ʕ•ᴥ•ʔ ♡ ยืนงงในดงจีน ปี 4 : Day 6 Go to Heishui 黑水县
Day 6 Go to Heishui 黑水县
31/10/2567
วันนี้เราต้องตื่นเช้ากว่าเมื่อวาน
เป้าหมายวันนี้คือ ไปเมืองเฮ่ยสุ่ย Heishui
การเดินทางไป Heishui นั้นต้องใช้เวลาเกือบทั้งวัน เนื่องจากระยะทางค่อนข้างไกล
สามารถเดินทางได้โดย
1. เหมารถ
ใช้เวลารวม 6 - 8 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพถนนและการจราจร
ค่าใช้จาย วันละประมาณ 1,300 หยวน (อันนี้เคยถามเพจที่รับจอง)
บางเจ้าต้องเหมา 2 วัน
2. บัส
เริ่มจาก
2.1 นั่งบัสจากจิ่วจ้ายโกว ไปลง เหม่าเสี้ยน Maoxian ใช้เวลา 6 ชั่วโมง มีแวะทานข้าวด้วย
2.2 นั่งบัสจากเหม่าเสี้ยน ไปลง เฮ่ยสุ่ย ใช้เวลา 2.5 - 3 ชั่วโมง
ใช้เวลารวม 9 - 10 ชั่วโมง
ค่าใช้จ่ายรวมประมาณ 160 หยวน
** บัสจิ่วจ้ายโกว รอบเช้าสุด ประมาณ 08.00/08.30
** บัสเหม่าเสี้ยน รอบสุดท้าย ประมาณ 14.30/14.50
** บัสจากจิ่วจ้ายโกวอาจจะไปถึงเหม่าเสี้ยน ช้ากว่า 14.00 และอาจจะไม่ทันบัสเหม่าเสี้ยนรอบสุดท้าย
** ถ้าไปไม่ทันบัสเหม่าเสี้ยน สามารถเหมารถไปได้ ราคาประมาณ 500 หยวน
3. รถไฟ + รถบัส
เริ่มจาก
3.1 นั่งบัสจากจิ่วจ้ายโกว ไปลง สถานีรถไฟหวงหลงจิ่วจ้าย ใช้เวลา 2.5 - 3 ชั่วโมง
3.2 นั่งรถไฟจากหวงหลงจิ่วจ้าย ไปลง สถานีรถไฟเหม่าเสี้ยน ใช้เวลา 1 ชั่วโมง
3.3 นั่งรถตู้จากสถานีรถไฟเหม่าเสียน ไปลง สถานีรถบัสเหม่าเสี้ยน ใช้เวลา 30 นาที
3.4 นั่งบัสจากเหม่าเสี้ยน ไปลง เฮ่ยสุ่ย ใช้เวลา 2.5 - 3 ชั่วโมง
ใช้เวลารวม 7 - 8 ชั่วโมง
ค่าใช้จ่ายรวมประมาณ 200 หยวน
** ต้องเลือกรอบรถไฟดีๆ ควรมีเวลาในการต่อรถบัสอย่างน้อย 1 ชม. เพราะต้องนั่งรถจากสถานีรถไฟมาจากสถานีรถบัสด้วย
เราเลือกเดินทางด้วยวิธีที่ 3 เนื่องจาก จองรถไฟทัน 😂😂😂
จริงๆ คือ รู้สึกว่ามันเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด ถ้าจะไปต่อรถบัสที่เหม่าเสี้ยน
เราจองรถไฟรอบ 10.47 ไปถึงเหม่าเสี้ยน 11.33
ยังไงก็ทันรถบัสรอบบ่ายสองแน่ๆ แต่อาจจะรอรถนานหน่อย
โดยตอนเช้า ต้องนั่งบัสจากจิ่วจ้ายโกว ไปสถานีรถไฟหวงหลงจิ่วจ้าย
เราสามารถไปขึ้นรถบัสได้ที่ Moon Bay Park 月亮湾-停车场
ห่างจากโรงแรมที่เราอยู่ไปประมาณ 700 เมตร
เลยเดินลากกระเป๋าไปตามฟุตบาท
ตอนแรกก็กลัวๆ เพราะค่อนข้างเงียบเหงา
แต่เดินไปสักพัก ก็จะมีคนลากกระเป๋าไปที่เดียวกัน
จุดขึ้นรถบัสสังเกตง่ายมาก มองหาตรงที่มีคนรออยู่เยอะๆ นั่นแหละ
ที่ปากทางเข้าจะมีเต้นท์สำหรับรอรถบัสอยู่
มองหารถบัสสีน้ำเงินรูปหมีแพนด้า (แบบเดียวกับที่นั่งมาจากสถานีหวงหลงจิ่วจ้าย)
แล้วขึ้นไปนั่งได้เลย
สถานีรถไฟเหม่าเสี้ยนนั้นตั้งอยู่บริเวณหุบเขา ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองไปประมาณ 30 นาที
นั่งมาได้ประมาณชั่วโมงนึง
ระหว่างทางพอถึงช่วง Jiuzhai Valley
ซึ่งอยู่ระหว่าง Jiuzhaigou กับ Huanglongjiuzhai หิมะตกกกกกกก ข้างหน้าขาวโพลนเลยยยย
ตื่นเต้น 😍 เจอครบทุกฤดูเลยทริปนี้ (ที่จิวจ้ายโกว มีฝนตกทุกคืนนะ โชคดีตอนกลางวันไม่ตก)
พอเลยจากอุทยานมา ก็จะเป้นทุ่งหญ้า ภูเขา และแม่น้ำ
รถใช้เวลา 2.5 ชั่วโมง ก็มาถึงสถานีรถไฟหวงหลงจิ่วจ้าย
โดยจะมาจอดตรงด้านหลังของอาคาร Tourist Service Center
เราลงจากรถ
แต่ยังไม่ได้จ่ายตังค์
เอ๊ะ ยังไง แล้วจ่ายที่ไหน 😕
คนขับหายไปแล้ว เอ๊าาาาาา ยังไงล่ะ 😗
เลยยืนรอหน้ารถบัสอยู่ 10 นาที
จนคนขับกลับมา ก็ขึ้นไปขอจ่ายเงิน
แต่คุยกันไม่รู้เรื่อง
เหมือนเค้าเข้าใจว่า เราจะไปจิ่วจ้ายโกว
แต่เราบอกว่า มาจากจิ่วจ้ายโกว แล้วไม่ได้จ่ายตังค์ พี่รับเงินหนูหน่อยยยยยย 😫
สรุปคุยไม่รู้เรื่องอยู่ดี
เค้าเลยพาไปห้อง ใน Tourist Center ไปคุยกับคนในห้องนั้น
ซึงก็คุยภาษาอังกฤษไม่ได้เหมือนกัน
ก็พิมพ์โดยใช้ Google Translate บอกเค้าไปเหมือนที่บอกคนขับนั่นแหละ
แต่เค้าเข้าใจแหะ แล้วก็ให้สแกน QR code จ่ายไป คนละ 51 หยวน
จากนั้น ก็ลากกระเป๋า
ลงบันไดเลื่อน ไปที่สถานี
*** แต่เดี๋ยวก่อน!! ถ้าเวลาเหลือ ยังไม่ควรลงมาที่สถานี เพราะมันไม่ค่อยมีอะไรขายยยยย แถมคนเยอะ ที่นั่งก็น้อย
ให้ไปรออาคาร Tourist Service Center II ที่อยู่ถัดไปจากจุดลงรถบัส
ในนั้นมีศูนย์อาหาร มีของขาย และมีที่นั่งเยอะกว่าในสถานี
สถานีไม่ใหญ่มาก
มีร้านค้าอยู่ร้านเดียว และมีโซนตู้กดน้ำหยอดเหรียญอยู่อีกฝั่ง
หน้าร้านจะมีโต๊ะกินข้าวอยู่
แต่คนนั่งกันเต็มทุกจุด เพราะใกล้เวลารถไฟรอบถัดไป (ที่ไม่ใช่รอบของเรา)
เรานั่งกินมาม่าที่นี่
ส่วนเพื่อนกลับออกไปข้างนอก ไปอาคารด้านบน
พอถึงเวลารถขบวนแรกออกไป (เราขบวนถัดไป)
สถานีก็โล่งเชียว
พอได้เวลาที่รถไฟของเราจะมาถึง
เค้าก็จะเปิดให้สแกนบัตร
ก็มองหาช่องที่มีเจ้าหน้าที่อยู่
ยื่น Passoport ให้สแกน
แล้วรีบไปที่ชานชาลา
เพราะรถไฟจะจอดแค่แป๊บเดียวววววววววววววว
แล้วตู้เราอยู่ท้ายสุด 😅
พอได้นั่งปุ๊บ ก็หลับบนรถไฟเลยจ้า
ใช้เวลา 1 ชม ก็ถึง เหม่าเสี้ยน
ใครจะมาต่อรถบัส ต้องเผื่อเวลาตรงนี้ไว้ด้วย
ตอนออกจากสถานีก็เอา Passport ให้เจ้าหน้าที่สแกนอีกรอบ
พอเดินออกมานอกสถานี จะเจอป้ายบอกว่ามีรถไปสถานีรถบัสอยู่ข้างหน้าเลย
รถตู้นั่งได้ประมาณ 12 คน
ราคาคนละ 10 หยวน
ที่วางกระเป๋าน้อย
แต่เค้าก็หาที่วางให้จนได้
ระหว่างทางค่อนข้างคดเคี้ยว เพราะสถานีรถไฟตั้งอยู่กลางหุบเขาเลย
ขับข้ามเขาอีกหลายลูกกว่าจะถึงตัวเมือง
รถใช้เวลาครึ่งชม. ก็มาจอดฝั่งตรงข้ามสถานีรถบัส
และอาคารของสถานี แม่งอยู่สูงชิบหายเลย ไม่มีลิฟต์หรือบันไดเลื่อนเลย
เราให้เพื่อนยืนรอด้านล่าง แล้วเราจะไปจัดการเรื่องตั๋วเอง นี่ชั้นเป็นหญิงถึก
พอขึ้นมาเจอตึกปุ๊บ ... นี่มัน ตึกร้างหรอฟระ 😕
มาถูกที่มั้ย ??? แต่รูปก็ตรงนะ แต่แบบ เปิดมั้ย ประตูอยู่ตรงไหน ??? 😗
เลยเดินอ้อมไปข้างๆ ไปจนถึงลานจอดรถ เออ ก็ถูกแหละมั้ง เห็นมีรถบัสจอดอยู่
แต่ทางเข้าอยู่ไหนล่ะ ?
เดินย้อนกลับไปทางเดิม
อ้อ ทางเข้าอยู่ข้างหน้านั่นแหละ แต่ต้องเดินไปทางซ้ายหน่อย
คืออาคารมันกำลังปรับปรุง แถมมีป้ายคาดตรงประตู เลยเหมือนอาคารร้างไปหน่อย
พอเดินเข้าไป เลี้ยวขวา จะเจอจุดจำหน่ายตั๋ว
บอกเค้าว่าไปเฮ่ยสุ่ย เค้าก็บอกมาว่ามีรถรอบ 14.50 นะ
เราก็โอเค
แต่ต้องใช้ Passport ในการซื้อ
เลยต้องวิ่งลงบันได ไปเอา Passport ของเพื่อน
และวิ่งขึ้นบันไดกลับไปซื้อตั๋ว
พอได้ตั๋วก็ถามเค้าว่ารถจอดตรงไหน
เค้าบอกจอดที่ลานจอดรถหลังอาคาร
ก็เลยต้องลงบันไดอีกรอบ ให้เพื่อนลากกระเป๋า อ้อมไปทางเดินขึ้นเนินทางขวา จะได้ไม่ต้องแบกกระเป๋าขึ้นบันได
** เห็นมีรีวิวบอกว่า รถลงไปจอดที่ป้ายบัสข้างล่าง เพื่อนก็เลยรออยู่ข้างล่าง จะได้ไม่ต้องเข็นกระเป๋าขึ้นๆ ลงๆ
แต่ชั้นอ่ะ ต้องวิ่งขึ้นๆ ลงๆ
เหนื่อยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย 😰
ในตั๋วรถจะระบุเลขรถมาให้เลย ทำให้หารถง่ายขึ้น
ตอนนี้รถจอดรอที่ลาดจอดรถแล้ว
จากนั้นก็สแกนกระเป๋าไปนั่งรอข้างใน
มีเวลาอีก ชม. กว่าๆ
ด้านในสถานี มีมินิมาร์ท 1 ร้านถ้วน
ห้องน้ำสะอาดดี แต่มืดไปนิด
พอใกล้เวลารถออก ก็เอาตั๋วไปสแกนอีกรอบ แล้วขึ้นรถไป
รถไม่ระบุที่นั่ง
รถบัสที่จีน บังคับว่าต้องคาดเข็มขัดทุกครั้ง ไม่งั้นสัญญาณเตือนจะดังตลอดทาง
จากนั้นรถก็ออกเดินทาง
แนะนำให้ด้านขวา ถ้าอยากชมวิว
ถนนจะเป็นทางขึ้นเขาหลายจุด แล้วเจอลูกรังบ้าง
นั่งไป 1 ชม.
เริ่มมึนหัว มวนท้อง และปวดท้อง จะปวดท้องตลอดทริปไม่ได้นะ 😣
เลยให้เพื่อนไปบอกคนขับว่าอยากเข้าห้องน้ำ
โชคดี เค้าจอดให้
เป็นร้านอาหารที่มีห้องน้ำ ค่าเข้าคนละ 1 หยวน
มีคนลงมาเยอะเลย
** มารู้ทีหลังว่า เค้าจอดที่ร้านนี้อยู่แล้ว เดี๋ยวขากลับมาก็เจอ
ห้องน้ำพอรับได้
เหมือนห้องน้ำตามปั๊มตจว. บ้านเรา ที่ไมใช่ปตท.
เป็นแบบนั่งยอง มีระบบกดน้ำ
แต่ว่าข้างในมืดมาก
แล้วหลายห้อง กลอนประตูเสีย เลยล็อคไม่ได้
กลิ่นค่อนข้างแรง
ทำธุระเสร็จ ยังปวดท้องอยู่
เลยขอคนขับเข้าห้องน้ำอีกรอบ
แต่เค้าน่าจะงง ว่าทำไมจะเข้าอีก
เลยส่งผู้ช่วยคนขับมาถาม ระหว่างนั้นก็จอดรถแป๊บนึง
พอรถจอด อาการก็หายไป
เลยบอกว่าไม่เป็นไรแล้ว (พอดีมีพี่คนไทยพูดจีนได้ นั่งอยู่ข้างๆ เลยช่วยอธิบายให้ 🙏)
คิดว่าคงเป็นอาการเมารถมากว่า เพราะมวนท้อง มึนหัวด้วย
งั้นหลับไปเลยดีกว่า 💤
รถใช้เวลาเกือบ 2 ชม. ครึ่ง
ในที่สุด ก็ถึงเฮ่ยสุ่ย
รถไม่ได้จอดสุดสายที่สถานีรถบัส Heishui แต่จอดในตัวเมืองแถวๆ รพ. ซึ่งห่างจากสถานีไป 2.5 กิโล
ซึ่งก่อนหน้านั้นเราตั้งใจว่าจะซื้อตั๋วกลับเลย แต่ว่าตอนนี้สถานีมันอยู่ไกลอ่ะ เลยไม่ได้ไปซื้อ
ถามพนักงานโรงแรม เค้าก็บอกว่าให้มาที่โรงแรมก่อน เดี๋ยวเค้าช่วยซื้อให้
แถวนี้มีรถ Taxi จอดอยู่หลายคัน
โรงแรมห่างจากที่นี่ประมาณ 4 กิโล
เลยเรียก Taxi ไปดีกว่า
ยื่นชื่อกับแผนที่โรงแรมให้เค้า
ขับแป๊บเดียว ก็มาถึงโรงแรม โรงแรม Heishui Guanshan Villa Homestay
ค่ารถ 10 หยวน
พนักงานโรงแรมดีมาก ช่วยเหลือทุกอย่างเลย
ตอนแรกว่าจะนั่ง Taxi กลับไปในเมือง เพื่อหาของกิน
แต่ว่าแถวนี้เรียก Taxi ยาก และมันเริ่มมืดแล้ว
เลยถามพนักงาน
เค้าบอกว่าจริงๆ เค้ามีอาหารเย็นให้สั่งนะ
แต่วันนี้แขกเค้าเยอะ แม่ครัวทำไม่ทัน
เค้าเลยแนะนำให้เราไปกินข้าวที่ร้านอาหารข้างนอกดีกว่า
ร้านอาหารอยู่ห่างไปทางด้านบน 200 เมตรได้
เราเจออยู่ 2 ร้าน
ฝั่งตรงข้ามเป็นร้านหมาล่าหม้อไฟ
ส่วนฝั่งเดียวกับเราเป็นร้านอาหารท้องถิ่น
เราเลือกกินร้านที่สอง
เมนูไม่มีรูป แปลมั่วๆ แล้วไปลุ้นเอา
สั่งมา 3 อย่าง
ปริมาณเหมือนกันกัน 6 คน
รสชาติโอเคแหละ
บางอย่างนี่ไม่ได้ตั้งใจว่าจะได้แบบนี้ แต่อร่อยนะ ไม่ค่อยเผ็ด
กินเสร็จก็เดินกลับมาโรงแรม
ระหว่างทางจะเจอมินิมาร์ทด้วย
พอมาถึงโรงแรม
ก็กะว่าจะมานั่งเล่นตรงระเบียง
ปรากฎว่า เจอฟ้าแล่บ 😱 เลยรีบกลับเข้าห้อง
ไปดูพยากรณ์อากาศ
เค้าบอกว่าคืนนี้มีฝนฟ้าคะนอง ให้ระวังฟ้าฝ่าด้วย
ขึ้นเตือนเป็นตัวแดงๆ แอบงงเหมือนกันว่ามันรุนแรงมากขนาดนั้นเลยหรอ
และสักพักฝนก็ตกจริงๆ แถมตกหนักด้วย
เอ๊าาาาาา แล้วอากาศวันพรุ่งนี้จะรอดมั้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย 😨
🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼🐼
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น