilang Tourist Center
จะเป็นจุดศูนย์กลางของอุทยาน ตั้งที่อยู่บนเนินเขา
ตัวอาคารต่างๆ ที่เป็นศูนย์การค้า ศูนย์อาหาร จะอยู่ตรงกลาง
ป้ายรถไป Long lake จะอยู่บนถนนด้านบน
ป้ายรถไป The Primeval Forest หรือ Exit จะอยู่ถนนด้านล่าง
ซึ่งวันแรก เราไม่สนใจว่ารถบัสจะพาไปที่ไหนอยู่แล้ว วันที่สองค่อยเลือก
รถใช้เวลาต่อไปอีกประมาณ 20 นาที ก็ถึง Long Lake
ระหว่างทางจะผ่าน Five Colored Pond (สระ 5 สี) แต่เค้าไม่จอดส่งนะ จะไปส่งที่ Long Lake ทีเดียว
แล้วค่อยเดินกลับมาขึ้นรถที่ป้าย Five Colored Pond
ทะเลสาบยาว Long Lake 长海
เป็นทะเลสาบที่อยู่บนจุดสูงสุดของอุทยานจิ่วจ้ายโกว
และยังเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุด ลึกที่สุด และมีความจุมากที่สุดในอุทยานอีกด้วย
มีระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 3,042 เมตร
ซึ่งทำให้มองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เห็นถึงความมหัศจรรย์ของภูเขาและทะเลสาบที่ร้อยเรียงวางตัวดุจดั่งภาพวาด
ทะเลสาบนี้ น้ำจะไม่มีทางออกนอกจากการระเหยโดยตรง
น้ำจะไม่เอ่อล้นในฤดูฝน และไม่แห้งเหือดในฤดูแล้ง
จึงถูกเรียกว่า น้ำเต้าสมบัติ ที่ไม่สามารถเติมเพิ่มหรือรั่วซึมได้
บริเวณจุดลงรถ จะมีร้านขายของกิน ของที่ระลึก และร้านถ่ายรูป ผู้คนคึกคักเลยทีเดียว
ถึงคนจะเยอะมากกกกกกกก
แต่ด้วยพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ทำให้ไม่แออัด ยังพอมีที่ว่างให้แทรกตัวเข้าไปถ่ายรูปได้
จากจุดนี้ จะมีบันไดลงไปชั้นล่าง
พอเดินลงไป ก็จะมีทางเดินไม้เดินลัดเลาะทั้งสองฝั่งของทะเลสาบ
คนจะโล่งกว่าข้างบน
เราเดินทางไปทางขวาก่อน
จากนั้นก็จะเจอบันไดทางขึ้นไปด้านบน
เดินตามทางไปเรื่อยๆ จะมีป้ายบอกทางไปสระ 5 สี
ซึ่งห่างไปประมาณ 700 เมตร
ทางเดินเป็นไม้ ทำออกมาดี กว้างขวาง เดินง่าย
แต่เกลียดขั้นบันไดมากๆ เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง ปวดเข่าาาาา
มีห้องน้ำหลายจุด
ห้องน้ำสะอาด แต่ยังคงมีกลิ่นแรงเหมือนเดิม
ก่อนจะถึงสระ 5 สี จะเจอทางเดินแยกเป็นซ้ายขวา
ไปทางไหนก็ได้ ถึงทะเลสาบเหมือนกัน
แต่แนะนำว่า ไปทางซ้ายดีกว่า ถ้าอยากถ่ายรูปจุดซ้ายสุดของทะเลสาบ
พอใกล้ถึงทะเลสาบ จะเจอคนหยุดถ่ายรูปเยอะมาก
คุณกิตติคะ ตอนนี้คนทั้ง 4 หมื่นคน น่าจะรวมตัวกันอยู่ที่ทะเลสาบนี้แล้วค่ะ 😂
แต่ เห้ยยยย มันสวยจริงงงงงง และควรมีไม้เซลฟี่มากๆ
สระ 5 สี Five-Colored Pond 五彩池
หรือบางครั้งถูกเรียกว่า ทะเลสาบ 5 สี
เป็นสระที่มีขนาดเล็กที่สุด และน้ำใสมากที่สุดแห่งหนึ่งในอุทยาน
ถูกขนานนามว่า Eye of Jiuzhaigou
น้ำในสระนั้นมาจากใต้ดิน และจะไม่เป็นน้ำแข็งในฤดูหนาว
มุมสูงมันสวยอ่ะ น้ำสีฟ้า ไล่ระดับสีด้วย
แต่คนเยอะชิบหายเลย
เป็นจุดที่มีพื้นที่ไม่ใหญ่มาก ต่างจาก Long Lake ทำให้ดูแออัด
แต่คนมันแออัดแค่ฝั่งซ้ายนะ เพราะคนเดินส่วนใหญ่ลงมาเจอจุดนี้พอดี ก็อยากถ่ายรูปกัน
กลายเป็นต้องต่อคิวถ่าย
ถ้าขยับตัวไปเรื่อยๆ ทางขวาคนจะเริ่มบางตา หาที่ถ่ายรูปได้มากขึ้น
จากสระน้ำ 5 สี
ต้องเดินต่ออีกสักพัก ถึงจะเจอป้ายรถบัส
ที่นี่เค้าจะไม่ให้เราเดินข้ามถนน
เวลาป้ายรถอยู่อีกฝั่ง จะมีทางลอดใต้ถนนให้เดิน
ตรงจุดรอรถบัสจะมีตู้ขายน้ำ มีเก้าอี้พักคอย
เวลารถมารับ มันจะมาหลายๆ คันติดกัน จึงระบายคนได้ไว
เลยมีช่องทางต่อคิวหลายช่อง ไม่ต้องงง เข้าช่องไหนก็ได้
ตัวอย่าง ของเรามักจะเจอรถบัสมาพร้อมๆ กัน 2 คัน
ช่อง 1 จะเป็นทางขึ้นด้านหน้ารถบัสคันที่ 1
ช่อง 2 จะเป็นทางขึ้นด้านหลังรถบัสคันที่ 1
ช่อง 3 จะเป็นทางขึ้นด้านหน้ารถบัสคันที่ 2
ช่อง 4 จะเป็นทางขึ้นด้านหลังรถบัสคันที่ 2
รอไม่รถไม่นาน ไม่น่าเกิน 5 นาที
ก็ได้นั่งรถบัสกลับไปยัง Center
รถมาจอดที่ป้ายด้านบนของ Center ตอน 11 โมงกว่าๆ
เราเลยแวะกินข้าวที่นี่
ด้านบน จะไม่มีอะไรนอกจาก ตู้กดน้ำ/อาหาร
ต้องเดินลงมาด้านล่าง 1 ชั้น จะเจอศูนย์อาหาร ซึ่งมีด้วยกันหลายแห่ง
เราเข้าไปยังอาคารที่ดูใหญ่สุด
ตรงกลางจะมีที่นั่งส่วนกลาง
รอบๆ จะเป็นร้านอาหารมากมาย บางร้านมีที่นั่งในตัว
เราสั่งอาหารแล้วนำออกมากินที่ส่วนกลาง
หลังจากนั้น
ก็เดินตามป้ายไปยัง Nuorilang Waterfall
ซึ่งเป็นทางเดียวกับป้ายบัสไป The Primeval Forest และ ทางออกจากอุทยาน
โดยเส้นทางนี้จะต้องเดินผ่านร้านค้า อารมณ์เดียวกับเวลาไปเดินแม่สายอ่ะ
แต่เพื่อนได้ไม้เท้ามาอันนึงนะ ถือเป็นของที่ระลึกแล้วกัน แถมได้ใช้งานแน่ๆ
ใครที่เน้นเดิน แนะนำให้พกมาเองนะ
เดินตามป้ายไปเรื่อยๆ จะเจอทางลงไปด้านล่างอีกชั้น
มองหาป้ายที่จะนำเราไป Nuorilang Waterfall
จากจุดนี้ต้องเดินไปอีก 500 เมตร
ถามว่ามีป้ายรถบัสของ Nuorilang Waterfall มั้ย???? ตอบว่ามี๊
แต่ป้ายรถบัส ก็ห่างน้ำตกไปอีก 500 เมตร (ก็คือ ห่างจากจุดนี้ 1 กิโล) ยังไงก็ต้องเดินอยู่ดี 555 😂
เราเดินตามทางเดินไม้ไปเรื่อยๆ
ไม้เท้าที่เพื่อนซื้อมา เริ่มมีประโยชน์แล้ว เพราะว่าขั้นบันไดเยอะมากกกกกกกกกกกก
เดินไปสักพัก เริ่มได้ยินเสียงน้ำตก
ในที่สุดก็มาถึง
น้ำตกใหญ่กว่าที่คิด
เพราะว่าตอนเห็นรูป จะเห็นแค่ส่วนเดียว จริงๆ แล้วน้ำตกมันกว้างกว่าในรูป
แล้วก็เดินเข้าไปด้านในเรื่อยๆ
เพราะว่า ป้ายรถบัสน้านนนน อยู่ห่างไปอีก 500 เมตรจ่ะ 😅
สนับสนุนให้คนออกกำลังกายเนอะ
ระหว่างทาง เราจะได้ยินเสียงน้ำตก และลำธารตลอด
อากาศเย็นๆ เดินสบายๆ ธรรมชาติสุดๆ
จากนั้นก็จะเจอป้ายรถบัสอยู่อีกฝั่ง เราต้องลอดถนนไปอีกฝั่ง
อ้อ จากจุดนี้ สามารถเดินไปทะเลสาบแรดได้นะ แค่ 2.6 กิโลเอ๊ง
ถึงกับต้องมีป้ายเตือนด้วยความหวังดี
บริเวณป้ายรถบัส คนรอค่อนข้างน้อย
แต่รถก็น้อยด้วยแหละ เพราะรถส่วนใหญ่ จะพาคนขึ้นไปด้านบนมากกว่า
ด้านล่างรถจะมาเยอะช่วงเย็นๆ
ใช้เวลารอไม่นาน รถก็มา
นั่งรถไปไม่กี่นาทีก็มาถึงทะเลสาบแรด
ทะเลสาบแรด Rhinoceros Lake 犀牛海
เป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับสองในจิ่วไจ้โกว
ว่ากันว่าพระภิกษุผู้มีชื่อเสียงป่วยหนักได้ขี่แรดมายังสถานที่แห่งนี้
หลังจากดื่มน้ำจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ริมทะเลสาบ ก็หายเป็นปกติโดยไม่ต้องรักษาใดๆ
และทิ้งแรดอันเป็นที่รักไว้ที่นี่ จึงเป็นที่มาของชื่อ
เป็นทะเลสาบที่ใหญ่มาก
น้ำเป็นสีน้ำเงินเข้ม สวยมากกกกกก และใหญ่มากกกกก
และมีใบไม้เปลี่ยนสีค่อนข้างเยอะ
จากจุดนี้ สามารถนั่งรถไปลงตามจุดต่างๆ ได้
หรือใครแรงเหลือก็เดินเอา
ซึ่งเราเลือกเดิน แม้จะไม่ค่อยมีแรง 5555 ทรมานชีวิตกันไป 😆
ทางเดินจะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง
1. ฝั่งริมถนน จะเป็นทางเดินเลียบถนนไปนั่นแหละ
ข้อดีคือ เดินสบาย ไม่ค่อยมีขั้นบันได แล้วจะเห็นทะเลสาบต่างๆ มุมสูง
ข้อเสีย คือ แดดอาจจะร้อนไปหน่อย
2. ฝั่งด้านใน จะเป็นทางเดินในป่า แต่ทางเดินเป็นไม้นะ ทำออกมาดี
ข้อดีคือ ได้เดินใกล้ชิดทะเลสาบ เพราะเค้าจะทำทางเดินในระดับเดียวกัน
ข้อเสียคือ ทางขึ้นๆ ลงๆ และอ้อมโลก แต่ว่าไม่ได้เข้าป่าทึบนะ เราจะมองเห็นคนที่เดินอยู่อีกฝั่งแทบจะตลอดนั่นแหละ แต่เราเดินอ้อมกว่า
ให้ทายว่าเราเลือกทางไหน
...
แน่นอนว่า ฝั่งด้านใน 😂😂 ทำไมชอบหาความลำบากใส่ตัวก็ไม่รู้เหมือนกัน
ระหว่างทางจะผ่านทะเลสาบ และลำธารต่างๆ
แต่หลายจุดไม่ทราบชื่อ เพราะป้ายชื่อดันไปอยู่อีกฝั่ง
ทะเลสาบเสือ Tiger Lake 老虎海
อยู่ถัดจากทะเลสาบแรด
แต่ไม่ได้มีพระขี่เสือมาแต่อย่างใด
ชื่อของทะเลสาบนั้นมาจากเงาสะท้อนของต้นไม้บนผืนน้ำในทะเลสาบที่เป็นริ้วราวกับแถบลายบนตัวเสือ
ถัดจากทะเลสาบเสือ เดินต่อไปเรื่อยๆ สักพัก จะเจอทางเชื่อมไปยังอีกฝั่งเพื่อไปยัง Shuzheng Village ได้
เราเดินข้ามไปอีกฝั่ง เพื่อดู Shuzheng Water Mill เท่านั้น
Shuzheng Village 树正沟
เป็นหมู่บ้านทิเบตที่ตั้งอยู่ในหุบเขา Shuzheng ด้านหลังหมู่บ้านคือภูเขา Dago Nanshen ที่มีความสูง 4,200เมตร
แต่วันนี้เราจะขอข้ามหมู่บ้านนี้ไปก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาเที่ยวในหมู่บ้าน
Shuzheng Lakes 树正群海
เป็นกลุ่มทะเลสาบที่อยู่บริเวณด้านหน้าของ Shuzheng Village
ประกอบด้วย ทะเลสาบขนาดน้อยใหญ่ 19 จุด
ลักษณะเหมือนมรกตสีเขียว 19 ชิ้นที่ฝังอยู่ในภูเขาและหุบเขาลึก เชื่อมต่อกันด้วยต้นไม้สีเขียวและน้ำตกเล็กๆ
ซึ่งถ้ามองจากมุมที่เราเดินริมทะเลสาบจะมองไม่ค่อยออก
แต่วันพรุ่งนี้ เราจะมาดูทะเลสาบนี้ในมุมสูงกัน
Sleeping dragon Lake 卧龙海
ด้านล่างมีหินสีเหลืองนวล ซึ่งทำให้ดูเหมือนมังกรนอนสงบนิ่งอยู่ในน้ำ
ขอเรียนตามตรงว่า ดูอยู่นานมาก ไม่เห็นเป็นมังกรสักที 5555
สงสัยต้องไปดูจากมุมสูงฝั่งตรงข้าม
แต่สีของน้ำบวกกับใบไม้เปลี่ยนสี สวยมากกกกก เดินเพลินเลย
เอ๊ะ หรือนี่คือหัวของมังกร 5555 😆
เดินมาเรื่อยๆ จนมาถึง Sparkling lake
จะมีทางเดินไปเชื่อมกับอีกฝั่ง
Sparkling Lake 火花海
เป็นทะเลสาบเกิดใหม่หลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่
ได้ชื่อนี้มาจากเวลาแสงแดดส่องบนพื้นผิวทะเลสาบจะเปล่งประกาย
จากตรงนี้จะมีทางเดินขนานไปกับเส้นทางรถบัส
Double Dragon Lake 双龙海
เค้าบอกว่า จะมองเห็นจุดขาวๆ คล้ายมังกรสองตัว
แต่มันเป็นเรื่องก่อนที่จะถูกแผ่นดินไหวเล่นงาน
ตอนนี้ หลายๆ จุด สภาพเลยจะต่างจากคำบรรยาย
Double Dragon Lake Waterfall 双龙海瀑布
เป็นน้ำตกที่อยู่ถัดจาก Double Dragon Lake
เมื่อเดินมาจนน้ำตก ก็เวลา 4 โมงเย็นแล้ว
เอ๊ะ ที่นี่มันปิดกี่โมงนะ เหมือน Trip เขียนว่า 5 โมง 😕
แต่ต้องเดินอีก 2 กิโล จะถึง Bonsai Shoal
เลยบอกเพื่อนว่าต้องรีบแล้ว
รีบแบบใด ไม่ทราบ
แวะถ่ายทุกจุด
เพราะเห็นคนยังเดินกันเยอะ แล้วเค้าดูไม่รีบ 😂😂
จากน้ำตกนี้ จะมีทางเดินกลับไปริมถนน
ทางเดินริมถนน เออ เดินง่ายจริงด้วย ชีวิตดีขึ้นเลย 555 😆
Image of Goddress Woluosemo
เป็นหินบนเขาที่มีรูปร่างเหมือนเทพธิดา
ทะเลกกตั้งอยู่บนหน้าผาหินปูน
ใกล้จะ 5 โมงเย็นแล้ว แต่คนก็ยังเดินกันเยอะอยู่
และยังเห็นคนนั่งบัสขึ้นมาอยู่เลย เอ ... หรือเราจะจำเวลาปิดผิดกันนะ 😕
ตรงป้ายรถบัส จะมีคนอยู่เยอะมาก
แต่ไม่เห็นมีใครสนใจจะขึ้นรถกันเลย
Bonsai Shoal 盆景滩
ธารน้ำ ที่มีต้นหลิว ต้นสน ต้นไซเปรส ต้นหลิวอัลไพน์ และพุ่มไม้ต่างๆ ตั้งอยู่ในน้ำ ก่อให้เกิดบอนไซตามธรรมชาติหลากหลายชนิด
ตรง Bonsai Lake ก็มีป้ายรถบัส
รถขาลง มาหลายคัน แต่ส่วนใหญ่ เต็ม! และเค้าก็จะไม่จอด 😅
ถ้าเดินไปอีกป้าย ที่อยู่ไม่ไกลกัน จะเห็นหมู่บ้านอีกฝั่งที่เหมือนจะมีที่พักด้วย
เพราะเห็นนทท. ลากกระเป๋า เดินข้ามถนนเข้าไปในหมู่บ้าน
หลังจากรถขับผ่านไปหลายคัน รอเกือบ 10 นาที ก็มีรถมาจอด
คนเต็มรถเลย แต่ก็ได้นั่งนะ
นั่งไปประมาณ 10 นาที ก็ถึงทางออก
สรุปการเดินทางวันนี้
น่าจะเดินประมาณ 7-8 กิโลได้ 😵
เมื่อมาถึงทางเข้าออกอุทยาน ก็เดินออกมาตรงที่รถ Taxi มาจอดเมื่อเช้า
จริงๆ จะเดินกลับก็ได้แหละ ระยะทาง 1 กิโล
แต่ว่าเมื่อยแล้ว ไม่อยากเดิน อยากเซฟขาไว้พรุ่งนี้
ลองเรียก Didi ดู ปรากฎว่าเน่าสนิท
แถมพอกดได้ คิวก็ยาวเหยียด 😤
เลยเดินกลับไปหน้าอุทยานอีกครั้ง
แล้วข้ามไปฝั่งตรงข้าม
ตรงนี้จะมีคนรอเรียก Taxi อยู่
ใช้วิธีโบกรถเอา ไม่ใช่แค่ Taxi นะ เหมือนโบกรถทั่วไปเค้าก็จอด
แล้วบอกปลายทางเค้า ส่วนเค้าจะไปหรือไม่ไปก็อีกเรื่องนึง
ซึ่งส่วนใหญ่ ไม่ไป 😅 สงสัยจะใกล้เกิน
เพื่อนไปเรียก Taxi สักพัก ได้แบบมีคนอื่นนั่งมาด้วย (แต่จ่ายแยก)
ขากลับโดนไป 15 หยวน (2 คน)
รถจอดฝั่งตรงข้าม KFC
เดินกลับไปพักที่โรงแรม พักสักครึ่งชม. ก็เดินออกมาหาของกิน
เราค้นหาร้านจากแอพ Baidu
เลือกร้านหมาล่า ที่คะแนนรีวิวเยอะๆ และไม่ไกล
ได้ร้านนี้มา
เดินขึ้นชั้น 2 ไป
ก่อนอื่นขอดูเมนูก่อน (จะได้ดูราคาด้วย)
พอราคาโอเค ก็เข้าไปนั่ง
มีเมนูไม่มากนะ
ใช้ Google Translate ช่วย
เลือกซุป 2 อย่าง
กลัวหมาล่าเผ็ดเกินแล้วจะไม่มีตัวช่วย
น้ำซุปหมาล่า มีน้องหมีด้วยอ่ะ
ปล่อยน้องละลายไป 😟
ส่วนอาหาร ลองสั่งน้อยๆ ดูก่อน
เพราะปกติที่จีน เค้าให้เยอะอยู่แล้ว
แล้วก็จริงๆ
มาแต่ละอย่าง จานเบ่อเร่อเลย
รสชาติอร่อยดีนะ
สมกับคะแนนรีวิว
เพื่อนบอกเนื้อไม่คาวด้วย
หมาล่าเผ็ด แต่ไม่มาก
โอเคทุกอย่าง
หมดไป 200 กว่าหยวน
กินเสร็จ ก็เดินกลับโรงแรม
ทำธุระเสร็จก็รีบนอน เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าอีก
แต่ยังมีปัญหากับฮีตเตอร์ของโรงแรมเหมือนเดิม
ทำไมไม่ร้อนง่าาาาาาาาาาาาาาาาาา
นอนหนาวอีกแล้วววว 😵😵😵
🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น